เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1821 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (1)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1821 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (1)
ศพเกลื่อนกลาด เลือดไหลนอง แผลน่ากลัวสะดุดตาทุกคน
หัวหน้าสำนักทั้งสามคนหรี่ตาลง สายตาที่ทั้งสามคนมองลู่ฝานมีความจริงจังเพิ่มขึ้น
พลังที่ลู่ฝานแสดงออกมา แม้แต่พวกเขายังไม่รู้ว่าคืออะไร
ถ้าไม่เข้าใจก็หมายความว่าไม่มีทางหลบได้ ก็หมายความว่าอาจสู้ไม่ได้
คนเราจะรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่ไม่รู้จัก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้แค่มองหน้าลู่ฝาน แต่ไม่ได้ลงมือทันที
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายรอบๆ พากันเงียบ ไม่มีใครกล้าเข้ามาลงมือใส่หนานกงสิงกับลู่ฝานสักคน แต่ละคนลังเล คนส่วนใหญ่พากันถอยไปด้านหลัง
เรื่องรนหาที่ตายเปล่าๆ แบบนี้ ไม่มีใครอยากทำหรอก
ไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายทุกคนที่มีความรู้สึกยอมถวายชีวิต
เจ้าอ้วนจู้ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ส่ายร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันของตัวเองแล้วเบียดออกมาจากหลังโต๊ะ
ไขมันบนตัวสั่นตามการก้าวเดิน เจ้าอ้วนจู้พูดเสียงเย็นชาว่า “ข้อห้ามของสำนัก 138 การสังหาร 964 บทลงโทษ เฉาจิน นายบอกฉันสิว่าไม่เคารพหัวหน้าสำนัก จงใจทำภารกิจไม่สำเร็จ จะถูกลงโทษยังไง”
หนานกงสิงพูดว่า “แค่คำว่าตายเท่านั้น เจ้าอ้วน ถ้าเก่งก็ฆ่าฉันเลยสิ ฉันทนนายมานานแล้ว!”
หนานกงสิงพูดพลางกัดฟันเสียงดังกรอด
เห็นได้ชัดว่าเขาอยากพูดประโยคนี้มานานแล้ว
เจ้าอ้วนปล่อยออร่าปีศาจรุนแรงออกจากตัว อากาศสดใสเปลี่ยนเป็นเมฆอึมครึมภายในพริบตา
หัวหน้าสำนักอีกสองคนเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ปล่อยพลังออกมาเหมือนกัน ปิดตายทั้งจวนองค์ชายใหญ่ เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นความผิดปกติที่นี่
“นายกล้าเรียกฉันว่าเจ้าอ้วนเหรอ นายเรียกชื่อฉันแบบนี้ได้เหรอ”
เจ้าอ้วนจู้พูดเสียงสูง
หนานกงสิงยิ่งไม่เกรงใจ เอาอาวุธตัวเองออกมาทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ฝานเห็นหนานกงสิงเอาอาวุธตัวเองออกมา มันเป็นกระบี่พู่แดง กระบี่ยาวสามเมตร มีลายเหมือนเลือดอยู่ปลายกระบี่
เจ้าอ้วนจู้โกรธจนตัวเริ่มขยายใหญ่ ไขมันบนตัวพองขึ้นมา
“เฉาจิน! ปกติฉันก็ดีกับนายนะ คิดไม่ถึงว่านายจะดูถูกฉันขนาดนี้ ดูเหมือนนายเป็นองค์ชายมากเกินไปหน่อยแล้ว!”
