เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1728
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1728
หัวกะโหลกพูดเสียงดัง “ก็ไม่ใช่น่ะสิ ฉันหนานกงสิง องค์ชายใหญ่แห่งประเทศฉิงเทียน ฉันโดนจับมาที่นี่ แต่ดวงฉันดี ระหว่างทางฉันทำลายถุงเอกภพได้ เลยร่วงลงมาที่นี่”
ลู่ฝานถามว่า “แล้วนายเห็นหรือเปล่าว่าคนที่จับนายเข้ามายังไง”
หนานกงสิงตอบว่า “เห็นสิ”
ลู่ฝานพูดว่า “บอกฉันหน่อยสิ”
หนานกงสิงหัวเราะคิกคัก “สหาย ช่วยฉันแล้วฉันจะบอกนาย”
ลู่ฝานเอากระบี่หนักวางบนหัวกะโหลก เลียนแบบน้ำเสียงของประมุขประเทศตันเซิ่ง “นายไม่มีสิทธิ์มาต่อรองเงื่อนไขกับฉัน ถ้าไม่บอกฉันจะฆ่านาย!”
หัวกะโหลกอ้าปากหวอ พูดอะไรไม่ออก เจ้าดำพ่นไฟเข้าไปในเบ้าตาของหัวกะโหลก
“ร้อนๆๆๆ ได้ๆๆๆ ฉันบอกนายแล้ว ผู้ฝึกชั่วร้ายที่จับฉันเอาหินมาก้อนหนึ่ง เปิดเขตวิถีแล้วพาฉันเข้ามา จุดที่ประตูเปิดออก อยู่บนเขาหิมะที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “ก้อนหินเหรอ ก้อนหินแบบไหน”
หัวกะโหลกพูดว่า “ก้อนหินที่เหมือนมีดสั้น น่าจะเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของผู้ฝึกชั่วร้าย หินก้อนนั้นปล่อยแสงออกมา เขตวิถีก็เปิดออก เขาก็เข้ามา จากนั้นฉันฉวยโอกาสตอนเขาไม่ทันสังเกต ฉีกถุงของเขาแล้วกระโดดลงมา”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ นายกระโดดลงมาแบบนี้ เขาไม่เห็นเลยเหรอ”
หัวกะโหลกหัวเราะคิกคัก “ใครบอกว่าไม่เห็นล่ะ แค่ฉันพาเขาโดดลงมาด้วยก็แค่นั้น จากนั้นฉันกลายเป็นโครงกระดูก ส่วนเขากลายเป็นผุยผง!”
หนังตาลู่ฝานกระตุกเบาๆ มองหัวกะโหลกข้างหน้าแล้วพูดว่า “นายนี่ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ!”
หัวกะโหลกพูดว่า “ช่วยไม่ได้ ไม่อยากโดนหลอมเป็นหุ่นเชิดก็ต้องทำแบบนี้เท่านั้น สหาย ในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้ายมีผู้ควบหุ่นเชิดไม่น้อย คนที่ทั้งหล่อ วิทยายุทธสูงส่ง และอายุน้อยมากความสามารถแบบนายกับฉัน พวกเขาชอบสุดๆ เลยล่ะ ฉันไม่อยากกลายเป็นเครื่องมือ จึงยอมเป็นหุ่นเชิดดีกว่า”
ลู่ฝานถามว่า “ทำไมพวกเขาถึงจับนายล่ะ”
หัวกะโหลกพูดว่า “ไม่รู้ แก้แค้น ความอาฆาตหรือฆ่าเพราะอารมณ์ มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น ไม่แน่ฉันอาจไปได้กับเมียของผู้ฝึกชั่วร้ายคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงมาฆ่าฉัน ฉันก็ดวงซวย วิทยายุทธอยู่ในช่วงว่างเปล่าพอดี เลยทำให้พวกเขาฉวยโอกาสได้ ไม่งั้น หึหึ แค่คนกระจอกพวกนั้น ฉันชี้นิ้วฆ่าทีละคนยังได้”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดในตัวลู่ฝาน “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ คนนี้ขี้โม้กว่าฉันอีก”
ลู่ฝานมองหัวกะโหลก หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “นายรู้ได้ไงว่าฉันไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้าย”
หัวกะโหลกหัวเราะแล้วพูดว่า “เพราะพอนายได้ยินว่าฉันไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้าย นายก็ปล่อยตัวฉัน อีกทั้งฉันดูวิชาของนาย แม้ไม่ได้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมขนาดนั้น แต่ยังไงก็ไม่มีออร่าปีศาจหรือกลิ่นเลือด ถ้าฉันเดาไม่ผิด สหายคงพลาดเข้ามาที่นี่เหมือนกันใช่ไหม”
ลู่ฝานพยักหน้า “อืม นายเป็นคนฉลาดเหมือนกันนะ เอาล่ะฉันจะช่วยนาย แต่ถ้านายทำตัวแปลกๆ ฉันจะฆ่านายทันที เข้าใจไหม”
หัวกะโหลกหัวเราะแล้วพูดว่า “เข้าใจๆๆ ตอนนี้ฉันเป็นคนของนายแล้ว รีบขุดฉันขึ้นไปหน่อยสิ ฉันฝังอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว”
ลู่ฝานมองดินด้านล่างหัวกะโหลก มันยุบลงไปจริงๆ เหมือนโคลนไหลลงมา
ลู่ฝานปักกระบี่ลงบนพื้นแล้วพูดเสียงเบา “ระเบิด!”
