เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 162
จ้าวคั่วถอยหลังไปหลายก้าว เขาคิดไม่ถึงว่า ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขา จะโดนเตะจนบาดเจ็บได้
จ้าวคั่วก้มลงมองบาดแผลตัวเอง แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
หานเฟิงยืนหอบหายใจอยู่ที่เดิม ให้ตายเถอะ เตะไปขนาดนั้น แต่กลับทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บเล็กน้อย นักบู๊ของคณะกำแหงเป็นพวกกล้ามเนื้อแข็งแกร่งจริงๆ
“นายทำร้ายฉันได้ ฉันประเมินนายต่ำไป บอกชื่อนายมา ฉันไม่ทำร้ายคนไร้นาม”
จ้าวคั่วพูดอย่างจริงจัง
หานเฟิงก่นด่าออกมาว่า “ทำเป็นเสแสร้ง ทำร้ายฉันมาตั้งนาน ยังมาบอกว่าไม่ทำร้ายคนไร้นาม ฉันหานเฟิงแห่งคณะหนึ่งเดียว จำเอาไว้ให้ดี”
หานเฟิงด่าอย่างไม่เกรงใจ ทำให้จ้าวคั่วสีหน้าบูดเบี้ยว
นักเรียนคนอื่นพากันช็อก ใช้พละกำลังแดนปราณในทำร้ายแดนปราณนอกอย่างจ้าวคั่วได้ พละกำลังนี้ ไม่ได้ด้อยเลย!
“หานเฟิงใช่ไหม ฉันจะดึงลิ้นนายออกมาให้ได้ ไอ้เลวสมควรตาย”
พูดพลาง จ้าวคั่วปล่อยพลังปราณออกมา พลังปราณสีขาวหนึ่งชั้นเหมือนเครื่องแต่งกายนักบู๊อยู่บนตัวจ้าวคั่ว
เครื่องแต่งกายอันแข็งแกร่ง ทำให้จ้าวคั่วดูดุดันเป็นอย่างมาก
จ้าวคั่วยกหมัดขึ้นมา ซัดหมัดโจมตีหานเฟิงกลางอากาศ
“แรงพยัคฆ์ร้าย!”
ความเคลื่อนไหวในอากาศห่างออกไปเป็นสามสิบเมตร พลังของจ้าวคั่วโดนบนตัวหานเฟิง
เสียงดังอึกทึก หานเฟิงกระเด็นออกไปสองฟุต
จ้าวคั่วก้าวออกมา ฝ่าเท้าทำให้พื้นเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ จากนั้นกระแทกหมัดออกไปอีก
“เสือบำราบป่า!”
พลังปราณทั้งตัวปลดปล่อยออกมา เสือขาวพุ่งออกไปด้วยเสียงคำรามที่ดังก้องไปทั่วป่า มันกระแทกเข้ากับร่างกายของหานเฟิง
หานเฟิงกัดฟันยืนหยัด ฝืนไม่ให้ล้มลง
รอบฝ่ามือแตกออก เสื้อโดนลมพัดจนเสียงดังพึ่บพั่บ
ทันใดนั้น พลังปราณเสือขาวระเบิดออกมา
เสียงดังตู้ม หานเฟิงล้มลงกับพื้น เปลือกตาลู่ฝานกระตุกอย่างแรง พุ่งออกไปประคองหานเฟิง และเอายายาจิตนิ่งออกมาจากเอว ป้อนให้หานเฟิง เป็นยาเม็ดระดับสี่ ยังไงก็มีประสิทธิภาพรักษาบาดแผลด้วย
คนรอบๆ พากันอึ้ง สายตาพวกเขาไม่ได้จ้องไปที่หานเฟิง แต่จ้องไปที่จ้าวคั่ว
เลือดไหลลงจากหน้าผากจ้าวคั่ว กระบี่ฟ้าครามด้านหลังเขาส่งเสียงคำราม ปักอยู่บนแผ่นหิน อีกแค่นิดเดียว เขาเกือบโดนกระบี่ฟ้าครามแทงหัว จ้าวคั่วหันไปมองกระบี่ด้านหลัง เหงื่อไหลลงจากหน้าผาก
ตอนเสือขาวระเบิดออกมา หานเฟิงขว้างกระบี่ออกไป
ไม่มีใครเห็นเส้นทางของกระบี่ เห็นเพียงรอยกระบี่บนหน้าผากจ้าวคั่ว
“ไอ้เด็กนี่……”
จ้าวคั่วก่นด่าอะไรไม่ออก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังออมมือไว้ ถ้าต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย เขาต้องตายแน่นอน
นักเรียนข้างๆ พากันกลืนน้ำลาย คนที่ชื่อหานเฟิง มีความสามารถจริงๆ
จ้าวคั่วหน้าเปลี่ยนสี จัดการไอ้เด็กแดนปราณในเพียงคนเดียว ทำให้ตัวเองเกือบตาย เขาอับอายเป็นอย่างมาก หันไปดึงจ้าวหลิง เตรียมจะเดินออกไป
แต่ขณะนั้น มีเสียงดังขึ้นด้านหลัง
“ทำร้ายคนอื่น แล้วจะหนีไปอย่างนั้นเหรอ”
จ้าวคั่วหันมา เห็นใบหน้าโมโหของลู่ฝาน ขณะเดียวกัน จ้าวคั่วสัมผัสได้ถึงพลานุภาพอันแหลมคม ราวกับอาวุธวิเศษ
“งั้นนายจะเอายังไง”
จ้าวคั่วพูดอย่างเย็นชา
ลู่ฝานดึงกระบี่หนักด้านหลังออกมา พูดด้วยสีหน้าโมโหว่า “นายกล้าทำร้ายศิษย์พี่ฉัน เท่ากับรนหาที่ตาย”