เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1639
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1639
ที่สวรรค์ชั้นหก เงาของประมุขประเทศตันเซิ่งถอยออกมาจากหลุมดำช้าๆ กลับมายังทะเลเมฆ
รอยยิ้มบนหน้าประมุขประเทศตันเซิ่งหายไปหมดแล้ว ถูกแทนที่ด้วยความผ่านโลกมาอย่างโชกโชน
“สำนักจิ่วเซียว เทพบู๊เสินเซียว เหอะๆ ไอ้ปัญญาอ่อนที่อวดดีหลงตัวเอง รู้เพียงแค่ทุ่มสุดชีวิต ทำไมฉันต้องคิดถึงนายด้วย เพราะนายเคยช่วยชีวิตฉันงั้นเหรอ เพราะนายทิ้งฉันตอนวินาทีสุดท้ายอย่างนั้นเหรอ”
พูดพลาง นัยน์ตาของประมุขประเทศตันเซิ่งมีน้ำตารื้นขึ้นมา
เขาคิดถึงเรื่องราวมากมายในอดีต มีทั้งสุขและทุกข์ แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เขาแทบขาดใจด้วย
จู่ๆ ตัวของประมุขประเทศตันเซิ่งหายไปจากที่เดิม มิติกะพริบไม่หยุด เหมือนมีเงาคนทะลุผ่านท่ามกลางฟ้าดิน
ผ่านไปไม่นานเงาของประมุขประเทศตันเซิ่งปรากฏข้างหน้าประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ประมุขประเทศตันเซิ่งยื่นมือไปผลักประตูหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ สิ่งแรกที่ปรากฏในสายตาคือผู้อาวุโสชุดดำ
“มาแล้วเหรอ”
ผู้อาวุโสชุดดำพูดเสียงเบาโดยไม่หันมามอง
ประมุขประเทศตันเซิ่งเดินมาข้างผู้อาวุโสชุดดำ เงยหน้ามองป้ายวิญญาณนับไม่ถ้วนด้านหน้า
เมื่อยื่นมือออกมา ท่ามกลางป้ายวิญญาณมากมาย ป้ายวิญญาณของเทพบู๊เสินเซียวค่อยๆ ลอยลงมาในมือประมุขประเทศตันเซิ่ง
“นายรู้เหรอว่าฉันจะมา” ประมุขประเทศตันเซิ่งถามขึ้น
“ฉันรู้ว่านายจะกลับมาไม่ช้าก็เร็ว”
ผู้อาวุโสชุดดำตอบเสียงเบา
ใช้ฝ่ามือลูบป้ายวิญญาณของเทพบู๊เสินเซียว ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดว่า “อันที่จริงฉันเกลียดเขา”
ผู้อาวุโสชุดดำพูดอย่างราบเรียบว่า “คนเกลียดเขาเยอะแยะ ฉันก็เคยเป็นเช่นนั้น”
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดว่า “ความเกลียดของนายไม่เหมือนกับฉัน นายเกลียดเขาเพราะเคยทิ้งหินประหลาด เกลียดที่เขาทำให้สำนักจิ่วเซียวแยกกันไปคนละทิศคนละทาง”
ผู้อาวุโสชุดดำพูดขัดจังหวะเขา “ความเกลียดเหมือนกันทั้งนั้นแหละ เป็นความโกรธที่ทะลักออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ แทบจะแผดเผาฟ้าดิน สุดท้ายกลับแผดเผาตัวเอง”
ประมุขประเทศตันเซิ่งส่ายหน้า “ไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกันเลยสักน ความเกลียดของนายยังให้อภัยได้ ตอนเขานำสำนักจิ่วเซียวไปสู้กับผู้ฝึกชั่วร้าย วินาทีที่แสงสว่างจ้า นายก็ให้อภัยเขาแล้ว แต่ฉันไม่เหมือนกัน!”
เพียงประโยคเดียวทำให้ผู้อาวุโสชุดดำก้มหน้าลง
เสียงของประมุขประเทศตันเซิ่งดังก้องไปทั่วหอสวรรค์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ว่างเปล่า
ผู้อาวุโสชุดดำพูดช้าๆ ว่า “ทุกอย่างที่เขาทำ ไม่ละอายต่อฟ้าดิน ไม่ละอายแก่ใจ เขาเป็นคนใจคอกว้างขวางและตรงไปตรงมา เกิดในแสงสว่าง สู้ในแสงสว่าง ตายในแสงสว่าง ไม่มีเสียใจภายหลัง!”
จู่ๆ ประมุขประเทศตันเซิ่งหัวเราะ หัวเราะจนน้ำตาไหล
“คนดีอายุสั้น เขาเป็นคนปัญญาอ่อนสุดๆ มีพลังแต่ไม่ใช้ มีทางลัดให้เดินก็ไม่เดิน ออกไปสู้ ไปฝ่าฟันด้วยตัวเอง สุดท้ายตายไปแม้แต่ศพก็หาไม่เจอ นายรู้ไหมว่าเขาพูดอะไรกับฉันก่อนตาย”
ประมุขประเทศตันเซิ่งหันมามองผู้อาวุโสชุดดำแล้วเอ่ยขึ้น
ผู้อาวุโสชุดดำส่ายหน้าช้าๆ
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดว่า “เขาพูดว่า อาซิง ฉันตายทุเรศมากใช่ไหม”
ผู้อาวุโสชุดดำหลับตาลง ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดต่อ “ฉันบอกว่าใช่ นายทุเรศสุดๆ ไปเลย ถ้าซูหยุนเห็นสภาพนาย ต้องไม่รอนายแล้วแน่ๆ หลังจากนั้นเขาก็ผลักฉันออก ตายแบบไม่เหลือแม้แต่ซาก”
ประมุขประเทศตันเซิ่งเหวี่ยงมือเบาๆ ป้ายวิญญาณของเทพบู๊เสินเซียวลอยกลับไป
น้ำตานัยน์ตาหายไปอย่างรวดเร็ว ประมุขประเทศตันเซิ่งกลับมาเป็นเหมือนเดิม นัยน์ตามีประกายล้ำลึก
ผู้อาวุโสชุดดำพูดว่า “คนจากไปแล้ว เสียใจด้วยนะฝ่าบาท”
ประมุขประเทศตันเซิ่งหันมามองผู้อาวุโสชุดดำแล้วพูดว่า “สำนักจิ่วเซียวของพวกนายทารุณเขาจนเป็นแบบนี้ คนดีคนหนึ่งโดนพวกนายประชดประชันจนเหลือทน สำนักหลอกลวงผู้อื่นเพื่อชื่อเสียงทำลายคนปัญญาอ่อนที่เพียงรู้จักแต่การใช้กำลัง ดังนั้นฉันจึงช่วยไอ้เลวพวกนั้นทำลายสำนักจิ่วเซียวของพวกนาย ฉันจะให้มันตายตามไปด้วย”