เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1652
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1652
เทพพันตากะพริบตาอยู่สองสามครั้ง เหมือนรู้สึกว่าตัวเองใช้แรงมากเกินไป มันยื่นแขนโคลนของมันออกมาลูบหัวล้านของตัวเองด้วย
สัตว์อสูรตัวอื่นคำรามเสียงดังใส่เทพพันตา เหมือนกำลังตำหนิมันว่าทำไมถึงทำให้คนตกลงไป
ลู่ฝานไหลลงมาตามน้ำ กระแทกกับน้ำเสียงดังปัง
เคราะห์ดีที่ร่างกายเขาแข็งแกร่ง แต่ก็กระแทกจนสะบักสะบอมไปหมด สูงสามพันเมตรความสูงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริงๆ นี่ถ้าเป็นผู้ฝึกชี่ธรรมดาทั่วไปต้องโดนกระแทกตายแน่ๆ
ให้ตายเถอะ เทพพันตาอะไรนั่นยังผนึกปราณชี่ของเขาไว้ด้วย
ลู่ฝานเด้งตัวขึ้นจากน้ำ กัดฟันอยู่นานกว่าจะฟื้นฟูปราณชี่ของตัวเองได้
เทพพันตาแข็งแกร่งจริงๆ วินาทีเมื่อครู่ลู่ฝานรู้สึกถึงพลังแห่งความตายพุ่งเข้ามาในตัว
วิถีที่ไอ้หมอนี่มีอยู่ ต้องเป็นวิถีแห่งความตายหรือไม่ก็วิถีทำลายแน่ๆ
โฮก!
เสียงคำรามดังขึ้นข้างๆ อีกแล้ว ลู่ฝานหันไปมอง ฝูงสัตว์อสูรมากมายพุ่งเข้ามาล้อมเขาไว้ตรงกลาง
ลู่ฝานหมดคำจะพูดจริงๆ นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ ยิ่งสัตว์อสูรมากขึ้น พลังก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหลบเข้าไปในตัวลู่ฝานแล้ว มองสัตว์อสูรรอบๆ แล้วพูดอย่างตกใจว่า “สิงโตเพลิง มังกรเกราะน้ำแข็ง ปีศาจเพลิงแปดกรงเล็บ……เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ นี่เป็นอสูรร้ายไร้เทียมทานในตำนานทั้งนั้นเลย!”
ลู่ฝานกัดฟันพูดว่า “แกไม่ต้องบอกฉันก็รู้ ซวยแล้ว คราวนี้ตายไม่เหลือซากแน่ๆ แต่พวกมันจะฆ่าฉันก็ต้องยอมแลกอะไรหน่อย!”
ลู่ฝานกำกระบี่หนักไร้คมแน่น ปราณชี่บนตัวเริ่มพลุ่งพล่าน
เขาตะโกนใส่ฝูงสัตว์อสูร “เข้ามาสิ เรามาสู้กันให้สะใจกันไปเลย!”
ทันใดนั้นเปลวเพลิงพุ่งขึ้นมาบนตัวลู่ฝาน พลังพุ่งถึงขีดสูงสุด
แต่สัตว์อสูรรอบๆ กลับจ้องลู่ฝานอยู่อย่างนั้น ไม่มีท่าทีจะพุ่งเข้ามาฆ่าเขา
ลู่ฝานรออยู่นาน แต่ก็ไม่มีสัตว์อสูรจู่โจมเขาสักตัว
ขณะที่เขากำลังสับสน จู่ๆ หมียักษ์เกราะทองตัวหนึ่งยื่นอุ้งมือออกมา แต่มันเพิ่งเข้ามาเพียงก้าวเดียว สัตว์อสูรข้างๆ ส่งเสียงคำรามออกมาดังสนั่น ดังจนลู่ฝานเจ็บแก้วหู หมียักษ์รีบถอยไปด้านหลังและหดหัวทันที
ตรงไกลๆ เทพพันตาและสัตว์อสูรตัวอื่นก็โดดลงมาจากน้ำตกแล้วเดินไปหาลู่ฝานเหมือนกัน
ลู่ฝานมองพวกมัน จู่ๆ เขางงไปหมด
“เกิดอะไรขึ้น เหมือนพวกมันไม่ได้คิดร้ายกับฉัน!”
เมื่อเจดีย์เสวียนเก้ามังกรได้ยินก็รีบโผล่ออกมาทันที มันมองรอบๆ แล้วพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ พวกมันไม่มีความคิดเข้ามาฆ่าเจ้านายจริงๆ อัศจรรย์มากเลย อย่าบอกนะว่าเจ้านายคือร่างราชาสัตว์อสูรที่มีเพียงหนึ่งในล้าน หรือพวกมันเห็นเจ้านายเป็นพวกเดียวกัน”
ลู่ฝานพูดว่า “ไร้สาระ ฉันไม่ใช่ตัวละครสำคัญที่พวกนักเล่าเรื่องชอบเล่าสักหน่อย จะดวงดีขนาดที่สัตว์มากมายยอมจำนนได้ยังไงกันล่ะ เหมือนพวกมันกำลังรอให้เราทำอะไร”
ลู่ฝานมองรอบๆ อย่างสงสัย จู่ๆ ตอนที่ลู่ฝานมองไปทางเสาแสง สัตว์อสูรที่บดบังการมองเห็นด้านหน้าเขาต่างรีบหลีกทาง ยืนแยกเป็นสองฝั่งอย่างเป็นระเบียบ
ลู่ฝานมองตาพวกมันแล้วพูดว่า “ไม่ใช่หรอกมั้ง ฉันเห็นความคาดหวังจากแววตาพวกมัน อย่าบอกนะว่าพวกมันรอให้ฉันไปที่เสาแสง”
พูดพลาง ลู่ฝานเดินไปยังเสาแสง สัตว์อสูรรอบๆ ส่งเสียงคำรามอย่างดีใจ พวกมันพากันเดินตามหลังเขา