เสียงเจ้าอ้วนจู้เหมือนสายฟ้าฟาดลงมา ทำให้ทุกคนตกใจจนตัวสั่น
พลานุภาพแผ่ซ่านออกไป พลังฟ้าดินรอบๆ เริ่มหนาแน่น
ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายความตาย กลิ่นศพมากมายกำลังรวมตัวบนตัวเจ้าอ้วนจู้
ลมเย็นยะเยือกพัดเป็นระยะ เสียงวิญญาณโหยหวนไม่หยุด
ลู่ฝานเห็นว่าปราณทรงพลังกำลังจะพุ่งออกมาจากตัวหนานกงสิง เขารีบดึงหนานกงสิงกลับมาแล้วพูดเสียงดังว่า “หัวหน้าสำนักจู้น่าเกรงขามมาก หัวหน้าจู้จะฆ่าสหายของฉัน องค์ชายใหญ่หนานกงสิงเหรอ”
เจ้าอ้วนจู้ยื่นนิ้วอ้วนของตัวเองออกมาชี้ลู่ฝานกับหนานกงสิง “อย่าคิดว่าฐานะองค์ชายใหญ่บ้าบอจะทำให้ฉันกลัว ฉันรู้ว่าพวกนายคือคนที่พวกผู้อาวุโสเลือกด้วยตัวเอง ฆ่าพวกนายฉันจะเดือดร้อน แต่ตอนนี้ฉันไม่กลัวความเดือดร้อนแล้ว!”
ระหว่างพูด เจ้าอ้วนจู้ลงมือทันที
กำมือเป็นหมัด ซัดเข้ามาหาหนานกงสิงเหมือนฟ้าแลบ
อย่ามองว่าเขาตัวอ้วนฉุ ความเร็วในการโจมตีของเขาไม่ช้าเลยสักนิด
หมัดนี้มีกลิ่นศพรุนแรง ทุกที่ที่ผ่านไป พื้นดินกลายเป็นสีดำทันที
ทุกคนเบิกตาโตมองหมัดของเจ้าอ้วนจู้ พวกเขาคิดว่าถ้าโดนหมัดนี้ต้องมีคนตายคาที่แน่นอน
พลั่ก!
จู่ๆ หมัดหยุดลงกลางอากาศ
ทันใดนั้น ทุกคนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ลู่ฝานรับหมัดขนาดยักษ์ของเจ้าอ้วนจู้ด้วยมือเดียว
มือซ้ายนิ่งเหมือนภูเขา ลู่ฝานรับการโจมตีของเจ้าอ้วนจู้ได้อย่างง่ายดาย
กลิ่นศพรุนแรงไม่ส่งผลกระทบต่อเขาเลยสักนิด ลู่ฝานใช้แรงดัน เป็นเจ้าอ้วนจู้ที่ถอยหลังเสียเอง ชนโต๊ะเก้าอี้ล้มไปหลายตัว
หนานกงสิงเลิกคิ้วขึ้น ขณะกำลังจะพูด เขาได้ยินลู่ฝานพูดว่า “นายนั่งเงียบๆ ไปเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเอง อย่าเปิดเผยตัวเอง”
หนานกงสิงพยักหน้าเข้าใจแล้วนั่งลง
ลู่ฝานก้าวออกมา ปักกระบี่หนักไร้คมลงบนพื้นอย่างแรง ตัวกระบี่จมลงไปในดินครึ่งหนึ่ง “ในเมื่อจะสู้ก็ทำตามกฎ กล้าสู้ตัวต่อตัวกับฉันไหมล่ะ”
เสียงลู่ฝานดังมาก ทุกคนในที่นี้ได้ยินชัดเจน
เขารู้กฎของผู้ฝึกชั่วร้ายที่ไหนกันล่ะ แค่ตะโกนไปอย่างนั้นแหละ
เป็นพวกผู้ฝึกชั่วร้ายที่พากันซุบซิบขึ้นมา
“กฎเหรอ เราสู้กันมีกฎด้วยเหรอ ไม่เคยได้ยินมาก่อน!”
“ใช่ ไม่เคยได้ยินมาก่อน อย่าบอกนะว่าลูกพี่ที่เก่งๆ เขาสู้กันตามกฎ!”
“ช่างพิถีพิถันจริงๆ”
“วันนี้ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!”
……
แน่นอนว่าเจ้าอ้วนจู้ก็ไม่รู้กฎ แต่เขาเข้าใจคำว่าสู้ตัวต่อตัว
ดวงตาแดงก่ำทันที ไอร้อนสีขาวพุ่งออกมาจากปากเจ้าอ้วนจู้ “สู้ตัวต่อตัวเหรอ คนอย่างจู้หาวเคยกลัวใครที่ไหนล่ะ!”
ระหว่างพูด ตัวของเจ้าอ้วนจู้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะทะลุขอบฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
ลู่ฝานเห็นเช่นนี้ก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน
กลายร่างฟ้าดิน!
