เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1794
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1794
ทุกคนเงียบสนิท ผู้อาวุโสซู่มั่นถามต่อไปเรื่อยๆ
คราวนี้จัดการได้อย่างราบรื่นจนผิดปกติ เดิมพวกที่เคยบ่นและไม่ยอมให้คน ก็ตอบตกลงทันที
คนที่บอกว่าในหน่วยตัวเองไม่มีคนแล้วก็กัดฟันพูดว่ามี
หลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ทุกอย่างจัดเตรียมได้อย่างเหมาะสม ผู้อาวุโสซู่มั่นพยักหน้าพูดว่า “เรียบร้อย ทำตามที่คุยกันเมื่อกี้ ถ้าใครล่าช้าหรือเปลี่ยนใจกะทันหันก็รับผลที่ตามมาเอาเอง”
ถ้าพูดประโยคนี้ตอนพวกธิดาเทพแห่งความมืดยังไม่ออกมา คนอื่นคงไม่สนใจแน่ๆ
แต่ตอนนี้ประโยคนี้เท่ากับคำสั่งตายของราชาปีศาจ ให้ตายยังไงก็ต้องอดทนทำให้สำเร็จ
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายกำลังจะลุกออกไป ขณะนั้นผู้อาวุโสซู่มั่นชี้มาที่หนานกงสิงกับลู่ฝาน “คนที่แต่งตัวเป็นองค์ชายอยู่ที่นี่ต่อ เด็กหน่วยที่ 33 ก็อยู่ต่อด้วย!”
ลู่ฝานอึ้งไป ชะงักฝีเท้าลงทันที
เขาโดนเรียกแล้ว ลู่ฝานไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงโดนเรียก
คนอื่นมองมาทางลู่ฝานด้วยสายตาสงสัย หนานกงสิงส่งกระแสจิตพูดว่า “สหายลู่ฝาน เราโดนจับได้แล้วเหรอ”
ลู่ฝานไม่พูดอะไร เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามดีกว่า
ผู้ฝึกชั่วร้ายคนอื่นกลับไปหมดแล้ว หน้าโต๊ะหินลาวาเหลือแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
แต่งตัวหรูหรา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หน้าตาไม่ต่างกันเท่าไร ล้วนเป็นองค์ชายตัวปลอมของประเทศฉิงเทียน
ผู้อาวุโสซู่มั่นเคาะโต๊ะแล้วพูดว่า “พวกนายตามฉันมา ตอนนี้มีภารกิจสำคัญให้พวกนายทำ”
ระหว่างพูด ผู้อาวุโสซู่มั่นลุกขึ้น เดินไปทางประตูหิน สะบัดมือเบาๆ ประตูเปิดกว้างเป็นช่องให้สามคนเดินเข้าไปพร้อมกันได้
ลู่ฝานกับหนานกงสิงมองหน้ากัน ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินตามคนอื่นไปทางประตูหิน
เมื่อเข้ามาในประตูหิน สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือภาพของนรก
เหวปรากฏอยู่ด้านหน้า หลุมลาวานับไม่ถ้วนอยู่ด้านล่าง มีแมกม่าพุ่งออกมาตลอดเวลา
บนหน้าผามีสัตว์อสูรขนาดใหญ่
ลู่ฝานไม่สามารถบรรยายพลังความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรพวกนี้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันโดนมัดไว้
มีโซ่พลังเสวียนสีดำที่มีอักษรยันต์ มัดตัวพวกมันเอาไว้แน่น ลายออร่าปีศาจนับไม่ถ้วนกะพริบบนตัว ผนึกพวกมันเอาไว้
เมื่อเห็นสัตว์อสูรเหล่านี้ หนานกงสิงแอบกำหมัด ส่งกระแสจิตพูดกับลู่ฝานว่า “สัตว์อสูรคุ้มกันเมือง เป็นสัตว์อสูรคุ้มกันเมืองทั้งหมด!”
จู่ๆ หนานกงสิงมองไปยังจุดที่โซ่ทั้งหมดบรรจบกัน ตรงนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดเอาไว้แน่น
สายตาแน่วแน่ นั่งขัดสมาธิอยู่บนหินลาวา ผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี แสงสีขาวแผ่ซ่านทั้งตัว
หนานกงสิงชะงักฝีเท้าลง สั่นไปทั้งตัว!
ลู่ฝานเห็นชายคนนี้แล้วเห็นปฏิกิริยาของหนานกงสิง เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที ดึงหนานกงสิงเอาไว้แล้วส่งกระแสจิตพูดว่า “ใจเย็น!”
หนานกงสิงปากสั่น เบ้าตาแดงก่ำ ส่งกระแสจิตตอบว่า “เสด็จพ่อ นั่นคือเสด็จพ่อฉัน!”
ลู่ฝานมองชายวัยกลางคนแล้วถอนหายใจในใจ
เขาเดาถูกแล้ว ประเทศฉิงเทียนอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าคนเป็นประมุขของประเทศยังเอ้อระเหยลอยชายอยู่ข้างนอกโดยที่ไม่รู้อะไรเลยคงแปลกมาก
เป็นไปตามคาด บนโลกนี้ไม่มีเรื่องเหลือเชื่อ ประมุขประเทศฉิงเทียนก็โดนจับตัวเหมือนกัน อีกอย่างดูท่าทางไม่ใช่แค่โดนจับด้วย
ผู้อาวุโสซู่มั่นชะงักฝีเท้าลง หันมามองพวกลู่ฝานแล้วพูดว่า “พวกนายถูกเลือกมาจากหน่วยต่างๆ เป็นคนมีความสามารถในการปลอมตัวได้ไม่สิ้นสุด ดังนั้นฉันเลยให้พวกนายปลอมตัวเป็นองค์ชาย ให้พวกนายดูแลประเทศนี้ต่อ แต่ตอนนี้พวกนายต้องพัฒนาขึ้นอีกหน่อย เพราะการแข่งนานาประเทศใกล้เริ่มแล้ว ถึงตอนนั้นผู้สูงส่งของประเทศฉิงเทียนจะกลับมา รวมถึงผู้แข็งแกร่งหอฝึกสัตว์ที่คุ้นเคยกับราชวงศ์ด้วย”
พูดพลาง ผู้อาวุโสซู่มั่นสะบัดมือเบาๆ จู่ๆ โซ่เหล็กทั้งสองด้านกลายเป็นใบมีดแหลมคม อักษรยันต์น่ากลัวด้านบนกรีดผิวหนังของประมุขประเทศฉิงเทียน
เลือดสดไหลลงบนโซ่เหล็กแล้วแผ่ซ่านออกไป
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดต่อ “ดังนั้นพวกนายต้องปลอมตัวให้สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยก็ต้องรู้วิชาทรงพลังที่ตระกูลหนานกงสืบทอดกันมา”
ผู้ฝึกชั่วร้ายคนหนึ่งพูดเสียงสูง “ผู้อาวุโส เรามีออร่าปีศาจบนตัว ให้เราเรียนวิชาทรงพลังที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของตระกูลหนานกง นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ ไม่ใช่เหรอ”
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า “ถ้านายไปฝึกตรงๆ ก็เท่ากับรนหาที่ตาย แต่ถ้าใช้วิธีของฉัน พวกนายไม่ตายแน่นอน ทุกคนเดินเข้ามา เตรียมรับการถ่ายทอดจากหนานกงเช่อประมุขประเทศฉิงเทียน!”