เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1716
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1716
ลู่ฝานสัมผัสถึงพลังพลุ่งพล่านบนตัวพวกเธอ อยู่ระดับประมาณแดนปราณดินขั้นเจ็ดหรือแปด
ถือว่าพละกำลังไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ ในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้าย ดูเหมือนว่าการแบ่งแยกระหว่างนักบู๊และผู้ฝึกชี่จะไม่ชัดเจนนัก ดังนั้นลู่ฝานจึงแยกไม่ออกว่าผู้หญิงสิบกว่าคนนี้เป็นนักบู๊หรือผู้ฝึกชี่กันแน่
ลู่ฝานลองโต้กลับ แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
จากสภาพร่างกายเขาตอนนี้ ไม่มีทางเอาชนะผู้ฝึกชั่วร้ายพวกนี้ได้ อีกทั้งเห็นใบหน้าสะสวยกับแววตาใสของผู้หญิงพวกนี้ ลู่ฝานแอบรู้สึกแปลกๆ
เห็นลู่ฝานโดนผนึกไว้ ผู้หญิงพวกนี้รีบเข้ามาข้างลู่ฝาน
เหมือนพวกเธอไม่เคยเห็นคนแบบลู่ฝาน ผู้หญิงสิบกว่าคนกระโดดโลดเต้นไปมารอบตัวลู่ฝาน
“พี่ใหญ่ นี่คือผู้ชายที่พี่ชอบพูดถึงเหรอ”
“ว้าว หน้าตาดูพิเศษมาก”
“ทำไมเขาถึงใส่เสื้อผ้ามิดชิดขนาดนี้ล่ะ เขาอกเล็กแล้วอายจนไม่อยากพบเจอผู้คนเหรอ”
“บนไหล่เขาคืออะไร สัตว์อสูรเหรอ”
……
ลู่ฝานได้ยินคำพูดของพวกเธอ สีหน้าเริ่มเหยเก
“ผู้หญิงพวกนี้ คิดไม่ถึงว่ามีสองสามคนที่ไม่เคยเจอผู้ชาย มิน่าล่ะพวกเธอถึงแต่งตัวโป๊ะขนาดนี้ มิน่าล่ะพวกเธอเข้ามาก็เรียกเขาว่าผู้ชาย แต่รูปร่างพวกเธอไม่เลวจริงๆ……”
ลู่ฝานมองผู้หญิงพวกนี้จนตาเปี่ยมสุขแล้วพูดว่า “พวกเธอจะมาฆ่าฉันหรือมาทำอะไร อธิบายมาหน่อยสิ!”
ผู้หญิงคนที่เป็นหัวหน้าที่โดนเรียกว่าพี่ใหญ่ก้าวขึ้นมา แย่งกระบี่หนักไร้คมของลู่ฝานมาแล้วพูดเสียงดัง “ตอนนี้นายคือเชลยของฉัน ฉันมีอำนาจควบคุมทุกอย่างของนาย……โอ๊ย ทำไมกระบี่นายหนักขนาดนี้!”
พี่ใหญ่เกือบยกกระบี่หนักไร้คมด้วยมือเดียวไม่ขึ้น
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “แค่หินผนึกกำลังเอง คนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรกจะปรับตัวไม่ค่อยได้!”
