เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1739
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1739
คุณย่าเฉียนมองปราณชี่ที่เปลี่ยนแปลงในมือลู่ฝาน พูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อยว่า “ทำได้ยังไง”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “จากที่หนานกงสิงพูด นี่เรียกว่าวิชาลวงตา ดูเหมือนจริงมาก แต่อันที่จริงพลังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย!”
เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเหวี่ยงปราณชี่ตัวเองออกมา หลุมไฟปรากฏขึ้นบนพื้น
คุณย่าเฉียนชี้โครงกระดูกที่กำลังแย่งกระดูกกับเจ้าดำแล้วถามว่า “หนานกงสิงที่นายพูดถึงคือเขาใช่ไหม มีเพียงตระกูลหนานกงที่มีวิชาเหนือธรรมชาติแบบนี้”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เขาบอกว่าตัวเองคือองค์ชายของประเทศฉิงเทียน แต่น่าเสียดายโดนผู้ฝึกชั่วร้ายจับมา ระหว่างทางจำเป็นต้องใช้วิชาที่ทำให้พินาศไปด้วยกัน ผลเลยกลายเป็นแบบนี้”
คุณย่าเฉียนยิ้มแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายรู้หรือเปล่าว่าประเทศฉิงเทียนหมายถึงอะไร”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “ไม่รู้ อย่าบอกนะว่าประเทศนี้มีอะไรพิเศษ”
คุณย่าเฉียนพูดว่า “แน่นอนว่ามีสิ่งที่แตกต่างมาก ประเทศฉิงเทียนคือ……”
คุณย่าเฉียนยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ แสงสีแดงลอยมาจากไกลๆ พร้อมเสียงดังสนั่น กระแทกลงมาในหมู่บ้าน
“เงามืดอยู่ไหน”
ท่ามกลางฝุ่นตลบอบอวล เงาดำพูดเสียงดังก้อง
นัยน์ตาเขาเป็นสีแดงน่ากลัว ร่างกายสูงใหญ่ ด้านหลังมีปีกสี่ปีก บนหัวมีเขา
ฝุ่นหายไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือผู้ฝึกชั่วร้ายที่มีขนสีดำเต็มตัว
แขนขากำยำ ฝ่ามือเป็นกรงเล็บ ปีกสี่ปีกด้านหลังเหมือนปีกมังกร มีแสงเหมือนโลหะ เขาอันเดียวบนหัวส่องแสงระยิบระยับ
“องครักษ์มาร!”
คุณย่าเฉียนพูดเบาๆ จากนั้นใช้ไม้เท้ากระทุ้งลู่ฝาน “รับมืออย่างระมัดระวัง พละกำลังขององครักษ์มารแข็งแกร่งกว่าเทวทูตปีศาจนิดหน่อย”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แล้วก้าวไปด้านหน้า
ด้านหลัง เจ้าดำทิ้งกระดูกแล้วตามไป โครงกระดูกรีบหยิบกระดูกตัวเองมาประกอบ จากนั้นตามไปด้านหลังลู่ฝาน
ลู่ฝานหันมามองโครงกระดูกแล้วพูดเบาๆ ว่า “นายตามมาทำไม”
ควันดำปรากฏขึ้นบนตัวโครงกระดูก “สหายลู่ฝาน ตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้ากองทัพหุ่นเชิดของนายแล้ว”
ลู่ฝานกลอกตามองบน เอาหินศักดิ์สิทธิ์ออกมา
เดินมาข้างหน้าองครักษ์มาร ลู่ฝานยกหินศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาแล้วพูดว่า “ฉันคือเงามืดคนใหม่”
องครักษ์มารมองหินศักดิ์สิทธิ์สองสามครั้ง จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ ไอ้เด็กกะเทยคนก่อนตายแล้วเหรอ”
ลู่ฝานพูดว่า “ใช่ ตายคามือฉันเอง กฎยังเหมือนเดิมใช่ไหม ฉันได้ทุกอย่างของเขา!”
จู่ๆ องครักษ์มารหัวเราะ นัยน์ตาฉายแววประหลาด เขายื่นมือไปหาลู่ฝาน “กฎเหรอ แน่นอนว่า……”
พูดได้ครึ่งหนึ่ง องครักษ์มารปล่อยแสงโลหิตออกมาโจมตีใส่คอลู่ฝาน
อยู่ดีๆ แววตาเป็นประกาย ปล่อยวิชาชิงวิญญาณออกมา
แสงโลหิตหายไปทันที ตัวองครักษ์มารโงนเงนเล็กน้อย
“วิชาดับวิญญาณ ไม่ธรรมดาเลยนะ!”
องครักษ์มารยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
ลู่ฝานเอากระบี่หนักไร้คมของตัวเองออกมา “ถ้านายอยากสู้ ฉันสนองให้!”
องครักษ์มารรีบถอยไปด้านหลังแล้วพูดว่า “สหายที่เพิ่งมาใหม่ อย่าโมโหขนาดนั้นสิ นี่แค่ลองเชิงว่านายเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับหรือเปล่า นายรับการทดสอบ ฉันจะได้แจ้งชื่อนายกับธิดาเทพแห่งไฟ จากนั้นพื้นที่รัศมีล้านลี้รอบๆ ก็คือเขตพื้นที่ของนาย”
ลู่ฝานพูดว่า “แล้วถ้าเมื่อกี้ฉันรับไม่ไหว ก็ตายคามือนายงั้นสิ”