เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1730
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1730
เปลือกตาลู่ฝานกำลังสั่น กล้ามเนื้อบนใบหน้ากำลังกระตุก
“ช่างเถอะ นายตัวสูงใหญ่ดีกว่า สูงใหญ่แล้วรู้สึกปลอดภัยดี”
โครงกระดูกขานรับ แล้วใส่กระดูกซี่โครงกลับที่เดิม
ลู่ฝานนวดขมับตัวเองเบาๆ เดิมทีอยู่ในเขตปีศาจแห่งนี้เขาก็คิดอะไรไม่ออกอยู่แล้ว
ตอนนี้พาโครงกระดูกที่ชอบพูดมากตัวนี้มาอีก ลู่ฝานรู้สึกปวดหัวเป็นเท่าตัว
ทั้งสองเดินตรงไปข้างหน้า ไม่สนใจเรื่องทิศทางอะไรทั้งสิ้น
โครงกระดูกยังพูดฉอดๆ อยู่ด้านหลังว่ากระดูกของตัวเองพิเศษขนาดไหน แข็งแกร่งและมีคุณภาพขนาดไหน อีกทั้งยังสามารถสมานเองได้
ความคิดของลู่ฝานลอยไปไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ เขากำลังคิดว่าจะออกจากที่นี่ยังไง
จากที่โครงกระดูกพูด หาหินศักดิ์ให้เจอ เปิดเขตวิถีแล้วออกไป คือทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่ถ้าจะทำแบบนี้ต้องฆ่าผู้ฝึกชั่วร้ายหนึ่งคน ผู้ฝึกชั่วร้ายคนนี้ต้องไม่แข็งแกร่งเกินไป บนตัวก็ต้องมีหินศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งถ้าฆ่าเขาแล้วต้องรีบออกไปทันที
ลู่ฝานหันมามองโครงกระดูกแล้วถามว่า “ตอนนายฆ่าผู้ฝึกชั่วร้ายคนนั้นตาย เขาไม่ทิ้งอะไรไว้เลยเหรอ”
โครงกระดูกพูดว่า “สหายลู่ฝาน ฉันรู้ว่านายจะถามอะไร แต่ตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือก ทำได้แค่สู้สุดชีวิต ขอโทษด้วย ไม่ว่าจะเป็นหินศักดิ์สิทธิ์หรือของของเขาโดนทำลายไปหมดแล้ว”
ลู่ฝานถามว่า “ไม่มีคนมาหาเขาเลยเหรอ”
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มี คนนี้อาจไม่ใช่คนสำคัญก็ได้”
ลู่ฝานโล่งใจนิดหน่อย เขากลัวว่าฆ่าหนึ่งคนแล้วจะดึงดูดคนมาเป็นกลุ่ม
ถ้าระหว่างผู้ฝึกชั่วร้ายไม่มีการติดต่อพิเศษอะไร หรือของอย่างเช่นป้ายเกียรติยศตลอดชีวิต งั้นก็ง่ายขึ้นหน่อย
โครงกระดูกเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “แต่หลังจากเขาตาย เมฆดำที่ขอบฟ้าลอยมาเต็มไปหมด ดูแล้วไม่ปกติ”
ลู่ฝานแอบกัดฟัน ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นเมฆดำก็คือเงามืด เทวทูตปีศาจไม่ใช่หรือไง
ผู้ฝึกชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ไปไหนมั่วซั่ว เขาต้องมาเพราะมีจุดประสงค์แน่นอน มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าเขามาหาโครงกระดูกหรือไม่ก็ผู้ฝึกชั่วร้ายที่โดนโครงกระดูกฆ่า
ลู่ฝานถอนหายใจ แต่ละเรื่องไม่ง่ายเลยจริงๆ
จู่ๆ เจ้าดำที่อยู่บนไหล่เห่าออกมา เปลวไฟดำสว่างขึ้นบนตัว
ลู่ฝานรีบชะงักฝีเท้า มองไปรอบๆ จับกระบี่หนักไร้คมในมือแน่น
โครงกระดูกหมุนหัวรอบหนึ่งแล้วพูดว่า “มีอะไรเหรอ เกิดอะไรขึ้น สหายลู่ฝานเจออะไรเหรอ”
หูลู่ฝานขยับเบาๆ จู่ๆ เขาหันไปมองป่าสีเลือดทางซ้ายมือ “เหมือนมีสัตว์อสูรบางอย่างมา!”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้น
จากนั้นสัตว์อสูรตัวสูงประมาณสามเมตร มีสามขา มีปีกสองข้าง อ้าปากกว้าง ทั้งตัวเต็มไปด้วยฟัน ปรากฏตรงหน้าลู่ฝาน
ของเหลวสีเขียวที่มีกลิ่นกัดกร่อนไหลออกมาจากปากสัตว์อสูรตัวนี้อย่างต่อเนื่อง โครงกระดูกมองแวบหนึ่งแล้วพูดอย่างตกใจว่า “อสูรเหวลึก นี่คือสัตว์อสูรหายาก!”
ไฟลุกขึ้นบนตัวลู่ฝานทันที เขาจ้องอสูรเหวลึกแล้วพูดว่า “สัตว์อสูรตัวนี้เก่งมากเหรอ”
โครงกระดูกพูดว่า “พอใช้ได้ พละกำลังทั่วไป กลืนกินได้ แต่นายต้องระวัง โดยทั่วไปแล้วสัตว์อสูรประเภทเป็น……”
โครงกระดูกยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นเจ้าดำบนไหล่ลู่ฝานบินออกไปแล้ว
ตัวขยายใหญ่ มังกรดำคำรามดังสนั่น ตะปบลงบนตัวอสูรเหวลึก ในเวลาเดียวกันก็อ้าปากพ่นไฟออกมา
วินาทีต่อมา อสูรเหวลึกโดนไฟแผดเผา จากนั้นล้มลงบนพื้นทันที!
โครงกระดูกพูดคำที่เหลือจนจบด้วยเสียงเบา “โดยทั่วไปเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ฝึกชั่วร้าย!”