พี่ใหญ่รีบยกกระบี่ของลู่ฝานด้วยสองมือ มองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนดูอะไรไม่ออกเลยวางไว้ข้างๆ
หลังจากนั้นพี่ใหญ่เอามีดสั้นออกมา ปาดลงมาที่ฝ่ามือลู่ฝานทันที
“ทาสรับใช้ มอบทุกอย่างของนายมา”
อากาศสีดำไหลผ่านบาดแผลเข้าไปในตัวลู่ฝาน
จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าอากาศสีดำพวกนี้รวมตัวเป็นตราประทับเล็กๆ พุ่งไปที่วิญญาณของเขา
แต่ตราประทับนี้พุ่งไปได้แค่ครึ่งทาง ก็โดนเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดึงลงมา
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือตราประทับควบคุมวิญญาณ”
ลู่ฝานหัวเราะในใจแล้วพูดว่า “กลืนกินเข้าไปสิ ให้เธอเข้าใจว่าเธอควบคุมฉันได้แล้ว”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้วเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่”
ทันใดนั้น ตราประทับโดนเจดีย์เสวียนเก้ามังกรกลืนกินจนหมด จากนั้นเจดีย์เสวียนเก้ามังกรใช้พลังของตัวเอง สร้างตราประทับที่ไม่ต่างกันเท่าไรออกมาแปะลงบนแขนของลู่ฝาน
ตราประทับสว่างขึ้นบนแขนลู่ฝานทันที
พี่ใหญ่หัวเราะร่า “ดีมาก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายคือทาสรับใช้ของฉัน ฉันชื่อฟู่ชี เข้าใจไหม”
ผู้หญิงคนอื่นข้างๆ รีบชะโงกหน้าเข้ามาพูดว่า “ฉันชื่อฟู่สืออู่ นายเรียกฉันว่าเจ้านายสืออู่ก็ได้”
“ฉันชื่อฟู่จิ่ว นายเรียกฉันว่าพี่จิ่วก็ได้”
“ฉันชื่อฟู่ปาปา นายเรียกฉันว่าปาเหนียงก็ได้”
“โอ๊ย พวกเธอยังมียางอายไหม พี่บ้างเหนียงบ้าง”
……
พวกผู้หญิงบ่นงึมงำอยู่ด้านหน้าลู่ฝาน แต่ลู่ฝานกลับไม่รู้สึกหงุดหงิดเลยสักนิด
โอ๊ย ดูต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าดูต่อต้องเกิดเรื่องแน่ๆ
ลู่ฝานไม่พูดอะไรสักคำ ผู้หญิงคนอื่นพากันเก็บค่ายกล หันไปกวักมือเรียกสัตว์อสูรพาหนะของพวกเธอเข้ามา
พลิกตัวขึ้นไปบนสัตว์อสูร พี่ใหญ่ฟู่ชีพูดว่า “ไปกันเถอะ ทาสรับใช้ นายเก็บกระบี่นายไว้เองเถอะ หนักซะขนาดนั้น”
ลู่ฝานได้ยินก็เอากระบี่มาเก็บไว้ทันที ฟู่ชีกวักมือเรียกเขาขึ้นไปบนสัตว์อสูรขนปุกปุยตัวนั้นเหมือนกัน
สัตว์อสูรขนปุกปุยค่อยๆ พาพวกเขาออกไป
ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งรู้ว่าสัตว์อสูรพวกนี้เดินบนพื้นหิมะ ไม่มีเสียงเลยสักนิด และเมื่อผู้หญิงพวกนี้ไม่ใช่ออร่าปีศาจ พวกเธอเหมือนไม่ได้อยู่บนโลกนี้ สัมผัสลมหายใจไม่ได้เลยสักนิด
นี่คือวิชาปรับลมหายใจของผู้ฝึกชั่วร้ายในตำนานหรือเปล่า
มิน่าล่ะพวกเธอสามารถเข้าใกล้เขาโดยที่ไม่โดนจับได้
ลู่ฝานมองพวกผู้หญิงสดใสน่ารัก รอยยิ้มเต็มใบหน้าพวกนี้แล้วถามในใจเสียงเบา “ไอ้เก้า แกว่าพวกเธอใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายจริงไหม”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบตอบว่า “ใช่สิ ออร่าปีศาจบนตัวพวกเธอรุนแรงขนาดนี้ ไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายจะเป็นอะไรได้อีก เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดความสงสารใช่ไหม”
ลู่ฝานพูดว่า “แกหมายความว่าไง”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ดีทุกอย่าง แค่ทำใจลงมืออย่างเหี้ยมโหดกับสาวงามไม่ได้ อย่างเช่นอู่คงหลิงในตอนนั้น……”
ลู่ฝานกลอกตามองบนแล้วพูดในใจ “หุบปาก!”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรไม่กล้าพูดอะไรอีก