เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1622
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1622
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดว่า “ก็เหมือนกับที่เธอพูดเมื่อกี้……เดี๋ยวนะ หลิงเหยาเธอหมายความว่าหั่วหลงจู้จะโดนไล่ออกจากประเทศตันเซิ่งเหรอ”
หลิงเหยาพยักหน้าแรง ลู่ฝานดีใจทันที “เมื่อไร เราตามทันไหม”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “สิ่งสำคัญอยู่ตรงนี้แหละ ต้องเป็นหลังจากนายประลองเสร็จแน่ๆ เมื่อหั่วหลงจู้กลับมาถึงตระกูลหั่ว เขาต้องโดนไล่ออกไปแน่ๆ นายต้องหาวิธีตามกลับมาหลังทำสำเร็จ หลังจากนั้นเรา……”
ลู่ฝานพูดต่อ “หลังจากนั้นเราจะได้ถือโอกาสออกไปกับเขาใช่ไหม”
หลิงเหยาพูดว่า “ใช่ อย่างน้อยเรายังพูดว่าไปส่งเขาได้ พาเขาไปส่งชายแดนอากาศเวิ้งว้าง นี่คือโอกาสที่ดีที่สุด เราจะพลาดไม่ได้ ลู่ฝานนายต้องหาวิธีทำให้สำเร็จให้ได้”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เข้าใจแล้ว อีกทั้งฉันยังนึกสิ่งอื่นด้วย”
หลิงเหยาพูดอย่างประหลาดใจ “อะไรเหรอ”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ต่อไปเธอก็รู้เอง”
หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนช่วงนี้นายก็เตรียมตัวอยู่เหมือนกัน เป็นไงล่ะ การมีชื่อเสียงในประเทศตันเซิ่งรู้สึกยังไงบ้าง ฉันได้หน้าจากนายเยอะเลยนะ ตอนนี้พอลูกหลานตระกูลหั่วเจอฉัน พากันเรียกฉันว่าพี่หลิงเหยา!”
ลู่ฝานพูดว่า “รู้สึกไม่ต่างอะไรกับที่ประเทศอู่อาน อีกสามวันก็จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของฉันกับสุ่ยหมิงคงแล้ว ถ้าเอาชนะเขาได้ฉันจะได้ไปทำความเข้าใจใต้ต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์ ถึงตอนนั้นค่อยแอบเอาน้ำยางมานิดหน่อยน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
หลิงเหยาพูดว่า “ลู่ฝาน นายทำได้แน่นอน จำได้หรือเปล่าก่อนเรามาประเทศตันเซิ่ง เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ”
ลู่ฝานพูดว่า “ใช่ เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หลิงเหยา เธออยู่ในตระกูลหั่วก็ระวังตัวให้มาก ตระกูลหั่วไม่ได้โง่เขลาอย่างที่เธอจินตนาการไว้”
หลิงเหยาพูดว่า “ฉันเข้าใจ งั้นนายไปทำอะไรก็ไปเถอะ อย่าเที่ยวเดินเล่นมั่วซั่ว ตั้งใจกับการประลองอีกสามวันนะ”
ลู่ฝานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แสงห้าธาตุสรวงสวรรค์ค่อยๆ หายไป
ลู่ฝานสะบัดมือปัดเปลวไฟรอบๆ ออกไป
แต่จู่ๆ เขาพบว่าตอนนี้รอบตัวไม่มีใครเลย
ลู่ฝานตกใจเล็กน้อย เอามุกเวิ้งว้างกับมุกมังกรมาไว้ในมือ
ขณะนั้นเสียงไอดังขึ้นเบาๆ
ลู่ฝานเห็นเด็กคนหนึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม
เด็กคนนี้ดูแปลกๆ ท่าทางประมาณ 7-8 ขวบแท้ๆ แต่นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกายที่ดูผ่านอะไรมาอย่างโชกโชนและลึกซึ้ง
เขาแค่นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น แต่ลู่ฝานกลับสัมผัสถึงพลานุภาพน่ากลัวปะทะเข้ามาที่ใบหน้า
เด็กเงยหน้าขึ้นมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “คุยเสร็จแล้วเหรอ มานั่งคุยกับฉันสิ”
ลู่ฝานมองเขาอย่างสงสัยแล้วเดินเข้าไปขมวดคิ้วถาม “คุณเป็นใคร”
เด็กยิ้มแล้วพูดว่า “นายไม่ต้องถามหรอก ฉันก็ไม่บอกหรอก กลัวพูดออกไปแล้วนายจะตกใจ นั่งสิ!”