ทันใดนั้นพื้นดินด้านหน้าระเบิดไม่หยุด ฝุ่นตลบอบอวล ไม่นานหลุมขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้า กระดูกขนาดใหญ่จำนวนมากกระเด็นออกมาจากหลุม
ลู่ฝานหยุดการกระทำแล้วเพ่งมอง “ร่างกายนายเหลือแค่นี้แล้วเหรอ!”
ในหลุมด้านหน้า ลู่ฝานเห็นโครงกระดูกเพียงครึ่งเดียว แขนกับกระดูกซี่โครงซีกหนึ่งหายไปแล้ว
หัวกะโหลกก็ก้มดูเหมือนกัน “ว่าแล้ว ทำไมฉันถึงขยับไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยด้วย สหายช่วยรวบรวมกระดูกฉันหน่อยได้ไหม”
ลู่ฝานกลอกตามองบน ปล่อยปราณชี่ออกมาบนตัว
ขยับฝ่ามือเล็กน้อย ใช้วิชาเทพไร้ขีดจำกัด แยกจิตออกเป็นหลายส่วน ทันใดนั้นกระดูกที่หล่นอยู่รอบหลุมลอยขึ้นมา จากนั้นเริ่มไปเชื่อมต่อกับตัวโครงกระดูก
พูดตามตรง กระดูกของกะโหลกนี่ไม่เลวจริงๆ ทั้งใหญ่ ขาวและสว่าง เจ้าดำเห็นแล้วตาเป็นประกาย เหมือนจะวิ่งเข้าไปกัดให้สะใจสักหน่อย
หัวกะโหลกยิ้มแล้วพูดว่า “ที่แท้สหายคือผู้ฝึกชี่นี่เอง ฉันเข้าใจว่านายเป็นนักบู๊ซะอีก”
ลู่ฝานไม่ได้ตอบ รีบต่อกระดูกอย่างรวดเร็ว
แค่เขาวางกระดูกถูกตำแหน่ง แสงสีขาวบนตัวโครงกระดูกจะต่อกระดูกให้แน่นเอง ลู่ฝานไม่ต้องลำบากอะไรเลย
ไม่นานก็ต่อกระดูกจนเสร็จ โครงกระดูกกระโดดขึ้นมาจากหลุม
เขาสูงมากจริงๆ สูงสิบเมตรเต็มๆ มิน่าล่ะหัวถึงใหญ่ขนาดนั้น!
เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ครู่หนึ่ง โครงกระดูกพยักหน้าอย่างพอใจแล้วพูดว่า “ใช้ได้ ดีกว่าที่ฉันคิดไว้ ฉันนึกว่าครั้งนี้ต้องตายแล้วซะอีก สหาย บุญคุณนี้ช่างมากมายจนขอบคุณยังไงก็ไม่พอ ไม่ทราบว่าสหายชื่ออะไร”
“ลู่ฝาน!”
“สหายลู่ฝาน บังเอิญเจอกันถือเป็นโชคชะตา ไม่ต้องสนใจว่าเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า! ในเมื่อเรามีวาสนาต่อกันขนาดนี้ หลังจากนี้เราเผชิญอุปสรรคด้วยกันดีไหม”
โครงกระดูกพูดกับลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม
ลู่ฝานตอบอย่างราบเรียบ “พูดอะไรที่ฉันเข้าใจหน่อย!”
โครงกระดูกหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ฉันอยากไปกับนายชั่วคราว”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ ยื่นมือไปหาโครงกระดูกแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา เอาของทั้งหมดที่เหลือในตัวนายออกมาสิ”