เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1692
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1692
ผู้ฝึกชี่จำนวนไม่น้อยพากันพูดว่า “นี่ใช่ลู่ฝานเหรอ”
“ดูไม่เหมือนเลย!”
ประมุขประเทศตันเซิ่งหัวเราะในลำคอแล้วพูดว่า “ฝีมือต่ำต้อย วิชาพรางตาที่อวดฉลาด”
ทุกคนเงียบลงทันที ในเมื่อฝ่าบาทบอกว่าใช่ก็ต้องใช่ ไม่ใช่ก็ต้องใช่
ลู่ฝานมองซ้ายมองขวา พบว่ารอบๆ ไม่มีใครเลย เขารีบเอาเรืออากาศธาตุออกมา
เรือลำนี้คือเรือของตระกูลหั่ว ลู่ฝานแย่งมาจากหั่วเยี่ยนตอนเพิ่งมาถึงประเทศตันเซิ่ง
เมื่อเอาเรือลำนี้ออกมา ทุกคนรู้ทันทีว่าลู่ฝานจะทำอะไร
ในเวลาเดียวกัน คนจำนวนไม่น้อยมองไปทางผู้อาวุโสสามด้วยแววตาประหลาด เรือลำนี้ดูก็รู้ว่าเป็นของตระกูลหั่ว เตรียมพร้อมขนาดนี้ ตระกูลหั่วต้องการช่วยลู่ฝานหรือโดนหลอกจริงๆ กันแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่าบาทมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เมื่อกลับมาถึงตำหนัก ใช้หินศักดิ์สิทธิ์มองทุกอย่างในประเทศตันเซิ่ง ไม่งั้นตอนนี้ลู่ฝานคงหนีไปแล้วมั้ง
ลู่ฝานกระโดดขึ้นเรือ แล้วเคลื่อนตัวเข้าไปในอากาศเวิ้งว้างอย่างรวดเร็ว
พลังฟ้าดินนับไม่ถ้วน แสงห้าธาตุเคลื่อนผ่านข้างตัวเขาไป
ประมุขประเทศตันเซิ่งไม่พูดอะไรสักคำ แต่ความเย็นชาในแววตามากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้อาวุโสคนหนึ่งก้าวออกมาพูดว่า “ฝ่าบาท รีบสั่งสัตว์เทพเสือขาวเถอะ รอให้ลู่ฝานถึงหน้าประตูอากาศเวิ้งว้างแล้วรีบลงมือจับเขาเลย!”
ผู้อาวุโสสามก็ก้าวออกมาพูดว่า “ฝ่าบาท ลู่ฝานทำผิดมหันต์ สมควรตายทันที”
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดอย่างราบเรียบว่า “รีบไปทำไม เรื่องแบบนี้ต้องรบกวนสัตว์เทพด้วยเหรอ เปิดห้าธาตุสรวงสวรรค์ทั้งหมดในประเทศตันเซิ่ง ให้คนในประเทศตันเซิ่งเห็นความเคลื่อนไหวของลู่ฝาน”
เมื่อพูดเช่นนี้ ประมุขประเทศตันเซิ่งสะบัดมือ แสงหนึ่งพุ่งออกจากตำหนัก ลอยไปสุดขอบฟ้า
ผู้อาวุโสสองสามคนเหวี่ยงอักษรยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ มันสว่างขึ้นพร้อมกัน
ในประเทศตันเซิ่ง พวกผู้ฝึกชี่ตั้งแต่สวรรค์ชั้นหนึ่งถึงสวรรค์ชั้นหกเห็นห้าธาตุสรวงสวรรค์ทั่วทุกที่เปิดออกอีกครั้ง
บนฟ้าก็มีภาพปรากฏออกมา คนจำนวนไม่น้อยหันไปมองอย่างตกตะลึง
“วันนี้เกิดอะไรขึ้นเนี่ย การประลองจบลงแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมห้าธาตุสรวงสวรรค์เปิดออกอีกแล้วล่ะ”
“นั่นใครกัน ดูด้านหลังคล้ายลู่ฝานเลย!”
“ใช่เขาหรือเปล่า เขาจะไปไหน”
คนจำนวนมากพูดคุยกัน จู่ๆ เสียงของประมุขประเทศตันเซิ่งดังขึ้นตั้งแต่สวรรค์ชั้นหนึ่งถึงสวรรค์ชั้นหก
“ลู่ฝานตระกูลหั่วขโมยสมบัติของประเทศตันเซิ่ง ความผิดร้ายแรงมาก”
เพียงประโยคเดียวทำให้เกิดความโกลาหลทันที พวกผู้ฝึกชี่ส่งเสียงตกใจออกมาไม่หยุด ไม่อยากเชื่อว่าคือเรื่องจริง
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดต่อ “ตอนนี้ลู่ฝานปลอมตัว จะหนีออกจากประเทศตันเซิ่ง วันนี้ให้ฟ้าดินได้ล่วงรู้ ให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ของเขา เห็นจุดจบของเขา เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง”
ในตำหนักที่เขตวิถีในเมฆ ประมุขประเทศตันเซิ่งสะบัดมือโยนอักษรยันต์ขยายเสียงออกมา นั่งนิ่งไม่พูดอะไร
ทุกคนไม่รู้ว่าประมุขประเทศตันเซิ่งจะทำอะไรกันแน่ ไม่มีใครไปจับตัวลู่ฝานแล้วจะขัดขวางไม่ให้ลู่ฝานหนีออกไปได้ยังไง
แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก เข้าใจไปว่าฝ่าบาทเตรียมการไว้แล้ว
ไม่นาน ลู่ฝานเห็นประตูอากาศเวิ้งว้างของประเทศตันเซิ่งจากไกลๆ รวมถึงเสือขาวขนาดใหญ่นอกเมืองด้วย
แม้อยู่ห่างขนาดนี้ ลู่ฝานยังรู้สึกถึงความอาฆาตที่ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
เรือกะพริบไม่หยุด ในที่สุดลู่ฝานก็มาถึงประตูเมือง
เสือขาวที่นอนคว่ำอยู่หน้าประตู ลืมตาเพียงข้างเดียว ปรายตามองลู่ฝานแล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “แสดงป้ายคำสั่งของประเทศตันเซิ่ง!”
