เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1819 งานเลี้ยง
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1819 งานเลี้ยง
ลู่ฝานได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบรับมุกมาทันที
ใส่ปราณชี่เข้าไป มุกเม็ดกลมในมือปล่อยแสงบางๆ ออกมา ด้านในเริ่มมีภาพปรากฏออกมานับไม่ถ้วน
ลู่ฝานกำมืออย่างแรง มุกทั้งเม็ดโดนเขาบีบจนแตกทันที
แสงกลายเป็นม่านแสง ปรากฏตรงหน้าลู่ฝานทันที
เมื่อเพ่งมอง ลู่ฝานกับหนานกงสิงขมวดคิ้วเป็นปม
ในม่านแสง คนเป็นกลุ่มโดนผู้ฝึกชั่วร้ายชุดดำไล่ให้เดินไปทางตำหนักใหญ่
ลู่ฝานเห็นตำหนักใหญ่แล้วรู้สึกคุ้นตา
ตอนเขาเข้าร่วมการทดสอบชิงกระบี่ในรอบแรก เหมือนเขาเข้ามาในตำหนักแบบนี้
ดูเหมือนผู้ฝึกชั่วร้ายสร้างตำหนักแบบนี้เอาไว้ในประเทศฉิงเทียนไม่น้อยเลย
กลุ่มคนเดินไปข้างหน้าด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ
ภาพตามกลุ่มคนเข้าไปในตำหนักใหญ่ จากนั้นหยุดลงตรงประตู
หนานกงสิงพูดขึ้นข้างๆ ว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันขอเอง ให้เขาตั้งใจทิ้งมุกเอาไว้ที่ประตู นี่เป็นมุกที่มีพลังธาตุดิน ฝังค่ายกลแสงเงาไว้ข้างใน สามารถบันทึกภาพได้ จากนั้นฉันเอาผู้ฝึกชั่วร้ายมาเป็นพวกได้หนึ่งคน ให้เขาเอามุกกลับมาให้ฉัน”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นมองที่ม่านแสงต่อ
ตอนนี้กลุ่มคนเข้าไปในตำหนักหมดแล้ว จากนั้นผู้ฝึกชั่วร้ายในภาพปิดประตูตำหนักเสียงดังโครม
เหตุการณ์แบบนี้ผิดปกติมาก
ในตำหนัก กลุ่มคนที่ดูสับสนไม่เข้าใจเริ่มพูดคุยกัน
เหมือนพวกเขากำลังคุยกันว่าทำไมถึงมาที่นี่
ที่นี่คือที่ไหนกันแน่
แต่พวกเขายังไม่ได้บทสรุป พื้นดินด้านล่างเท้าพวกเขาเริ่มมีหลุมทรงกลมปรากฏออกมา
จากนั้นควันสีดำนับไม่ถ้วนออกมาจากข้างใน ดึงคนพวกนี้เข้าไปในหลุม
เสียงโอดครวญ เสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด
มองผ่านม่านแสง ลู่ฝานเห็นใบหน้าสิ้นหวังของคนพวกนี้ ใบหน้าดิ้นรนก่อนตายของพวกเขา
เหมือนหนานกงสิงดูหลายรอบแล้ว ชี้ควันสีดำในม่านแสงแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นคืออะไร แต่ฉันเดาว่าต้องเกี่ยวข้องกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งบางอย่างแน่นอน ความสามารถกลืนกินชีวิตแบบนี้ แม้พวกผู้ฝึกชั่วร้ายก็ทำได้ แต่ไม่มีทางแข็งแกร่งและน่ากลัวขนาดนี้ สหายลู่ฝานดูสิว่ามันคืออะไร”
ลู่ฝานสะบัดมือปัดม่านแสงทิ้ง แสงนับไม่ถ้วนรวมตัวบนมือลู่ฝานอีกครั้ง กลับมาเป็นมุกเม็ดกลมเหมือนเดิม
ลู่ฝานโยนมุกคืนให้หนานกงสิงแล้วพูดว่า “สัตว์อสูรน่ากลัวตัวนี้ชื่อว่าสัตว์อสูรอากาศธาตุ!”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หนานกงสิงสั่นไปทั้งตัว เขาพูดอย่างตกใจมาก “สัตว์อสูรอากาศธาตุเหรอ พระเจ้า พวกผู้ฝึกชั่วร้ายใช้ชีวิตคนเลี้ยงสัตว์อสูรอากาศธาตุงั้นเหรอ พวกเขาบ้าไปแล้วเหรอ”
ลู่ฝานนวดขมับตัวเองแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ได้บ้า พวกเขาคิดจะเลี้ยงสัตว์อสูรไร้เทียมทานออกมา คิดดูสิ ถ้ามีสัตว์อสูรไร้เทียมทานแบบนี้ ในใต้หล้านี้ใครจะขัดขวางได้!”
หนานกงสิงกัดฟันพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าพวกเขาเลี้ยงสัตว์อสูรอันตรายขนาดนี้ในประเทศฉิงเทียนของฉัน ถ้าสัตว์อสูรแบบนี้ปรากฏตัวออกมา ประเทศฉิงเทียนของฉันต้องเจอเคราะห์ร้ายแน่นอน!”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ พวกเขาคิดจะทำแบบนี้”
หนานกงสิงพูดว่า “แล้วจะทำยังไง สหายลู่ฝานมีแผนหรือเปล่า”
ลู่ฝานเงียบ จากนั้นพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่มี ทำได้เพียงดูไปทีละก้าว”
หนานกงสิงแอบถอนหายใจยาว
……
ในคืนนี้เต็มไปด้วยการตกแต่งอย่างงดงาม เสียงเพลงดังสนั่น
คืนนี้จวนองค์ชายใหญ่มีงานเลี้ยง ทั้งจวนเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง
ผู้คนมากมาย ในสวนด้านหลังไม่มีที่นั่งว่างเลย
ลู่ฝานกับหนานกงสิงยืนอยู่ด้านข้าง มองเหล้าชั้นดีถูกยกออกมาให้คนดื่มอย่างต่อเนื่อง หมูย่างตัวใหญ่ถูกนำมาวางบนโต๊ะ ทำให้คนอยากกินจนน้ำลายสอ
เหล้าไหลเหมือนสายน้ำ เนื้อย่างวางกองเหมือนภูเขา
เมื่อมองดูแล้ว เรียกว่าเป็นการกินเลี้ยงอย่างหรูหราจริงๆ
ลู่ฝานกับหนานกงสิงกำลังจะไปนั่งข้างหน้า จู่ๆ มีผู้ฝึกชั่วร้ายคนหนึ่งเดินมาข้างหน้า
คนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือฟางหยู่ ผู้ฝึกชั่วร้ายที่เคยโดนลู่ฝานซัด หนึ่งในสี่ผู้แข็งแกร่งที่เป็นลูกน้องขององค์ชายตัวปลอม
ฟางหยู่มองลู่ฝานกับหนานกงสิงด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย คุณชายเงามืด ขอโทษด้วย หัวหน้าสำนักสั่งว่าทั้งสองคนไม่ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ ที่นั่งไม่พอจริงๆ ทั้งสองกลับไปพักผ่อนเถอะ!”
หนานกงสิงก่นด่าออกมาทันที “อะไรนะ ฉันร่วมงานเลี้ยงไม่ได้เหรอ นายรู้ไว้นะว่าฉันเป็นคนจัดงานเลี้ยงนี้”
ฟางหยู่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เตี้ยนเซี่ยพูดไม่ถูกต้องนะ หัวหน้าสำนักเป็นคนจัดงานเลี้ยงนี้ ฉันขอเตือนอีกรอบว่านี่คือคำสั่งของหัวหน้าสำนัก!”