เด็กเหวี่ยงมือเบาๆ จู่ๆ ลู่ฝานสัมผัสถึงพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้ปกคลุมรอบตัวเขา กดเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้
เด็กเหวี่ยงมืออีกครั้ง แหวนจิ่วเซียวในมือลู่ฝานลอยออกไปเอง แหวนร่วงลงบนมือเด็ก
ลู่ฝานพยายามจะเอาแหวนคืน แต่เขาเพิ่งยื่นมือออกมาก็รู้สึกว่ามีพลังน่ากลัวกดแขนเขาเอาไว้จนไม่สามารถขยับได้
ลู่ฝานกัดฟันพูดเสียงดุว่า “นี่แหวนของฉัน”
เด็กเล่นแหวนแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่ของนาย แหวนจิ่วเซียว ไม่ได้เห็นหลายปีแล้ว นายคิดว่าตัวเองคู่ควรใส่แหวนวงนี้ไหม”
ลู่ฝานดึงมือกลับมาแล้วตอบว่า “คู่ควร ใต้หล้านี้ไม่มีใครคู่ควรเท่าฉันแล้ว”
เด็กพูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่ถ่อมตัวเลยสักนิด น่าเสียดายที่แหวนจิ่วเซียวอยู่ในมือนาย เป็นได้แค่เครื่องมือเก็บของเท่านั้น”
พูดพลาง เด็กโยนแหวนจิ่วเซียวกลับมาให้ลู่ฝาน
ลู่ฝานรีบรับแหวนมาเก็บไว้แล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสมาหาฉันเพราะอะไรกันแน่”
เด็กยิ้มแล้วพูดว่า “เรียกว่าผู้อาวุโส ใช้ได้เลยนี่ ทำให้ฉันรู้สึกดีกับนายเล็กน้อย มีคนบอกว่าผู้สืบทอดสายเลือดจิ่วเซียวในปัจจุบันเป็นคนธรรมดา แต่สองสามวันก่อนหน้านี้ฉันได้ข่าวมาอีกว่าคนธรรมดาคนนี้ไม่ใช่แค่เอาชนะลูกหลานห้าตระกูลใหญ่ด้านวิชายา ด้านวิชาก็ไม่น้อยหน้าเลย ใกล้สู้รอบสุดท้ายกับเด็กตระกูลสุ่ยแล้วใช่เปล่า”
ลู่ฝานตอบว่า “เกรงว่าก็ยังไม่เข้าตาผู้อาวุโสอยู่ดี”
เด็กพยักหน้าพูดว่า “ใช่แล้ว จากความสามารถของนายตอนนี้ ยังไม่มีค่าให้ฉันให้ความสำคัญ ขนาดชื่อนายฉันยังขี้เกียจจำเลย แต่แหวนของนายเป็นเพื่อนเก่ากับฉัน ฉันแค่แวะมาดูมัน รำลึกถึงเพื่อนเก่าสักหน่อย”
ลู่ฝานได้ยินแล้วรู้สึกแปลกๆ เป็นเพื่อนเก่ากับแหวน หมายความว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของแหวนจิ่วเซียวคนก่อนเหรอ
ไม่น่าจะใช่อาจารย์หวูเฉิน ถ้าอาจารย์หวูเฉินมีเพื่อนในประเทศตันเซิ่ง จะไม่บอกเขาได้อย่างไร
งั้นนับไปก่อนหน้านี้อีก งั้นก็คือพวกเจ้าสำนักในตำนานน่ะสิ
เด็กมองประกายวูบไหวนัยน์ตาลู่ฝาน ก็เดาได้ว่าลู่ฝานกำลังคิดอะไร เขายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องคาดเดาตัวตนฉันหรอก ถึงเดาได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันแค่อยากรู้ว่านายมาประเทศตันเซิ่งทำไม ถ้ามาหาคน คนนั้นคือใคร ได้เจอหรือยัง ถ้ามาหาของ หาของอะไร สำคัญมากหรือเปล่า บอกฉันมาให้หมด”
ลู่ฝานมองเด็กอย่างตกตะลึงเล็กน้อย จู่ๆ มีแสงแวบขึ้นในหัว ลู่ฝานพูดเสียงเบาว่า “ฝ่าบาท!”
นัยน์ตาเด็กฉายแววประหลาด “ใช่ นายรู้ว่าฉันเป็นใครจนได้ งั้นนายจะบอกความจริงฉันไหม”