เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 175
บทที่ 175
ฮ่วนเย่ว์ตบหลังลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ดีบ้าอะไรล่ะ นายกลับไปศึกษาดูละกัน นายได้วิชาหมัดแล้ว ฉันยังไม่ได้อะไรเลย นายพักเสร็จหรือยัง รีบมาช่วยฉันหาเคล็ดวิชาบู๊สิ”
ลู่ฝานสัมผัสอาการในร่างกายตัวเอง ปราณชี่กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เพียงครู่เดียว เขาฟื้นฟูได้เกือบครึ่งแล้ว
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ได้ แต่ครั้งนี้เธอต้องเร็วหน่อย”
ฮ่วนเย่ว์พูดเสียงดังว่า “ไม่มีปัญหา เมื่อกี้ฉันใช้ชี่หยินหยางด้วย รีบลงมือตอนที่พลังของฉัน ยังอยู่ในจุดสูงสุด”
ฮ่วนเย่ว์พูดพลาง เปลี่ยนพลังปราณเป็นแส้ยาวอีกครั้ง เธอเหวี่ยงเข้าไปในทะเลดาวแห่งเคล็ดวิชาบู๊
ครั้งนี้ ฮ่วนเย่ว์เลือกดาวดวงที่ใหญ่กว่าเมื่อกี้
มีแสงสีขาวดำ พุ่งขึ้นจากใต้เท้า ฮ่วนเย่ว์แผดเสียงเบาๆ พลังปราณทั้งตัวพุ่งถึงจุดสูงสุด ผ้าคลุมลายดอกบัวสีแดงเพลิง ปกคลุมตัวเธอเอาไว้ ทำให้เธอเหมือนเซียนหญิงบนสวรรค์
ลู่ฝานสังเกตว่าปราณนอกของฮ่วนเย่ว์ในตอนนี้ ไม่ใช่แค่ขั้น 1-2 แล้ว
เห็นชุดคลุมลายดอกบัวอันงดงาม เหมือนดอกบัวสีแดงเพลิงเบ่งบาน ลวดลายเหมือนจริงมาก ลำแสงเคลื่อนไหวไปมา
พละกำลังระดับนี้ อย่างน้อยคงต้องมีผลการฝึกตน ปราณภายนอกขั้นสามแล้ว
นี่ระยะเวลาแค่ครึ่งปีกว่า ความเร็วการฝึกฝนของฮ่วนเย่ว์ เร็วจนเหนือมนุษย์
“ลู่ฝาน อึ้งอะไรล่ะ แสงกระบี่มาแล้ว”
ลู่ฝานได้ยิน จึงหลุดออกจากภวังค์ รีบยกกระบี่หนักในมือขึ้นมา
แสงกระบี่โจมตีมากมายเหมือนเมื่อครู่ จากนั้นเคลื่อนไหวมาทางด้านหลัง
มีประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว จึงรับมือการโจมตีครั้งที่สองได้ง่ายมาก หลังใช้พลังไปเยอะ ฮ่วนเย่ว์เกี่ยวเคล็ดวิชาบู๊ออกมา
เมื่อเห็นตัวอักษรบนปก ฮ่วนเย่ว์หัวเราะออกมา
“วิชาแบ่งร่างลวงตา ของดี ฉันเอาเล่มนี้แหละ คิดไม่ถึงว่าในหอคอยฝึกฝน จะมีของดีจริงๆ ตาเฒ่านั่นไม่ได้หลอกฉัน”
ลู่ฝานอยากถามว่าไอ้แก่ ที่ฮ่วนเย่ว์พูดถึงเป็นใคร แต่คำพูดติดอยู่ตรงปาก ไม่ได้ถามออกมา
ไม่มีเหตุผลอื่นใด เพราะฮ่วนเย่ว์เอาหยกแขวนสีขาวออกมา ข้างบนมีลวดลายมากมาย เห็นได้ชัดว่าเป็นค่ายกลชนิดหนึ่ง
ฮ่วนเย่ว์ใส่พลังปราณลงไป ตะโกนใส่หยกแขวนว่า “ตาเฒ่า ฉันได้เคล็ดวิชาบู๊แล้ว เล่มนี้ ฉันเอาไปแล้วนะ!”
ลู่ฝานยื่นหน้าเข้ามาดู ในหยกแขวนมีภาพลวงตาปรากฏขึ้นมา เป็นใบหน้าของท่านผอ.
