เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1713
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1713
ย้อนเวลากลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ลู่ฝานหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในอากาศเวิ้งว้าง
วินาทีที่สติหายไป ภาพสุดท้ายที่ลู่ฝานเห็นคืออากาศเวิ้งว้างที่ไกลออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเขาฟื้นขึ้นมา ด้านหน้ากลับเป็นหิมะขาวกว้างใหญ่ไพศาล
ลู่ฝานไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน แล้วก็ไม่รู้ตัวเองสลบไปนานแค่ไหน สรุปว่าหลังเขาฟื้นขึ้นมา เขารู้สึกเจ็บปวดทรมานไปทั้งตัว
พูดตามตรงว่าเขาไม่ได้เจ็บแบบนี้มานานแล้ว
หลังจากเขาฝึกพลังปราณอย่างจริงจัง กลายเป็นนักบู๊ คำว่าเจ็บปวดเป็นแค่การฝึกฝนหล่อหลอมสำหรับเขาเท่านั้น
ร่างกายแตกสลาย ฟ้าดินลมฝนเขาก็ผ่านมาแล้ว อาจกล่าวได้ว่า ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าไม่มีความเจ็บปวดใดบนโลกนี้ที่เขาทนไม่ได้
แต่วันนี้เขากลับเหมือนคนธรรมดา เจ็บจนหน้าซีด พูดอะไรไม่ออกเลย
ลู่ฝานรีบตรวจดูในร่างกายตัวเอง เขาพบว่าที่แท้ร่างกายกับวิญญาณของตัวเองอ่อนแอเป็นอย่างมาก
ตันเถียนของเขาแตกออกอีกครั้ง ทำไมถึงบอกว่าอีกครั้งน่ะเหรอ เพราะมันเคยแตกมาหลายครั้งแล้วน่ะสิ
ยกนิ้วขึ้นมานับ มือข้างหนึ่งยังนับไม่พอ
อย่างเช่นตอนรับการถ่ายทอดจากเซียนสือฟาง ตอนฝึกพลังความเป็นความตายวนเวียน ตอนได้รับการถ่ายทอดจากจักรพรรดิอู่
แต่เหมือนกับว่าทุกครั้งที่ตันเถียนของเขาแตก พลังกำลังจะยกระดับขึ้นไม่น้อย
ถ้าคนอื่นตันเถียนแตก ถือว่าชีวิตนี้จบสิ้นแล้ว ตันเถียนเขาแตกจนจะชินแล้ว ก็ยังไม่เป็นไร ไม่รู้ว่าดวงดีหรือดวงแข็งกันแน่
ลู่ฝานก็ไม่ได้สนใจอะไร ปรับพลังวุ่นวายในร่างกายตัวเองก่อน อย่าให้พวกมันปั่นป่วนไปทั่ว
ค่อยกินยาอีกสักหน่อย เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีอาการอะไรตามมาทีหลัง
ผ่านไปนาน ลู่ฝานค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ความเจ็บบนตัวหายไปแล้ว
ปราณชี่ในตัวเบาบาง เมื่อแรงสนับสนุนจากตันเถียนหายไป จะให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมเป็นเรื่องวุ่นวายมาก ทำได้แค่ค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนเต๋าแห่งชีวิตของเขา ตอนนี้ก็โดนยับยั้งถึงขั้นสุด แค่พอรับประกันได้ว่าพลังชีวิตเขาจะไม่หายไปเท่านั้น ส่วนเขาจะสบายตัวหรือไม่ พลังจะฟื้นกลับมาได้หรือเปล่า มันไม่อยู่ในขอบเขตของการพิจารณาถึงเต๋าแห่งชีวิตแล้ว และถ้าพลังของลู่ฝานไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้สักที พลังของเต๋าอาจหายไปด้วย
เจ้าดำมาอยู่บนไหล่ลู่ฝานตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันก็อ่อนแอมากเหมือนกัน แม้แต่กรงเล็บยังยกไม่ขึ้น
ลู่ฝานมองทุ่งหิมะขนาดใหญ่รอบตัว อ้างว้างปราศจากผู้คน เขารีบตะโกนว่า “ไอ้เก้า ไอ้เก้าออกมา!”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบโผล่ขึ้นมาบนมือลู่ฝานแล้วพูดอย่างดีใจว่า “ในที่สุดเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ก็ฟื้นสักที ฉันคิดว่าเจ้านายจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว!”
ลู่ฝานมองท่าทางของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรแล้วหัวเราะเบาๆ “แกไม่เป็นอะไรเลย ตัวฉันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ฉันสลบไปนานแค่ไหนแล้ว”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “เกือบเดือนแล้ว เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่หลับเก่งจริงๆ!”
ลู่ฝานพูดด้วยใบหน้าเหยเกว่า “หนึ่งเดือนเหรอ หนึ่งเดือนนี้แกโยนฉันกับเจ้าดำไว้ที่นี่โดยไม่สนใจงั้นเหรอ แกหาที่ซ่อนให้เราหน่อยไม่ได้หรือไง”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดเสียงเบาว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ อันที่จริงฉันก็เหลือพลังอยู่ไม่เท่าไรแล้ว ตอนเจ้านายร่วงลงมา มีสัตว์อสูรล้อมเจ้านายไว้ ฉันต่อสู้ไล่พวกมันไป ตอนนี้ไม่เหลือพลังอะไรแล้ว ไม่งั้นฉันคงปลุกเจ้านายให้ฟื้นนานแล้ว”
ลู่ฝานตรวจดูพลังของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรอย่างสงสัย เป็นอย่างที่มันพูดจริงๆ เหลืออยู่ไม่เท่าไรแล้ว เบาบางมาก