เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1764
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1764
เพราะใบหน้าเขาใหญ่ ลองเป็นคนทั่วไปสิ ตอนนี้คงไม่ใช่แค่หน้าบวมแน่ๆ
ลู่ฝานพูดว่า “พูดต่อสิ หนานกงฉวนให้พวกนายทำร้ายองค์ชายใหญ่ทำไม มีจุดประสงค์อะไร”
เสี่ยวลิ่วจื่อเงยหน้ามองลู่ฝาน “ท่านเทวทูต มีแค่พวกคุณที่รู้ความจริงไม่ใช่เหรอ ลูกน้องอย่างเราจะรู้ได้ยังไง เราแค่……”
ยังไม่ทันพูดจบ สีหน้าของเสี่ยวลิ่วจื่อชะงักไป
ลู่ฝานรู้สึกผิดปกติ เข้ามาจับตัวโครงกระดูกแล้วกลายเป็นลำแสงลอยออกไป
วินาทีที่เขาออกไป ร่างของพวกเสี่ยวลิ่วจื่อระเบิดทันที
ระเบิดน่ากลัวทำให้เขาถล่มดินทลาย มิติบิดเบี้ยว
พลังโถมเข้ามาจนพื้นดินกลายเป็นคลื่น เมฆระเบิดเหมือนดอกเห็ดกลางอากาศ
ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำบริเวณรอบๆ พังทลายและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ลู่ฝานป้องกันอยู่ด้านหน้าโครงกระดูก กระบี่หนักไร้คมต้านทานแรงระเบิดไว้
ผ่านไปนานกว่าทุกอย่างจะสงบลง
ลู่ฝานกับโครงกระดูกจมอยู่ในฝุ่น
ตวัดกระบี่หนักไร้คม ฝุ่นควันกระจายออกไปหมด
ลู่ฝานมองความเละเทะรอบๆ แล้วพูดว่า “อันตรายมาก สหายหนานกงไม่เป็นไรใช่ไหม!”
ตอนนี้โครงกระดูกมีรอยร้าวทั้งตัว เห็นด้วยตาเปล่าว่าแสงสีขาวกระเพื่อมอยู่บนตัวเขา รักษาบาดแผลบนกระดูกอย่างต่อเนื่อง
“ขอโทษด้วย สหายลู่ฝาน ทั้งหมดเป็นความผิดฉันเอง ฉันไม่ได้คิดว่าหลังกลับมาประเทศฉิงเทียนจะอันตรายกว่าอยู่ในเขตปีศาจ”
น้ำเสียงโครงกระดูกดูเศร้าสลด
เจ้าดำปรากฏตัวขึ้นบนไหล่ลู่ฝานอีกครั้ง
ลู่ฝานเอายาขวดหนึ่งออกมาเติมพลังให้เจ้าดำ ในเวลาเดียวกันก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก คนอย่างฉันไปไหนก็มีแต่เรื่องอยู่แล้ว ถ้าสงบเกินไปก็ไม่ค่อยชินเท่าไร”
โครงกระดูกถอนหายใจแล้วพูดว่า “เสี่ยวลิ่วจื่อเป็นคนใช้ที่โตมากับฉัน ฉันปฏิบัติกับเขาเหมือนคนในครอบครัว คิดไม่ถึงว่าเขาเข้าสู่วิถีมารแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างสมบูรณ์ แม้แต่วิทยายุทธยังเข้าสู่วิถีแล้วด้วย”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เข้าสู่วิถีเหรอ เกรงว่าจะมีแต่ลมน่ะสิ แดนปราณฟ้าอย่างเขาอ่อนแอกว่าแดนปราณฟ้าที่ฝึกฝนมาอย่างถูกต้องเยอะมาก จิตวิญญาณไม่มั่นคง พละกำลังก็แย่ ส่วนวิถีของเขาก็อ่อนแอจนน่าสงสาร แม้แต่วิถีห้าธาตุก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลย น่าจะใช้วิชาของผู้ฝึกชั่วร้ายฝืนยกระดับขึ้นมา”
โครงกระดูกพยักหน้าพูดว่า “น่าจะใช่ แล้วก็คงมีแค่ผู้ฝึกชั่วร้ายที่ฝืนยกระดับขึ้นมา ตราประทับระเบิดที่อยู่ในตัวถึงสามารถบังคับให้พวกเขาระเบิดตัวตายได้ สหายลู่ฝาน เราโดนจับตามองแล้วล่ะ ไม่แน่อาจมีผู้ฝึกชั่วร้ายจับตามองเราอยู่นอกรัศมีไม่กี่ลี้”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าเป็นแบบนั้น เสี่ยวลิ่วจื่อคงตายตั้งแต่ยังไม่ทันพูดชื่อหนานกงฉวนแล้ว ฉันว่าคนที่ควบคุมพวกเขาน่าจะคำนวณเวลาอยู่ไกลแสนไกล พวกเขารู้สึกว่าเวลาพอประมาณแล้ว จึงทำให้พวกเสี่ยวลิ่วจื่อระเบิดตัวเองตาย แค่แน่ใจว่าพวกเสี่ยวลิ่วจื่อเจอพวกเราก็พอแล้ว เพราะไม่ว่าพวกเสี่ยวลิ่วจื่อทำยังไง พวกเขาก็กลายเป็นเหยื่อสังเวยอยู่แล้ว ระเบิดพวกเราให้ตายตามไปด้วย”