ตัวของลู่ฝานใหญ่ขึ้นเหมือนกัน เกราะปีศาจปกคลุมร่างกาย กระบี่หนักไร้คมกลายเป็นกระบี่เพลิงขนาดใหญ่
ไม่นาน ตัวของลู่ฝานสูงใหญ่เป็นอย่างมาก กลายเป็นยักษ์ที่มีแสงออกมาทั้งตัว
เมื่อเห็นภาพนี้ หัวหน้าสำนักทั้งสองคนมองหน้ากัน
หัวหน้าสำนักลี่ขมวดคิ้วพูดว่า “คนนี้ไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายเหรอ”
หัวหน้าสำนักขุยส่ายหน้าพูดว่า “เหมือนจะไม่ใช่ ไม่มีออร่าปีศาจสักนิด วิชาก็ไม่เหมือนพวกเรา แต่ปลอมตัวหรือเปล่าก็ไม่แน่เหมือนกัน อีกเดี๋ยวถ้าเขาโดนบีบจนจนมุมก็แยกออกเองว่าเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายหรือเปล่า”
สายตาที่ทั้งสองคนมองลู่ฝานมีความสงสัย แต่พวกเขาไม่มีท่าทีที่จะลงมือ
เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเจ้าอ้วนจู้จะแพ้
“ย๊าก!”
เจ้าอ้วนจู้ลงมืออีกครั้ง คราวนี้ไขมันบนตัวเขารวมตัวเป็นเกราะอันทนทาน ขนและผมของเขาทะลุออกมาจากผิวหนัง กลายเป็นหนามแหลมที่สามารถแทงทะลุได้
“เทพปีศาจจุติ สังหาร!”
เจ้าอ้วนจู้ต่อยลงบนเกราะของลู่ฝาน พลังหมัดทำให้เกราะสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดัง
ลู่ฝานก็ไม่ชักช้ารีรอ ใช้กระบี่ฟันลงบนตัวเจ้าอ้วนจู้ทันที
ถึงเนื้อหนังของเขารวมตัวเป็นเกาะ กระบี่ของลู่ฝานก็ยังแทงทะลุเข้าไปในเนื้อเขา
“ระเบิด!”
“ระเบิด!”
ทั้งสองแผดเสียงออกมาพร้อมกัน
พลังระเบิดในร่างกายของอีกฝ่าย
เกราะปีศาจบนตัวลู่ฝานโดนหนามแหลมแทงทะลุ ระเบิดจนเป็นหลุม รอยแตกเล็กๆ นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนเกราะปีศาจ
ส่วนพลังของลู่ฝานพุ่งเข้าไปในตัวเจ้าอ้วนจู้ ปราณชี่ระเบิดจนเลือดเนื้อของเจ้าอ้วนจู้กระจายไปทั่ว
เพียงพริบตาเดียว ตัวของเจ้าอ้วนจู้หดเล็กลง
“ทุเรศ!”
เสียงของเจ้าอ้วนจู้เต็มไปด้วยความอาฆาต
ด้านล่าง หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยลมออกปากออกจมูก ตกตะลึงและหวาดกลัวมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนต่อสู้ระยะประชิดกับเจ้าอ้วนจู้ได้ อีกทั้งยังได้เปรียบด้วย!
เด็กคนนี้โผล่มาจากไหนกันแน่
ทั้งคู่อดถามในใจไม่ได้
ลู่ฝานยกมือขึ้นมาลูบบนเกราะปีศาจ เกราะหายไป จากนั้นเกราะเกล็ดมังกรปรากฏออกมา
เจ้าอ้วนจู้ไม่เข้าใจว่าทำไมพลังของลู่ฝานถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ อีกทั้งพลังที่พุ่งเข้ามาในตัวเขาเมื่อกี้ เขาไม่เคยเจอมาก่อนเลย
ขณะนั้นลู่ฝานยกมือแล้วยื่นนิ้วออกมาสามนิ้ว จากนั้นมองไปทางเจ้าอ้วนจู้
เจ้าอ้วนจู้พูดเสียงดังว่า “นายหมายความว่ายังไง”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็บอกนายไงว่าพละกำลังอย่างนาย ฉันสามารถจัดการนายทิ้งได้ภายในสามกระบวนท่า!”