เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 165
หานเฟิงหัวเราะ แล้วถูมือไปมา “เร็วสิๆ เขาต้องการให้ฉันเอาชนะคนในอันดับบู๊ไม่ใช่เหรอ นายเอาชนะจ้าวคั่ว แน่นอนว่านายต้องแทนที่ชื่อของเขา ฉันเอาชนะนายได้ก็จบแล้ว นายรู้อยู่แล้วนิ หลับตาข้างหนึ่งอะไรทำนองนั้น……ฮ่าๆๆๆ”
เมื่อพูดถึงตอนท้าย หานเฟิงเสียงเบาลง
ลู่ฝานเงยหน้ามองหุ่นทองสำริดทั้งสองตัว วิธีนี้ได้เหรอ แต่ลองดูสักครั้งก็ได้
หลิงเหยาฟังทั้งสองปรึกษากัน เอามือป้องปากแอบขำ ไอ้เลวสองคนนี้ ฉลาดจริงๆ
ทันใดนั้น หานเฟิงยืดตัวตรง มองลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน เมื่อกี้นายสู้ได้ไม่เลวเลย แต่มีปัญหาอยู่เล็กน้อย ให้ศิษย์พี่ชี้แนะนายละกัน เพื่อไม่ให้นายเกิดความยโส ไม่เห็นใครในสายตา”
ลู่ฝานกลั้นขำ เอากระบี่หนักออกมา แล้วพูดว่า “งั้นเหรอ แล้วทำไมเมื่อกี้ศิษย์พี่หานเฟิง ถึงโดนซัดจนเละแบบนั้นล่ะ”
หานเฟิงหน้าแดง พูดออกมาว่า “เมื่อกี้ฉันยอมให้ไอ้เด็กนั่นเท่านั้น นายคิดว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ ดูกระบวนท่า ศิษย์พี่สอนวิชากระบี่ที่ชื่อศิษย์น้องล้มลง”
หานเฟิงสะบัดมือ กระบี่ฟ้าครามที่หล่นอยู่ข้างๆ ลอยกลับเข้ามาในมือ เมื่อเห็นฉากนี้ คนจำนวนมากตาเป็นประกาย
จากนั้น หานเฟิงพุ่งเข้าไป แทงเข้าไปหาลู่ฝานแบบเบาๆ
ไม่เห็นพลังปราณอะไรเลย แต่ต่อมา เหมือนตัวลู่ฝานโดนกระบี่หลายสิบเล่ม ตัวสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นหงายหลังล้มลงไป
“ศิษย์พี่หานเฟิง เก่งจริงๆ ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่ ศิษย์น้องยอมแพ้แล้ว!”
ลู่ฝานพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนบาดเจ็บสาหัส
หานเฟิงหัวเราะเสียงดังไม่กี่ครั้ง หันไปพูดกับหุ่นทองสำริดที่เฝ้าอยู่ “เห็นหรือยัง ลู่ฝานที่เอาชนะนักบู๊ในอันดับบู๊ได้ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ฉันคงเข้าไปได้แล้วสินะ”
หุ่นทองสำริดทั้งสองตัวมองหน้ากัน สมองทองสำริดของพวกเขา คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่กฎคือกฎ แค่อยู่ในอันดับบู๊ หรือไม่ก็เอาชนะนักบู๊ที่อยู่ในอันดับบู๊ได้ ก็สามารถเข้าไปได้
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง หุ่นทองสำริดสองตัวพูดว่า “นายเข้าไปได้แล้ว”
หานเฟิงหันไปกะพริบตาให้ลู่ฝาน จากนั้นเดินหัวเราะเข้าไปในหอคอยฝึกฝน
ภาพนี้ ทำให้นักเรียนรอบๆ เดือดดาล
“อะไรกัน พวกเขาเข้าไปได้ยังไง”
“การแสดงอันจอมปลอมเกินจริงขนาดนี้ เจ้าโง่แบบพวกนายสองคน ดูไม่ออกหรือไง”
“อีกทั้งวิธีนี้ สามารถเข้าไปได้แล้วเหรอ ฉันจะไปหาศิษย์พี่หลิน”
……
ลู่ฝานลุกขึ้นช้าๆ ปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า นักเรียนบางคนรีบไปเรียกคน บางคนกำลังเถียงอย่างโมโห แต่ทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับลู่ฝาน
หลิงเหยากะพริบตามองลู่ฝาน “คนคณะหนึ่งเดียวของพวกนาย ร้ายแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า”
ลู่ฝานหัวเราะ “นี่ไม่เรียกว่าร้าย แค่มีไหวพริบเท่านั้น”
หลิงเหยาหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มของเธองดงามมาก ดูบริสุทธิ์ ทำให้คนสดชื่น
หลิงเหยาตบไหล่ลู่ฝาน แล้วพูดว่า “เอาล่ะ นายก็รีบเข้าไปเถอะ ถ้าเป็นไปได้ อย่าลืมเลือกเคล็ดวิชาบู๊มาให้ฉันสักหนึ่งประเภทด้วยล่ะ”
ลู่ฝานยิ้ม แล้วมองหลิงเหยา “เธอเข้าไปกับพวกเราสิ แสร้งทำอีกครั้งก็ได้แล้วนิ”
หลิงเหยาส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ฉันได้ยินอาจารย์เคยพูดว่า เข้าไปเอาเคล็ดวิชาบู๊ในหอคอยฝึกฝนต้องมีพละกำลัง พละกำลังแค่นี้ของฉัน ถึงเข้าไปก็เอาไม่ได้ คงต้องพึ่งนายแล้ว ฉันรอนายข้างนอกแล้วกัน”
ลู่ฝานมองดวงตาใสของหลิงเหยา พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “โอเค งั้นฉันเข้าไปละ ออกมาฉันจะเลี้ยงข้าวเธอ”
หลิงเหยาพูดว่า “นายต้องพาฉันไปกินข้าวที่คณะหนึ่งเดียวของนายนะ ฉันอยากเห็นอสูรวิเศษที่ชื่อเจ้าดำ”