ท่านผอ.มองฮ่วนเย่ว์อย่างเหนื่อยใจ “แกอยากเรียนก็เรียน ทำไมต้องเอาไปด้วย”
ฮ่วนเย่ว์พูดว่า “ฉันไม่ชอบเคล็ดวิชาบู๊ที่ฉันเคยเรียนแล้ว คนอื่นก็ทำได้ เพราะคนที่ใช้กระบวนท่าเหมือนฉันยิ่งน้อยยิ่งดี ฉันเอาเคล็ดวิชาบู๊ไป อย่างมากก็รอให้ฉันฝึกสำเร็จ แล้วค่อยคืนให้”
ท่านผอ.ส่ายหัวพูดว่า “ช่างเถอะ แกเอาไปเถอะ”
พูดพลาง ลำแสงหนึ่งออกมาจากหยกแขวน เข้าไปยังหนังสือในมือฮ่วนเย่ว์ แสงสีแดงลอยขึ้นจากด้านล่างหนังสือ จากนั้นหายไปในอากาศ เมื่อเป็นเช่นนี้ เครื่องหมายที่สถาบันสอนวิชาบู๊ทำไว้บนหนังสือจึงหายไป หนังสือเล่มนี้ จึงเป็นหนังสือของฮ่วนเย่ว์
ฮ่วนเย่ว์เก็บหยกแขวน เอาหนังสือใส่ลงไปในเส้นด้ายสีแดงที่สวมไว้ตรงมือซ้าย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ด้ายแดงบนมือเธอต้องเป็นสิ่งอากาศธาตุแน่นอน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ ฮ่วนเย่ว์หัวเราะ แล้วพูดกับลู่ฝานว่า “ฮ่าๆ ได้เคล็ดวิชาบู๊ระดับดินมาแล้ว เคล็ดวิชาบู๊ระดับดินแบบนี้ โดนพวกแก่ๆ ในสถาบันสอนวิชาบู๊เห็นว่าเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่ยอมให้นักเรียนเอาออกจากหอคอย แต่ตัวเองขจัดข้อห้ามออกไปก็ได้ เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์เอาออกไปได้ แต่ระดับดินเอาออกไปไม่ได้ กฎบ้าบออะไร เหอะๆ ฉันไม่คืนเขาหรอก ของที่อยู่ในมือฉันก็คือของฉัน ต่อไปเอาหนังสือเล่มนี้กลับบ้าน ฉันจะได้ฝึกให้น้องสาวฉัน ไม่แน่ อาจฝึกให้หมูที่ฉันเลี้ยงได้ด้วย”
ลู่ฝานพูดอะไรไม่ออก เธอช่างมีอารมณ์คิดเช่นนี้
ฮ่วนเย่ว์ใช้เท้าเหยียบหัวหุ่นสีทองอย่างแรง สองสามครั้ง แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ไอ้ยักษ์โง่ เราทำได้แล้ว ส่งเราออกไปเถอะ”
ลู่ฝานรีบพูดว่า “เดี๋ยว ฉันยังมีเวลาอีกนิดหน่อย ฉันจะไปหาเคล็ดวิชาที่สองสามชั้นด้านล่าง”
ฮ่วนเย่ว์พูดอย่างสงสัย “สองสามชั้นด้านล่างเหรอ นายหมายถึงเคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์งั้นเหรอ จะเอาเคล็ดวิชาบู๊ไร้ประโยชน์แบบนั้นไปทำไม”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ มองฮ่วนเย่ว์ ไม่ได้ตอบอะไร
คนที่มีเซียนบู๊แดนหยินหยางเป็นอาจารย์อย่างฮ่วนเย่ว์ เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์ จึงไม่มีประโยชน์อะไรนัก
แต่สำหรับลู่ฝาน เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์มีประโยชน์มาก ไม่เห็นเหรอว่าของล้ำค่าของตระกูลลู่ก็แค่เคล็ดวิชาบู๊ระดับทิพย์ขั้นต่ำเพียงเล่มเดียวเท่านั้น เอามาอีกสักสองสามเล่ม เมื่อกลับบ้าน จะได้ถือว่าทำประโยชน์ให้ตระกูล ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ฝานจำได้ว่าต้องเอาให้หลิงเหยาเล่มหนึ่งด้วย
ฮ่วนเย่ว์มองรอยยิ้มของลู่ฝาน จึงโบกมือไปมา แล้วพูดว่า “โอเคๆ ฉันไปกับนายละกัน มีฉันอยู่ เคล็ดวิชาบู๊ชั้นด้านล่าง นายจะเลือกอันไหนก็ได้ หึ ถ้าเลือกยาก ก็ให้ไอ้ยักษ์โง่พวกนั้น แนะนำให้นาย ใช่ไหม ไอ้ยักษ์โง่”
หุ่นสีทองถอนหายใจยาว มันรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งว่าการเป็นหุ่น ไม่ง่ายเลยจริงๆ
ทั้งสองเด้งตัวลงจากหัวของหุ่นสีทอง เหมือนฮ่วนเย่ว์นึกอะไรได้ โยนอัญมณีแวววาวไปทางหุ่นสีทอง