โครงกระดูกพูดว่า “อืม นายพูดถูก น่าจะเป็นเช่นนี้ แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าพละกำลังของสหายลู่ฝานเหนือกว่าที่พวกเขาคิดไว้”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ แต่ถ้าเราไปข้างหน้าต่อ พวกเขาต้องเจอเราแน่นอน สิ่งที่รอเราอยู่ไม่ใช่แค่แดนปราณฟ้าเส็งเคร็งแบบเสี่ยวลิ่วจื่อแน่ๆ ไม่แน่อาจเจออริยปราชญ์ก็ได้”
โครงกระดูกกัดฟันพูดว่า “พวกเขาจะเอาฉันถึงตาย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้ฝึกชั่วร้ายถึงใช้ทุกวิถีทางเพื่อเล่นงานฉัน แม้ฉันเป็นองค์ชายใหญ่ แต่ไม่ใช่คนมีอำนาจ แม้แต่ไท่จื่อก็ยังไม่ใช่ด้วยซ้ำ ทำไมถึงเล่นงานฉันแค่คนเดียว โดยเฉพาะหนานกงฉวน เขายิ่งไม่มีเหตุผลให้……”
โครงกระดูกพูดต่อไม่ได้แล้ว เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
ลู่ฝานดูออกว่าโครงกระดูกสนิทสนมกับหนานกงฉวนซึ่งเป็นน้องชายคนที่สี่มาก
แต่ลู่ฝานเคยได้ยินประโยคนี้ พวกจักรพรรดิไม่สนเรื่องครอบครัว
ลู่ฝานชะงักไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “สหายหนานกงจะกลับเมืองฉิงเทียนอีกไหม ถ้านายอยากรักษาชีวิตเอาไว้ ฉันขอเสนอให้นายอยู่ห่างจากเมืองฉิงเทียนมากเท่าไรยิ่งดี ฉันเชื่อว่าประเทศฉิงเทียนกว้างใหญ่ไพศาล ซ่อนตัวในป่าสักแห่ง ปล่อยให้พวกเขาหาไป”
โครงกระดูกส่ายหน้า ลุกขึ้นพูดว่า “ไม่ คนตระกูลหนานกง ไม่มีคนทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ฉันจะกลับวัง ถามน้องสี่ต่อหน้าว่าทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้ ฉันไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนเลวไร้ความรู้สึก ไร้คุณธรรมและเนรคุณแบบนี้!”
โครงกระดูกหันมาคำนับลู่ฝานแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน การเดินทางครั้งนี้ ขอบคุณที่นายช่วยดูแล การเดินทางครั้งนี้อันตรายจริงๆ ต่อจากนี้ฉันยินดีเดินทางคนเดียว สหายลู่ฝาน หลังกลับเมืองฉิงเทียน ถ้าฉันยังมีชีวิตรอด ฉันจะตอบแทนบุญคุณนายแน่นอน!”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “สหายหนานกงจะไปเผชิญหน้าเองเหรอ”
โครงกระดูกพูดว่า “นี่เป็นเรื่องในครอบครัวฉัน”
เมื่อพูดจบ โครงกระดูกเดินไปข้างหน้า
ลู่ฝานมองแผ่นหลังบอบบางของโครงกระดูกแล้วพูดว่า “สหายหนานกง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว นายคิดว่าฉันจะไปแบบนี้เหรอ เหอะๆ สหายหนานกง ในเมื่อนายอยากเจอน้องสี่ของนาย อันที่จริงฉันมีอยู่วิธีหนึ่ง อย่างน้อยทำให้เราเจอเขาอย่างปลอดภัย”
โครงกระดูกชะงักฝีเท้าลงแล้วหันมาพูดว่า “สหายลู่ฝานพูดจริงเหรอ”
ลู่ฝานเล่นหินศักดิ์สิทธิ์ในมือแล้วพูดว่า “จริงสิ ฉันไม่เอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นหรอก!”