เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1756
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1756
ลู่ฝานอ้าปากเบาๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าสามอย่างนี้เรียกว่าสามอำนาจ
ลู่ฝานพูดว่า “บ้านเกิดฉันมีทั้งสามอย่างนี้ พวกมันคือสามอำนาจแข็งแกร่งสุดในสี่โลกเหรอ”
โครงกระดูกเห็นท่าทางเหลือเชื่อของลู่ฝานก็หัวเราะอย่างมีความสุข
โครงกระดูกพูดว่า “อันที่จริงประเทศฉิงเทียนคือฐานใหญ่ของหอฝึกสัตว์ สหายลู่ฝาน รอนายถึงเมืองฉิงเทียน ดูเองแล้วจะรู้”
ลู่ฝานพยักหน้า
ทั้งสองคนเคลื่อนตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางทั้งสองคนเจอเม่นตัวใหญ่หลายสิบเมตร มันวิ่งเร็วกว่ามดเล็กน้อย ทั้งสองคนกำราบมันอย่างไม่ลังเล
จากนั้นจับมันมาทำเป็นพาหนะนั่งอยู่บนหลังเม่นหนึ่งวันเต็มๆ
ในที่สุดลู่ฝานเห็นรูปร่างของเมืองฉิงเทียนแล้ว
ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ลู่ฝานรู้สึกเหมือนเห็นเมืองอู่อานครั้งแรก แต่ที่นี่ใหญ่กว่าเมืองอู่อานมาก
กำแพงเมืองสูงตระหง่าน สูงทะลุเข้าไปในเมฆ มองไม่เห็นเลยว่าสูงขนาดไหน
ตอนลู่ฝานกำลังเอ่ยชม โครงกระดูกพูดว่า “ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านนอกเมืองแล้ว สหายลู่ฝาน ผ่านหมู่บ้านนี้ไปเราก็ใกล้ถึงเมืองฉิงเทียนแล้ว”
เอาเถอะ ลู่ฝานหมดคำจะพูดแล้วจริงๆ
กำแพงเมืองสูงใหญ่ขนาดนี้ เป็นแค่หมู่บ้านงั้นเหรอ
หลังผ่านไปสามวัน ในที่สุดลู่ฝานกับโครงกระดูกก็เข้ามาในหมู่บ้านแล้ว แม้โครงกระดูกบอกว่านี่เป็นหมู่บ้านธรรมดา แต่ลู่ฝานเห็นแล้วก็ยังตกตะลึง
คน บ้านเรือน ทุกอย่างของที่นี่ บรรยายได้เพียงคำว่าใหญ่ยักษ์
ลู่ฝานมองคนที่เดินผ่าน เป็นยักษ์ที่ตัวสูงหลายสิบเมตร รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่มดตัวหนึ่ง
ตอนอยู่ที่ประเทศอู่อาน เขาเคยเห็นเผ่ายักษ์ทิพย์ แต่ตอนนั้นเห็นไม่เยอะ แค่ครั้งคราวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกอะไร
แต่ที่นี่เป็นยักษ์ทั้งหมด
สิ่งที่ทำให้สีหน้าเขายิ่งแปลกประหลาดคือ เมื่อคนพวกนี้เห็นมนุษย์ตัวเล็กด้านล่างเท้า กลับชะงักฝีเท้าลง โน้มตัวลงมาพูดอย่างตกใจว่า “พระเจ้า ตัวเล็กขนาดนี้ ท่านเซียนบู๊หรือท่านอริยปราชญ์แวะมาที่หมู่บ้านล่ะเนี่ย”
“ท่านเซียนบู๊อยู่ไหน ฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน!”
“ท่านเซียนบู๊พาโครงกระดูกเก่งกาจมาด้วย สูงขนาดนี้อย่างน้อยต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนปราณฟ้า!”
“ฉันว่าไม่น่าใช่ เป็นคนประเทศอื่นหรือเปล่า!”
……
ลู่ฝานพูดอะไรไม่ออก เขาเคยโดนคนห้อมล้อม แต่ไม่เคยแปลกประหลาดเหมือนวันนี้เลย
นายเข้าใจความรู้สึกที่ยักษ์หมอบลงกับพื้น พ่นน้ำลายออกมาเหมือนน้ำแล้วจ้องตัวเองไหม
โครงกระดูกมองออกว่าสีหน้าลู่ฝานแปลกไป รีบดึงลู่ฝานเข้าไปในร้านเหล้าข้างๆ ทันที
โครงกระดูกกระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์แล้วตะโกนว่า “เอาเหล้ามา”
เจ้าของร้านรีบพยักหน้าคำนับ รอยยิ้มอยู่บนใบหน้าใหญ่อวบอิ่มไปด้วยไขมัน
ทั้งสองหาเก้าอี้นั่ง ลู่ฝานตัดสินใจนั่งบนโต๊ะ
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ความรู้สึกถูกจ้องมองเป็นไงบ้างล่ะ”
ลู่ฝานยิ้มแห้ง
โครงกระดูกพูดต่อ “วางใจเถอะ แค่ช่วงนี้เท่านั้น รอเริ่มการแข่งนานาประเทศ ที่นี่จะเต็มไปด้วยคนประเทศอื่น พวกเขาก็ไม่ทำตัวแปลกๆ แบบนี้แล้ว!”
ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “การแข่งนานาประเทศเหรอ นายหมายความว่าการแข่งนานาประเทศจะจัดที่นี่เหรอ”
โครงกระดูกพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ประเทศฉิงเทียน เป็นสถานที่จัดการแข่งนานาประเทศมาตลอด อย่าบอกนะว่านายไม่รู้!”