เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1755
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1755
ลู่ฝานชักกระบี่หนักไร้คมออกมา มองมดยักษ์ด้านหน้าด้วยสายตาหวาดระแวง
แม้มันดูเหมือนมดธรรมดา แต่ตัวใหญ่ขนาดนี้ ไม่แน่อาจกลายเป็นสัตว์อสูรแข็งแกร่งไปนานแล้ว
มดเห็นการกระทำของลู่ฝาน คิดไม่ถึงว่ามันจะหันหลังวิ่งหนีไป
โครงกระดูกหัวเราะร่าอยู่ข้างๆ “สหายลู่ฝาน ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก นี่แค่มดธรรมดาๆ เท่านั้น”
ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “มดธรรมดา นายกำลังล้อฉันเล่นเหรอ”
โครงกระดูกชี้ไปไกลๆ แล้วพูดว่า “ไม่ได้หลอกนายจริงๆ นายดูเองสิ!”
ลู่ฝานมองตามที่โครงกระดูกชี้ไป สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือมดยักษ์นับไม่ถ้วน รวมถึงต้นไม้ที่ใหญ่ยักษ์กว่าด้วย
ต้นไม้เพียงต้นเดียวดูเหมือนภูเขาลูกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
และมดพวกนี้กำลังขนย้ายศพแมงมุมตัวหนึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ ขนาดของแมงมุมตัวนั้นก็ใหญ่มากเหมือนกัน
ลู่ฝานอ้าปากเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนเข้ามาในเมืองยักษ์
มิน่าล่ะถึงหนานกงสิงตายไปแล้ว โครงกระดูกยังใหญ่ขนาดนี้ ขนาดตัวของเขาในประเทศฉิงเทียนถือว่าเล็กแล้ว
ลู่ฝานแอบเดา โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ประเทศฉิงเทียนของเราเป็นแบบนี้แหละ เพราะพลังชี่อุดมสมบูรณ์เกินไป ดังนั้นไม่ว่าสัตว์หรือพืชของที่นี่จะสูงใหญ่นิดหน่อย!”
ลู่ฝานพูดว่า “นี่เรียกว่านิดหน่อยเหรอ”
โครงกระดูกหัวเราะร่าแล้วก้าวไปข้างหน้า
มดรอบๆ เห็นด้านล่างเท้ามีคนมารวมถึงโครงกระดูกที่ตัวใหญ่เหมือนมัน พวกมันรีบแยกย้ายทันที
แม้พวกมันตัวใหญ่ แต่ความกล้าก็เหมือนมดธรรมดาทั่วไป
ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักไร้คมแล้วถามว่า “แล้วคนที่นี่ก็สูงใหญ่แบบนี้เหรอ”
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “คนทั่วไปค่อนข้างสูงใหญ่ แต่คนที่วิทยายุทธแข็งแกร่ง ไม่ว่าเป็นผู้ฝึกชี่หรือนักบู๊ จะหดตัวเล็กลงเอง เหมือนฉันที่สามารถหดตัวให้เหลือแค่สิบเมตร ถือว่าเก่งมากแล้ว ถ้านายเจอคนที่ตัวสูงประมาณนาย นายต้องระวังตัวไว้นะ นั่นคือผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่ระดับอริยปราชญ์แล้ว”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ เหมือนคนในประเทศฉิงเทียนยิ่งตัวเล็กยิ่งเก่ง ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ
ลู่ฝานถามอีกว่า “แล้วสัตว์อสูรล่ะ สัตว์อสูรที่นี่ยิ่งตัวเล็กยิ่งเก่งหรือเปล่า”
โครงกระดูกส่ายหน้า “ขอโทษด้วย สหายลู่ฝาน ที่ประเทศฉิงเทียนไม่มีสัตว์อสูร มีแค่สัตว์เลี้ยงตามบ้านเท่านั้น เรียกว่าอสูรวิเศษ”
ขณะกำลังพูดอยู่ โครงกระดูกจับมดตัวใหญ่ประมาณ 10 กว่าเมตรแล้วลากมันเข้ามา “สหายลู่ฝาน มาๆ ขึ้นมานั่งสิ เราจะได้ไปเร็วขึ้นหน่อย!”
ลู่ฝานกระโดดขึ้นมาบนหลังมด โครงกระดูกก็ขึ้นมานั่งเหมือนกัน
จากนั้นลู่ฝานเห็นโครงกระดูกใส่แสงเข้าไปในตัวมด มดเคลื่อนตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานรู้สึกว่าความเร็วนี้เร็วกว่านักบู๊แดนปราณดินเยอะมาก
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “นี่คือทักษะที่คนประเทศฉิงเทียนทำเป็นทุกคน เป็นวิชาฝึกสัตว์ ไว้วันไหนจะพานายไปเดินเล่นที่หอฝึกสัตว์ ช่วยนายเลือกสัตว์บกดีๆ สักตัว เรียกว่าเร็วปานลมกรดและสายฟ้าแลบเลยล่ะ”
เมื่อได้ยินคำว่าหอฝึกสัตว์ ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ “ที่นี่มีหอฝึกสัตว์ด้วยเหรอ”
โครงกระดูกหัวเราะร่า “ในใต้หล้ามีที่ไหนไม่มีหอฝึกสัตว์บ้างล่ะ สี่โลกสามอำนาจเคยได้ยินไหม”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่เคย”
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนสหายลู่ฝานมาจากประเทศเล็กๆ จริงด้วย สี่โลกก็คือแดนตะวันออก เขตตะวันตก เขตใต้ เขตเหนือ สามอำนาจก็คือสำนักเงินปาฟาง หอฝึกสัตว์ และเจดีย์ยา พวกมันคือสามอำนาจที่แข็งแกร่งสุดในใต้หล้า เก่งกว่าประเทศฉิงเทียนของเราเยอะ!”