เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1727
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1727
ลู่ฝานดึงกระบี่หนักไร้คมออกมา ฟันลงบนหัวกะโหลกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
แม้ไม่ได้ใช้ปราณชี่ แต่ก็สบประมาทพลังของกระบี่นี้ไม่ได้เลย อย่างน้อยก็ฟันหินแยกได้สบายๆ
ตึง!
กระบี่หนักไร้คมของลู่ฝานโดนดีดออกมา เกิดรอยร้าวขึ้นบนหัวกะโหลกขนาดใหญ่
“โอ๊ย เจ็บๆๆๆ เจ็บจะตายแล้วๆ”
หัวกะโหลกตะโกนเสียงดัง
ปราณชี่สว่างขึ้นทั้งตัวลู่ฝาน อาทิตย์ลุกโชนรวมตัวบนกระบี่ เตรียมฟันกระบี่ลงไปอีกครั้ง
หัวกะโหลกรีบตะโกนรัวๆ “อย่าๆๆ สหายอย่าทำแบบนี้สิ ฉันเป็นคนดีนะ!”
ลู่ฝานฟังคำพูดเขาที่ไหนกันล่ะ คนที่ไหนหน้าตาเป็นหัวกะโหลกแบบนี้
กระบี่เพลิงฟันลงไปอย่างแรง เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
หัวกะโหลกแตกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมา
“สหาย ฉันไม่เคยมีความแค้นกับนายมาก่อน ทำไมนายต้องฟันฉันด้วย นายมานั่งบนหัวฉันเอง ฉันไม่ได้ไปนั่งบนหัวนายสักหน่อย! นี่ยังมีหลักการแห่งสวรรค์หรือเปล่า ผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างพวกนายต้องมีเหตุผลหน่อยสิ อย่ารังแกคนอื่นจนเกินไป!”
เมื่อพูดเช่นนี้ หัวกะโหลกเริ่มปล่อยแสงเหมือนหยกขาวออกมา
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดว่า “เมื่อกี้นายว่าไงนะ ผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างพวกนายงั้นเหรอ อย่าบอกนะว่านายไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้าย”
หัวกะโหลกพูดเสียงดังว่า “ฉันหนานกงสิงแห่งประเทศฉิงเทียน ฉันสง่าผ่าเผย ดูเป็นคุณชายฉลาดและรูปงามขนาดนี้ จะเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายที่สกปรก ทุเรศและโง่เขลาสุดๆ ได้ยังไง ดูจากหน้าตาฉัน นายก็น่าจะดูออกแล้ว!”
ลู่ฝานหมดคำจะพูด เป็นหัวกะโหลกแบบนี้ ดูออกก็แปลกแล้ว
แต่เปลวเพลิงบนตัวลู่ฝานไม่ลดลงเลย ยังใช้อาทิตย์ลุกโชนแผดเผาหัวกะโหลกด้านหน้า
“เอาหลักฐานออกมายืนยันว่านายไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายสิ!”
หัวกะโหลกพูดเสียงดัง “เห็นพลังบนตัวฉันหรือเปล่า นี่คือวิชาเที่ยงธรรมของประเทศฉิงเทียน สง่างามและยิ่งใหญ่เกรียงไกร มีกลิ่นเลือดหรือออร่าปีศาจสักนิดไหมล่ะ อีกทั้งถ้าฉันเป็นผู้ฝึกชั่วร้าย เมื่อกี้คงกัดนายไปแล้ว”
ลู่ฝานมองหัวกะโหลกอย่างประเมิน พบว่าเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ แสงสีขาวเหมือนหยกขาวไม่มีกลิ่นเลือด กลิ่นศพ หรือออร่าปีศาจสักนิด
เหมือนหินหยกจากธรรมชาติ ส่องแสงระยิบระยับใต้แสงอาทิตย์
ลู่ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เชื่อเขาขึ้นมาบ้างเล็กน้อย จึงเก็บอาทิตย์ลุกโชนที่แผดเผาหัวกะโหลก
หัวกะโหลกถอนหายใจยาวแล้วพูดว่า “สหาย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมย “ไม่ได้!”
หัวกะโหลกอึ้งไป “นายยังไม่ได้ฟังเลยว่าฉันจะให้ช่วยอะไร”
ลู่ฝานตอบว่า “นายหน้าตาอัปลักษณ์เกินไป ฉันเลยไม่อยากช่วยนาย!”
หัวกะโหลกอึ้งไปก่อน จากนั้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “อะไรนะ นายบอกว่าฉันหน้าตาอัปลักษณ์เหรอ นายดูหมิ่นบุคลิกฉันได้ แต่อย่าดูหมิ่นหน้าตาฉัน!”
ลู่ฝานขี้เกียจพูดกับเขา จึงหันหลังเดินไป
เจ้าดำที่อยู่บนไหล่มองหัวกะโหลกอย่างเฉยเมยแล้วแลบลิ้นออกมา
“เฮ้ยๆๆ สหายอย่ารีบไปสิ สหาย ไม่ช่วยก็อยู่คุยกับฉันก่อนก็ได้ บอกฉันหน่อยว่าที่นี่คือที่ไหน”
เมื่อลู่ฝานได้ยินคำพูดของหัวกะโหลก เขาชะงักฝีเท้าลงทันที
จู่ๆ ลู่ฝานมองหัวกะโหลกด้วยสายตาประหลาดแล้วพูดว่า “เมื่อกี้นายถามว่าอะไรนะ”
หัวกะโหลกเห็นลู่ฝานหันมา จึงหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ถามนายว่าที่นี่คือที่ไหนไง สหายอย่าเพิ่งไปสิ ฉันฝังอยู่ที่นี่เกือบเดือนแล้ว ในที่สุดก็เจอคนเป็นๆ อย่างนายสักที อยู่คุยกับฉันก็ได้!”
ลู่ฝานรีบเดินเข้ามา จ้องหัวกะโหลกแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ เมื่อกี้นายถามฉันว่าที่นี่คือที่ไหน อย่าบอกนะว่านายไม่ใช่คนที่นี่”