เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1773
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1773
เวลาสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภายนอกที่สงบสุขของเมืองฉิงเทียน ยังแอบปั่นป่วนเหมือนเดิม
การกลั่นของลู่ฝานเสร็จไปตั้งแต่ 1-2 เดือนที่แล้ว การที่ช้าขนาดนี้เพราะลู่ฝานเจตนาทำเช่นนี้ เขาต้องการให้คนที่แอบจับตามองเขาเห็นอย่างชัดเจน
ส่วนโครงกระดูกที่โดนกลั่นแล้ว เปลี่ยนรูปร่างโดยสมบูรณ์แบบ รูปร่างที่แม้แต่โครงกระดูกก็คิดไม่ถึง
หน้าจวนองค์ชายสี่
“ท่านเทวทูตจะไปไหน”
พ่อบ้านมองลู่ฝานด้วยรอยยิ้มแล้วคำนับทำความเคารพ
ลู่ฝานถือวัตถุทรงกลมในมือสองลูก เป็นสีขาวและสีดำ หมุนวนอย่างต่อเนื่อง
อันที่เป็นสีดำคงไม่ต้องพูดถึง นั่นคือมุกเวิ้งว้างเครื่องรางของลู่ฝาน
ส่วนอันสีขาวต้องให้ความสำคัญหน่อย ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ลู่ฝานกลั่นออกมา เขาตั้งชื่อมันว่ามุกหนานกง
“ลู่ฝาน ฉันจะฆ่านาย นายกลั่นฉันเป็นมุก ออกไปฉันจะใช้ชีวิตยังไง”
เสียงหนานกงสิงดังออกจากมุกไม่หยุด
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หนานกงสิงบ่นไม่หยุด ตอนแรกๆ ลู่ฝานก็ตอบบ้าง แต่ตอนนี้ขี้เกียจสนใจเขาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เสียงเขาดังออกจากมุก มีเพียงลู่ฝานคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน
ลู่ฝานทำเป็นหูทวนลม!
“ออกไปเดินเล่นข้างนอก อยู่แต่ในห้องจนอึดอัด เดินเล่นคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”
ลู่ฝานมองพ่อบ้านด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
สองสามเดือนมานี้ ลู่ฝานทำตัวนอบน้อมมาก ดังนั้นหนานกงฉวนจึงระแวงเขาน้อยลงแล้ว
โดยเฉพาะหลังจากหนานกงฉวนแอบเห็นลู่ฝานกลั่นโครงกระดูกได้ เขาจึงสบายใจ เขาคงไม่รู้ว่าการกลั่นของลู่ฝาน เป็นการกลั่นกระดูกของหนานกงสิง ที่ต้องเหลือจิตวิญญาณซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้
ตอนนี้คนทั้งจวนองค์ชายสี่ นอบน้อมกับลู่ฝานมาก
พูดตามตรงว่าเทวทูตของหน่วยย่อย จะว่าเยอะก็ไม่เยอะ จะว่าน้อยก็ไม่น้อย แต่คนที่โดนส่งมาที่ประเทศฉิงเทียนไม่ได้มีเยอะ อีกทั้งลู่ฝานเป็นคนของหน่วยที่ 33 ประเทศฉิงเทียนเป็นเขตอำนาจของหน่วยที่ 33
ว่ากันว่ามังกรแกร่งต่างถิ่นก็เอาชนะงูเจ้าถิ่นไม่ได้ เมื่อผู้ฝึกชั่วร้ายหน่วยอื่นเห็นลู่ฝาน เหมือนเห็นงูเจ้าถิ่นอย่างไรอย่างนั้น
พ่อบ้านพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ท่านเทวทูตตามสบายเลย นอกจากตำหนักฉิงเทียนในวังกับสวนสือเหลียน ท่านเทวทูตสามารถเดินเล่นที่อื่นได้ตามสบาย ไม่มีใครขัดขวางแน่นอน!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ดีมาก”
พูดจบลู่ฝานเดินไปข้างนอก พ่อบ้านปรบมือ มังกรเดินดินเกราะทองตัวหนึ่งโดนคนพาออกมา ผู้อาวุโสมองด้านหลังลู่ฝานแล้วพูดว่า “ท่านเทวทูตนั่งมันเดินเล่นรอบๆ ได้”
ลู่ฝานไม่ได้ปฏิเสธ พลิกตัวขึ้นไปบนหลังมังกรแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ลู่ฝานพูดกับมุกว่า “สหายหนานกงไม่ต้องตะโกนแล้ว ตะโกนมานานขนาดนี้ไม่เหนื่อยหรือไง ฉันบอกนายแล้วไงว่าต้องทำแบบนี้ คนอื่นจะได้ไม่สงสัยฉัน และมีเพียงการทำเช่นนี้ถึงจะมีโอกาสไปตำหนักเดิมของนายได้”
ใบหน้าเลือนรางปรากฏขึ้นมาบนมุก
เสียงหนานกงสิงดังขึ้นอีกครั้ง
“แต่นายก็กลั่นฉันจนอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้ นายจะทำอะไรกันแน่”
ลู่ฝานพูดว่า “ไปถึงนายก็รู้เอง!”
เส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด แม้หนานกงสิงโมโหลู่ฝาน แต่ก็บอกทางให้ลู่ฝาน
ไม่นานลู่ฝานมาถึงหน้าตำหนักงดงามหรูหราแห่งหนึ่ง
ตำหนักแห่งนี้ดูจากไกลๆ เหนือกว่าตำหนักขององค์ชายสี่หนานกงฉวนมาก