คนรอบๆ หันมามองทางนี้ทันที
ความโมโหปรากฏบนใบหน้าหนานกงสิง เขากำหมัดแน่น
“โอ้ นี่พี่ใหญ่สุดที่รักของฉันนิ ทำไมมายืนตรงนี้ล่ะ หัวหน้าสำนักพวกนายไม่ให้พวกนายนั่งเหรอ”
ลู่ฝานกับหนานกงสิงเห็นองค์ชายสี่หนานกงฉวนเดินมาจากไกลๆ
ปรบมือพลางหัวเราะเสียงดังใส่หนานกงสิง
หนานกงสิงมองเขาอย่างดูหมิ่นแล้วพูดว่า “นั่งจนเหนื่อยแล้ว แค่ยืนสักพักเท่านั้น”
หนานกงฉวนหัวเราะแล้วพูดว่า “ทุกคนจะนั่งกันหมดแล้ว เจ้าของจวนองค์ชายใหญ่อย่างพี่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ดูไม่ค่อยดีมั้ง อย่าบอกนะว่าจวนใหญ่โตแบบนี้ ไม่มีที่สำหรับองค์ชายใหญ่อย่างพี่ พี่อย่ามาตลกใส่ฉันสิ!”
หนานกงฉวนไม่ไว้หน้าหนานกงสิงสักนิด เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง
ผู้ฝึกชั่วร้ายที่อยู่รอบๆ พากันหัวเราะตาม
เมื่อมองดู แม้แต่คนใช้ของจวนองค์ชายใหญ่ยังกล้าหัวเราะ โดยเฉพาะไอ้เลวสี่คนที่เป็นลูกน้องหนานกงสิง หัวเราะจนตัวโยน
จากนั้นชี้นิ้วสั่งให้คนเอาเหล้ามาเสิร์ฟไม่หยุด!
ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “นั่งก็นั่งสิ ทำไมจะนั่งไม่ได้ล่ะ”
พูดจบ ลู่ฝานส่งสายตาให้หนานกงสิง จากนั้นเดินตรงไปข้างหน้า แล้วนั่งตรงที่นั่งด้านหน้าสุด
เมื่อเห็นตำแหน่งที่ลู่ฝานกับหนานกงสิงนั่ง สีหน้าหนานกงฉวนเปลี่ยนไปทันที “เหมือนพวกนายนั่งที่ฉันนะ นี่เป็นที่นั่งของแขกวีไอพีไม่ใช่เหรอ”
หนานกงสิงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “นายเนี่ยนะคือแขกวีไอพี!”
ฟางหยู่เห็นทั้งสองคนนั่งตรงนี้อย่างเหิมเกริม เขารีบเข้ามาพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย คุณชายเงามืด นี่ไม่ใช่ที่นั่งของพวกนาย ลุกขึ้นเถอะ”
หนานกงสิงจ้องหน้าฟางหยู่แล้วพูดว่า “นายอยากตายเหรอ”
ฟางหยู่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แต่เขาก็ยังก้าวเข้ามาพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย จะฝ่าฝืนคำพูดของหัวหน้าสำนักไม่ได้!”
ระหว่างพูด มีอาวุธปรากฏขึ้นในมือฟางหยู่
ตอนนี้จู่ๆ ตัวของฟางหยู่สั่นอย่างแรง
เหมือนเขาสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง เขารีบหันไปมองลู่ฝานทันที
ลมพัดเสื้อของเขา ยังไม่ทันตั้งตัว เลือดมากมายพุ่งออกมาจากตัวเขา
วินาทีต่อมาแขนขาของฟางหยู่แยกออกจากกัน หัวหล่นลงพื้น แล้วล้มลงบนพื้นเสียงดังพลั่ก
ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “พูดไร้สาระจริงๆ ฉันเกลียดคนพูดไร้สาระที่สุด”