เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1768
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1768
มังกรเก้าตัวลากรถ การปฏิบัติแบบนี้ ถ้าเป็นที่อื่นคงไม่กล้าคิดเลย
แต่ที่นี่ เอ่อ……
คนขับรถม้ายื่นมือยักษ์มาหาลู่ฝานแล้วพูดว่า “ท่านเทวทูต เหรียญหัวสัตว์หนึ่งเหรียญ ออกเดินทางทันที!”
ลู่ฝานโยนยาให้เขาหนึ่งเม็ด คนขับรถม้าพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ท่านเทวทูตใจใหญ่จริงๆ”
รถม้าลอยขึ้นกลางอากาศ เคลื่อนตัวไปด้านหน้า
ไม่ต้องพูดถึงความใหญ่ของถนน ลู่ฝานสงสัยว่าถ้าเดินเอง เป็นหลายสิบปีจะถึงวังไหม
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายด้านหลังตามติดไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว
ลู่ฝานเห็นแก่ที่พวกเขาเตรียมรถม้าให้ จึงไม่ได้พูดอะไรมาก
เรียกว่ารวดเร็วปานสายฟ้าแลบ วาร์ปในชั่วพริบตา
หลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง วังประเทศฉิงเทียนในตำนานปรากฏในสายตา
รถม้าค่อยๆ หยุดลงหน้าประตูวัง วังประเทศฉิงเทียนดูเล็กไม่น้อย อย่างน้อยก็เงยหน้าเห็นขอบกำแพงเมือง
ลู่ฝานเดินออกจากรถม้า ยืนมองหน้าประตูวังอย่างละเอียด
ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งเห็นว่าประตูวังไม่สูง แต่พลังแห่งวิถีบนประตูวังแข็งแกร่งจนน่ากลัว
นี่มันประตูเมืองธรรมดาที่ไหนกันล่ะ นี่มันค่ายกลขนาดใหญ่ที่เกิดจากการสะสมของตราประทับที่สามารถรวมตัวเป็นพลังแห่งวิถีได้ชัดๆ
ในสายตาลู่ฝาน ประตูวังด้านหน้าคือค่ายกลทุกตารางนิ้ว ทุกส่วนคือวิถี
สิ่งที่ซ่อนไว้ระดับนี้แข็งแกร่งจริงๆ ถ้าพลังด้านในระเบิดออกมา ลู่ฝานสงสัยว่าแม้แต่ประมุขประเทศตันเซิ่งก็อาจจะไม่รอด
ทหารเฝ้าประตูสูงประมาณยี่สิบกว่าเมตร สวมเกราะอ่อน แขนโผล่ออกมา
บนผิวหนังมีลวดลายที่รวมตัวเป็นรูปร่าง เหมือนเผ่ายันต์ในตำนาน แต่มีพลังของร่างกายอันบริสุทธิ์แฝงอยู่ด้านใน!
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายหยุดลงหน้าประตูวัง เอาหินศักดิ์สิทธิ์ออกมาแกว่งตรงหน้าทหารเฝ้าประตูวัง
ประตูวังเปิดออก ลู่ฝานกับโครงกระดูกเดินเข้าไปท่ามกลางการห้อมล้อมของพวกผู้ฝึกชั่วร้าย
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายที่ตัวสูงใหญ่เกินไปอยู่ข้างนอกทั้งหมด
เมื่อเข้ามา นักบู๊ตัวสูงใหญ่หลายสิบคนเดินตามหลังพวกเขา
โครงกระดูกส่งกระแสจิตพูดว่า “แม้แต่วังก็กลายเป็นถิ่นของผู้ฝึกชั่วร้ายไปแล้วเหรอ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เขาก็รู้สึกว่าเรื่องมันผิดปกติ
ถ้าผู้ฝึกชั่วร้ายสามารถเข้า-ออกวังได้ตามใจชอบ นั่นหมายความว่าทั้งประเทศฉิงเทียน ตกอยู่ในการควบคุมของผู้ฝึกชั่วร้ายแล้วเหรอ
เดินตรงไปข้างหน้า พวกลู่ฝานไม่ได้เข้าทางประตูหน้า แต่เดินผ่านประตูหลังไปยังสวนด้านหลัง
ไม่นานลู่ฝานกับโครงกระดูกถูกพามาหน้าประตูจวนแห่งหนึ่ง
โครงกระดูกมองแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “น้องสี่ เป็นนายจริงด้วย!”
ลู่ฝานมองซ้ายมองขวา เขาสงสัยว่าที่นี่ออกจากวังแล้วหรือเปล่า
จู่ๆ ประตูเปิดออก ลู่ฝานกับโครงกระดูกเดินเข้าไปช้าๆ
เพิ่งเข้ามา ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองเดินผ่านม่านน้ำ
“จวนอากาศธาตุเหรอ”
ลู่ฝานแอบพูดในใจ
ทั้งสองเดินมาถึงโถงใหญ่ ตอนนี้ผู้ฝึกชั่วร้ายรอบๆ ค่อยๆ ถอยออกไป
ลู่ฝานมองรอบๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างไม่เกรงใจ
โครงกระดูกไม่ได้นั่ง เขามองรอบๆ แล้วตะโกนว่า “หนานกงฉวน นายออกมาเดี๋ยวนี้!”
เสียงดังสะท้อนอยู่ในโถงใหญ่ จู่ๆ มีคนเดินออกมา
สูงประมาณ 16 เมตร สวมมงกุฎบนหัว สวมชุดขาวทั้งตัว ถ้าไม่ใช่เตี้ยนเซี่ยสี่หนานกงฉวนจะเป็นใครได้อีก
เมื่อเห็นโครงกระดูก หนานกงฉวนยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ทำไมพี่ถึงอยู่ในสภาพนี้ล่ะ!”