เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1667
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1667
สายตาลู่ฝานลุกโชน กวาดตามองของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอย่างไม่หยุด
สายตาของเขาไม่สามารถจ้องไปที่ต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์นานเกินไป เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นออกว่าเขาต้องการต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์
แม้ดูเหมือนผู้อาวุโสทั้งห้าคนไม่ได้หวาดระแวงเขา อีกทั้งต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์ยังอยู่ใกล้ตรงหน้า
แต่ลู่ฝานรู้เป็นอย่างดี อย่ามองแค่ว่าห่างแค่ไม่กี่ก้าว
ถ้าเขาหาวิธีก้าวไปไม่ได้ งั้นต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์กับเขาคงไร้วาสนาต่อกัน ลู่ฝานลองยื่นมือไปด้านหน้า
จู่ๆ เขารู้สึกว่าวิถีรอบๆ เริ่มกดทับตัวเขา นี่ไม่ใช่พลังฟ้าดิน สามารถใช้ปราณชี่ขับไล่ออกไปได้ นี่คือวิถีดั้งเดิมของฟ้าดิน
แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งห้าคนก็คงไม่กล้าเข้าใกล้ของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างนี้
แม้พวกเขามีพลังฟ้าดิน รู้วิถีอย่างแจ่มแจ้ง ลู่ฝานเดาว่าอย่างมากพวกเขาก็เดินมาข้างหน้าได้แค่ 2-3 ก้าว
ยังมีระยะห่างอีกตั้งช่วงหนึ่งกว่าจะสัมผัสของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามอย่างได้
ผู้อาวุโสหั่วยู่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นไง ตกตะลึงกับสมบัติของประเทศตันเซิ่งหรือเปล่า ประมุขประเทศตันเซิ่งเคยพูดว่าแค่ของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างนี้ยังอยู่ที่สวรรค์ชั้นแปด ประเทศตันเซิ่งก็จะคงอยู่ตลอดไป!”
ลู่ฝานพูดด้วยใบหน้ามีรอยยิ้ม “เป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ ผู้อาวุโส ฉันลองจับดูได้ไหม”
ผู้อาวุโสห้าคนหัวเราะพร้อมกัน
ผู้อาวุโสจินอี้พูดว่า “ประมุขประเทศตันเซิ่งบอกว่าใครเข้าใกล้ได้ก็จับได้ตามสบาย แค่อย่าเอาไปก็พอ!”
ผู้อาวุโสมู่หยู่ซิงพูดว่า “กลัวว่านายยังไม่ทันได้เข้าใกล้ จะโดนวิถีแห่งฟ้าดินทำลายเสียก่อนน่ะสิ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพยักหน้า นัยน์ตามีประกายประหลาด
ในเมื่อไม่ขัดขวางให้เขาเข้าไปใกล้ งั้นก็ง่ายขึ้นหน่อย
เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีวิธี!
ผู้อาวุโสสุ่ยเหมี่ยวจับเจ้าหินน้อยข้างๆ ขึ้นมา โยนคืนให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “นี่อสูรวิเศษของนายใช่ไหม ดูแลมันให้ดี อย่าปล่อยให้มันวิ่งไปทั่ว อสูรวิเศษที่ไม่ค่อยฉลาดแบบนี้จะเข้าไปในวิถีง่ายๆ หลังจากนั้นจุดจบของมันจะกลายเป็นศพแบบไม่เหลือซาก เหมือนพวกคนอายุน้อยที่ไม่เจียมตัว!”
ลู่ฝานรับเจ้าหินน้อยมา จากนั้นยิ้มบางๆ ให้ผู้อาวุโสสุ่ยเหมี่ยว
แม้เขารู้ว่าผู้อาวุโสสุ่ยเหมี่ยวไม่พอใจเขา แต่ลู่ฝานไม่มีความคิดเป็นศัตรูกับเขา
อีกทั้งลู่ฝานยังฟังออกว่าน้ำเสียงของผู้อาวุโสสุ่ยเหมี่ยวอ่อนลงไม่น้อย
นี่เรียกว่าปากพูดว่าไม่ยอมรับ แต่ในใจยอมรับสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นแล้ว
ลู่ฝานไม่อยากให้เรื่องแค่นี้ทำลายแผนใหญ่ของตัวเอง
ผู้อาวุโสคนอื่นเห็นผู้อาวุโสสุ่ยเหมี่ยวพูดแซะ แต่โดนลู่ฝานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม พวกเขาพากันหัวเราะออกมา
ผู้อาวุโสตระกูลถู่ใช้กระแสจิตส่งเสียงคุยกับสุ่ยเหมี่ยว “ตาเฒ่าสุ่ย นายไม่รู้สึกเหรอว่าจิตใจนายสู้เด็กคนนี้ไม่ได้เลย”
สีหน้าสุ่ยเหมี่ยวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตัดสินใจไม่พูดอะไรอีก
ผู้อาวุโสหั่วยู่เฉินพูดว่า “ลู่ฝาน สองสามวันนี้นายเดินเล่นได้ตามสบาย อยากมาดูของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างก็มาดูได้ จะหาที่ทำความเข้าใจวิถีก็ไม่มีใครรบกวนนาย แต่นายต้องรักษาช่วงเวลานี้เอาไว้ให้ดี ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาในสวรรค์ชั้นแปด ทำความเข้าใจอยู่ที่นี่หนึ่งวัน เท่ากับหนึ่งเดือนของโลกภายนอก หรือแม้กระทั่งหนึ่งปี”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ ผู้อาวุโสทั้งห้าคนมองหน้ากันแล้วเหาะออกไป
พริบตาเดียว ผู้อาวุโสทั้งห้าคนกลับมาในหมู่บ้านเล็กๆ
ถ้าลู่ฝานมาดูตอนนี้จะพบว่าอันที่จริงที่นี่ไม่มีบ้านอะไรเลย มีแค่หินห้าก้อนที่คนสามารถนั่งได้เท่านั้น
ผู้อาวุโสหั่วยู่เฉินนั่งลงบนหินแล้วพูดว่า “ทุกคนคิดว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเป็นยังไง”
ผู้อาวุโสจินอี้พูดว่า “เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถยิ่งใหญ่”