เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1610
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1610
หั่วหลงจู้ก็โกรธจนกัดฟันกรอด เขาพูดเสียงดังว่า “ลู่ฝาน นายกล้าขัดคำสั่งพี่ชายฉันเหรอ ลูกหลานต่างแซ่ที่ต่ำตมอย่างนายรนหาที่ตายใช่ไหม!”
ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ มองสองพี่น้องที่หมดหนทางจะเยียวยาแล้วพูดเบาๆ ว่าขฌ “ฉันกำลังทำเรื่องที่ฉันคิดว่าถูกต้อง ถ้าคุณชายทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฉันก็ดูอยู่ข้างๆ เถอะ”
พูดจบ ลู่ฝานเหาะเขาไปหาสุ่ยหมิงคง และหยุดลงตรงหน้าพวกเขา
ประกายประหลาดแวบขึ้นนัยน์ตาสุ่ยหมิงคงกับสุ่ยโม่หราน มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายจะช่วยเราจริงเหรอ”
ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ขยับริมฝีปากส่งกระแสจิต “อย่าลืมสัญญาของเรา!”
เพียงประโยคเดียว ทำให้สุ่ยหมิงคงกับสุ่ยโม่หรานเชื่อเขาชั่วคราว
สุ่ยหมิงคงสะบัดมือเอายาออกมาหนึ่งเม็ด โยนเข้าปากตัวเองแล้วพูดเสียงเบาว่า “ฉันยังมีแรงสู้ได้อีกรอบ”
สุ่ยโม่หรานพูดเสียงดังว่าฝภ “ฉันก็ยังสู้ได้เหมือนกัน”
ความฮึกเหิมพลุ่งพล่านอยู่นัยน์ตาทั้งสองคน ลู่ฝานกลับส่งกระแสจิตพูดต่อว่า “ทำไมต้องสู้ด้วย ให้คนอื่นเอาเปรียบรึ”
ทั้งสองคนอึ้งไป มองลู่ฝานอย่างสงสัย
ลู่ฝานค่อยๆ ยกยิ้มมุมปาก ส่งกระแสจิตพูดว่า “พวกนายแกล้งตายเป็นไหม!”
อีกด้านหนึ่ง หั่วหลงจู้โมโหมาก จะเหาะเข้ามาสู้เอาเป็นเอาตายกับลู่ฝาน!
ขณะนั้นหั่วหลงชิ่งรั้งเขาไว้แล้วพูดว่า “หลงจู้ อย่าบุ่มบ่าม”
หั่วหลงจู้พูดเสียงดังว่า “พี่จะดูลู่ฝานอวดดีแบบนี้เหรอ เขายังใช่คนใช้ของตระกูลหั่วไหม!”
หั่วหลงชิ่งกัดฟันพูดว่า “ปล่อยเขาไปสู้เถอะ ตอนนี้เราขัดแย้งกันเองไม่ได้ คนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา อีกทั้งนายไม่คิดเหรอว่าเขาออกไปสู้ตอนนี้ อันที่จริงเป็นผลดีกับเราไม่ใช่เหรอ นายลองคิดดูดีๆ”
หั่วหลงจู้สูดหายใจลึก ใจเย็นลงเล็กน้อย
“พี่จะบอกว่าลู่ฝานไปสู้ตอนนี้ เราจะตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัวงั้นเหรอ”
หั่วหลงชิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องสู้กันอยู่วันยังค่ำ ให้พวกเขาสู้กันไป สู้เสร็จเราค่อยลงมือ”
หั่วหลงจู้กัดฟันพูดว่า “ได้ แต่ฉันจะกำจัดลู่ฝานด้วยมือตัวเอง!”
หั่วหลงชิ่งพูดเสียงเย็นชาว่า “ฉันก็อยากกำจัดสุ่ยหมิงคงด้วยมือตัวเองเหมือนกัน!”
ทั้งสองคนแอบกัดฟัน ยืนอยู่ไกลๆ
มู่จึฉีพูดว่า “แย่แล้วญฌ คิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะมา ทำไมไอ้หมอนี่ถึงก่อกวนไปทั่วทุกที่เลยนะ!”
จินอีหมิงพูดว่า “ลูกธนูขึ้นสายเต็มเหนี่ยว จำต้องยิงออกไป แค่ลู่ฝานคนเดียวเท่านั้น เขามีสุ่ยหมิงคงที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ด้วย แล้วก็สุ่ยโม่หรานที่วิทยายุทธไม่เท่าไร ไม่จำเป็นต้องกลัว กำจัดพวกเขาทิ้งซะ”
ถู่ห่วงหันไปมองพวกหั่วหลงชิ่งแล้วพูดว่า “เหมือนไอ้โง่สองคนนั้นคิดจะตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัว!”
จินอีหมิงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่าญญ “จากความสามารถของพวกเขา ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ พวกเขาก็สู้ไม่ได้อยู่ดี หึหึ แต่เราเหลือพลังไว้หน่อยดีกว่า เผื่อพวกเขาลงมือกะทันหัน!”
“ได้!”
“ไม่มีปัญหา!”
ถู่ห่วงกับมู่จึฉีตอบด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นทั้งสามคนปล่อยพลังชี่ออกมาอีกครั้ง มือบีบวิชา แสงห้าธาตุรวมตัวกัน
ทางด้านนี้สุ่ยหมิงคงกัดฟัน “ลู่ฝาน นายแน่ใจเหรอว่าแกล้งตายได้ผล”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เชื่อฉันสักครั้งเถอะ เพราะตอนนี้พวกนายไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว บางทีถอยหนึ่งก้าวสู่ฟ้าทะเลกว้าง เป็นไง จะเชื่อฉันไหม”
สุ่ยโม่หรานกับสุ่ยหมิงคงมองหน้ากันแล้วพยักหน้าช้าๆ
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ดีมาก งั้นเราเริ่มกันเลย แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นต้องแสดงนิดหน่อย!”
เมื่อพูดจบลู่ฝานเอาของที่หั่วหลงจู้ให้เขาออกมาทันที
โยนจานค่ายกลออกมา ปล่อยหุ่นเชิดออกมา ลู่ฝานตะโกนเสียงดังว่า “สังหาร!”