ลู่ฝานเอาป้ายคำสั่งของประเทศตันเซิ่งออกมาให้เสือขาวดู จากมุมของเขาเห็นเพียงกรงเล็บข้างหนึ่งของเสือขาว
เสือขาวหลับตาลงช้าๆ ไม่พูดอะไรอีก
ประมุขประเทศตันเซิ่งมองลู่ฝาน แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ก้าวออกไปอีกเพียงก้าวเดียว เขาตายแน่นอน”
เหมือนพวกผู้ฝึกชี่กำลังคิดอะไรอยู่ ฟังจากที่ประมุขประเทศตันเซิ่งพูด เหมือนลู่ฝานโดนคำสาปอะไรบางอย่าง แค่ออกจากประเทศตันเซิ่งก็จะตายทันที
ผู้อาวุโสสามถอนหายใจ ไม่รู้ลู่ฝานกำลังคิดอะไรอยู่ อย่าบอกนะว่าเขามาประเทศตันเซิ่งเพราะสมุนไพรบางอย่างที่สวรรค์ชั้นเจ็ด ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ประมุขประเทศตันเซิ่งโกรธจนจะฆ่าเขาต่อหน้าทุกคน
ทุกคนรอให้ลู่ฝานก้าวสุดท้ายอย่างเงียบๆ
ตอนนี้ลู่ฝานค่อยๆ เก็บเคล็ดวิชาบู๊สรรพสิ่งไร้รูปร่าง รูปร่างหน้าตาเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม
มองประตูใหญ่ด้านหน้า จู่ๆ ลู่ฝานสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสอย่าหลอกฉันนะ ไอ้เก้า แกเตรียมพร้อมหรือยัง”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรตอบในตัวลู่ฝาน “เตรียมพร้อมแล้ว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันจะปกป้องเจ้านายอย่างสุดความสามารถ”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก้าวสำคัญก้าวนี้ออกไป
เมื่อก้าวออกไป ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังฟ้าดินของประเทศตันเซิ่งไม่ปกคลุมเขาอีกแล้ว
วินาทีต่อมาเลือดลมทั้งตัวลู่ฝานปั่นป่วนทันที
เพียงพริบตาเดียว หมอกโลหิตพุ่งขึ้นจากตัวลู่ฝาน
เสือขาวลืมตาทั้งสองข้าง มองลู่ฝานอย่างเฉยเมย หาวออกมาแล้วนอนต่อ
ในประเทศตันเซิ่ง ผู้ฝึกชี่จำนวนมากส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ โดยเฉพาะผู้หญิงถึงกับปิดปากกรีดร้องอย่างตกใจ
เมื่อประมุขประเทศตันเซิ่งเห็นภาพนี้ เขาพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันบอกตั้งนานแล้วว่าให้อยู่ในประเทศตันเซิ่ง นี่คือจุดจบของการไม่เชื่อฟัง”
ประมุขประเทศตันเซิ่งส่งเสียงหึอย่างเย็นชาแล้วส่ายหน้าเบาๆ
ลู่ฝานไม่สนใจผนึกที่เขาตั้งไว้เลย รนหาที่ตายจริงๆ
ประมุขประเทศตันเซิ่งคาดเดาไว้แล้วว่าลู่ฝานมาประเทศตันเซิ่งเพราะมีจุดประสงค์ แต่คิดไม่ถึงว่าจุดประสงค์ของลู่ฝานคือของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างของประเทศตันเซิ่ง
เขาต้องวางผนึกไว้บนตัวลู่ฝานเพื่อป้องกันไว้ก่อน อีกทั้งยังเตือนเขาด้วยตัวเอง
เดิมทีคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้ลู่ฝานล้มเลิกความคิดได้ คิดไม่ถึงว่าลู่ฝานยังกล้าทำแบบนี้
คนมุทะลุแบบนี้มีแต่จะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ
ประมุขประเทศตันเซิ่งพูดอย่างราบเรียบว่า “ไปเอาศพลู่ฝานกลับมา”
พูดจบ ประมุขประเทศตันเซิ่งเตรียมเก็บอักษรยันต์ในตำหนัก
ขณะนั้นตัวของลู่ฝานในภาพขยับเล็กน้อย
หลังจากนั้นแสงสีขาวสว่างขึ้นบนตัวลู่ฝาน
ประมุขประเทศตันเซิ่งอึ้งไปก่อน จากนั้นลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “วิถีแห่งชีวิต!”