เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1766
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1766
“ดี! จัดการเรื่องนี้ได้ยอดเยี่ยมมาก ดูเหมือนฉันต้องเอาพวกในจวนฉันออกมาฝึกบ้างแล้วล่ะ”
“อืม นี่เป็นวิธีที่ดีจริงๆ”
ทั้งสามคนพูดพลางกินอาหารและดื่มเหล้าต่อ
ขณะนั้นมีแสงหนึ่งลอยมาจากข้างนอก ร่วงลงมาบนโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว
จากนั้นแสงแปรเปลี่ยนเป็นม่านแสงสีดำตรงหน้าทั้งสามคน มีหน้าคนโผล่ออกมาตรงกลาง
“เตี้ยนเซี่ย ฉันมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง!”
ไอ้สี่ยิ้มแล้วพูดว่า “นายจะแจ้งเตี้ยนเซี่ยคนไหน เรามีกันตั้งสามคน”
ใบหน้าคนอึ้งไป จากนั้นตอบว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นองค์ชายสี่ เตี้ยนเซี่ยหนานกงฉวน”
ไอ้สี่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “กล้ามาก นายกล้าเรียกชื่อจริงฉันเหรอ อยากตายหรือไง”
ใบหน้าในม่านแสงพูดอย่างตระหนก “ฉันผิดไปแล้ว เตี้ยนเซี่ยโปรดอภัยให้ด้วย”
ไอ้สี่โบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ ฉันกำลังกินข้าวกับเตี้ยนเซี่ยสาม เตี้ยนเซี่ยห้าอยู่ ถ้าเรื่องที่นายจะพูดไม่สำคัญพอ ระวังฉันจะไล่นายไปเฝ้าสุสาน รีบพูดมา!”
ใบหน้าคนรีบพูดว่า “โครงกระดูกที่สงสัยว่าเป็นองค์ชายใหญ่หนานกงสิงเข้ามาในเมืองฉิงเทียนแล้ว!”
เมื่อไอ้สี่ได้ยินก็ตบตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง “อะไรนะ เขายังไม่ตายงั้นเหรอ เขาอยู่ไหน พวกนายตามไปหรือเปล่า”
เตี้ยนเซี่ยสาม เตี้ยนเซี่ยห้าที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้ว ความวุ่นวายนี่จะเรียกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะเรียกว่าเล็กก็ไม่เล็ก!
ใบหน้าคนในม่านแสงพูดด้วยสีหน้าประหลาด “เตี้ยนเซี่ย ไม่ใช่แค่ตาม อันที่จริงพวกเขาโดนเราจับที่นอกเมืองแล้ว แต่ว่า……”
เมื่อไอ้สี่ได้ยินว่าจับได้แล้ว สีหน้าเขาดีขึ้นไม่น้อย “แต่อะไร”
ใบหน้าคนรีบตอบว่า “แต่ยังมีคนมากับเขาอีกหนึ่งคน ถือหินศักดิ์สิทธิ์หน่วยย่อยที่ 33 ไว้ในมือ บอกว่าตัวเองเป็นเทวทูตของหน่วยย่อยที่ 33 ส่วนโครงกระดูกนั่นเป็นรางวัลที่เขาได้จากการรบ ห้ามคนอื่นมายุ่ง วิทยายุทธของเขาสูงมาก มีเกราะปีศาจด้วย เหมือนเป็นคนใหญ่คนโต เราไม่กล้าแตะต้องเขา ทำได้แค่คุ้มกันเขาเข้ามาในเมืองฉิงเทียน”
ไอ้สี่สีหน้าประหลาด ทั้งสามคนมองหน้ากัน เห็นความตกใจในแววตาของอีกฝ่าย
จู่ๆ ไอ้สี่พูดว่า “พาพวกเขาไปที่จวนฉัน ฉันจะเจอเทวทูตของหน่วยย่อยที่ 33 ด้วยตัวเอง”
……
ที่ประตูเมืองฉิงเทียนในตอนนี้
ลู่ฝานเงยหน้ามองประตูเมืองที่เหมือนถ้ำสวรรค์ ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
โครงกระดูกข้างเขามองยักษ์จำนวนมากที่อยู่รอบๆ อย่างหวาดระแวง แล้วพูดเสียงเบาว่า “สหายลู่ฝาน นายมั่นใจเหรอว่าพวกเขาจะพาเราไปเจอน้องสี่”
ลู่ฝานขยับปากเบาๆ ส่งกระแสจิตพูดว่า “จะไปเจอน้องสี่ของนายหรือเปล่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ต้องไปเจอผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังแน่นอน สหายหนานกง นายเตรียมตัวเจอเซอร์ไพรส์ใหญ่ได้เลย”
โครงกระดูกพูดอย่างตกใจเล็กน้อย “เซอร์ไพรส์ใหญ่เหรอ ทำไมฉันต้องเซอร์ไพรส์ด้วย สหายลู่ฝานดูอะไรออกอีกแล้วเหรอ”
ลู่ฝานหันมามองทหารยักษ์ชุดเกราะหน้าประตูแล้วพูดว่า “เพราะดูจากผู้ฝึกชั่วร้ายที่พาเราเข้ามา เหมือนการป้องกันเมืองของประเทศฉิงเทียนโดนพวกเขาควบคุมแล้ว เราเข้ามาไม่โดนสอบสวนอะไรเลย นี่ปกติเหรอ สหายหนานกงคิดดูดีๆ องค์ชายใหญ่แบบนาย ยังไม่มีอำนาจควบคุมการป้องกันเมือง แล้วพวกเขาทำได้ยังไง พวกเขาจะทำอะไรกันอีก”