เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1822 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (2)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1822 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (2)
เจ้าอ้วนจู้โมโหจนไขมันทั้งตัวสั่นเป็นจังหวะ
ร่างกายที่โดนปราณชี่ของลู่ฝานระเบิดจนเละเทะ ตอนนี้กำลังฟื้นฟูกลับมาใหม่ด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
มิน่าล่ะหนานกงสิงถึงบอกว่าเจ้าอ้วนนี่รับมือยาก แค่ไขมันที่ป้องกันและโจมตีได้ ก็สามารถทำให้เขาทำอะไรไม่ได้อย่างราบรื่นแล้ว
เจ้าอ้วนจู้พุ่งเข้ามาหาลู่ฝานอีกครั้ง จู่ๆ ไขมันทั้งตัวเกิดการเปลี่ยนแปลง เลือดเนื้อรวมตัวเป็นหนวดหมึกพันร่างกายลู่ฝานเอาไว้
กระบวนท่านี้แปลกประหลาด ลู่ฝานเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก
เหมือนเลือดเนื้อเหล่านั้นมีชีวิต ยังคิดจะทะลุเกราะเกล็ดมังกรเข้ามาในตัวลู่ฝานเพื่อดูดพลังของเขา!
ถ้าเป็นคนอื่น เจอกระบวนท่าแบบนี้ ต้องหวาดกลัวมากอย่างแน่นอน ตื่นตระหนกจนอยากฟันหนวดหมึกที่รวมตัวจากเลือดเนื้อพวกนี้
แต่สำหรับลู่ฝาน แรงสังหารของกระบวนท่านี้น้อยจนน่าสงสาร
เพราะพลังทั้งหมดในตัวเขา เจ้าอ้วนไม่สามารถดูดไปได้
หนวดหมึกรัดลู่ฝานแน่นขึ้นเรื่อยๆ แต่เหมือนลู่ฝานไม่สะทกสะท้านเลย
จู่ๆ เจ้าอ้วนจู้อ้าปากกว้าง!
ปากของเขาเหมือนดอกเบญจมาศบานอย่างรวดเร็ว เลือดเนื้อที่เหมือนกลีบดอกไม้ผลิบานออกมา
ทั้งตัวขยายใหญ่ขึ้น เขาจะกลืนลู่ฝานลงท้องแล้ว!
“พลังอาหารอันโอชะ!”
ผู้ฝึกชั่วร้ายสองสามคนตะโกนเสียงดัง
นี่คือวิชาที่ทำให้เจ้าอ้วนจู้มีชื่อเสียง
เป็นวิชาที่ทุเรศและมีประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาวิชาของผู้ฝึกชั่วร้าย ชื่อเรียกทั่วไปคือวิชากลืนกิน!
ยกระดับพลังโดยการกลืนกิน คนที่ฝึกวิชาแบบนี้ ไม่มีใครที่ไม่กลายเป็นคนจิตวิปริต
พวกเขาไม่มีความเป็นมนุษย์แล้ว กินทั้งคนทั้งสัตว์จนเป็นเรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขากินแม้กระทั่งศพ
สิ่งที่สามารถยกระดับพลังได้ พวกเขากินได้ทั้งนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่ฝึกวิชาประเภทนี้ ในช่วงแรกของการยกระดับพลังจะรวดเร็วมาก มีชื่อเสียงในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้ายได้อย่างรวดเร็วด้วย!
ดูขนาดตัวและไขมันของเจ้าอ้วนจู้ ไม่รู้กินคนมาตั้งเท่าไรแล้ว
วิธีขยายร่างกายให้ใหญ่ในตอนนี้ เป็นวิธีกลืนมารซึ่งมีชื่อเสียงในวิชากลืนกิน
ถ้าโดนกลืนลงท้อง ถึงมีความสามารถมากมายขนาดไหน ก็โดนย่อยจนหมดเกลี้ยง
ลู่ฝานเห็นปากกว้างของเจ้าอ้วนจู้ใกล้มาถึงตรงหน้าแล้ว เขายิ้มบางๆ
สวบ!
เสียงกระบี่ออกจากฝักดังขึ้น ไม่มีใครเห็นว่าลู่ฝานเคลื่อนไหวยังไง รอยแผลจากกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนตัวเจ้าอ้วนจู้
เลือดสาดกระจาย เลือดเนื้อมากมายหล่นลงบนพื้นเหมือนฝน
เจ้าอ้วนจู้โดนกระบวนท่าที่มองไม่เห็นโจมตีจนถอยหนีอย่างตื่นตระหนก
หนวดหมึกที่เขามัดลู่ฝานเอาไว้แตกออกเป็นชิ้นๆ
“เกิดอะไรขึ้น”
“เขาใช้วิชาอะไร”
หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยจ้องตัวลู่ฝาน
แม้แต่พวกเขายังไม่รู้ว่าลู่ฝานทำได้ยังไง
เจ้าอ้วนจู้รีบเก็บเลือดเนื้อบนตัว ถอยไปด้านหลังไม่หยุด
ตอนนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปแล้ว เหมือนตกใจจนไขมันทั้งตัวถึงกับซีดเผือด
เพราะเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน กระบวนท่าที่ลู่ฝานใช้โจมตีเขา ไม่ใช่ออร่าปีศาจ ปราณชี่หรือวิชา แต่เป็นการโจมตีที่มาจากวิญญาณ!
ตอนนี้เจ้าอ้วนจู้ปวดหัวจนจะระเบิดแล้ว
ใช่แล้ว ลู่ฝานใช้การโจมตีวิญญาณ
เขาเดาว่าผู้ฝึกชั่วร้ายที่ฝึกแต่ร่างกาย วิทยายุทธด้านวิญญาณคงไม่เก่งกาจเท่าไร แค่เขาใช้การโจมตีวิญญาณ ต้องชนะอย่างแน่นอน
ลู่ฝานใช้วิถีวิญญาณที่เขาเพิ่งฝึกสำเร็จ กระบวนท่านี้ไม่ใช่วิชาดับวิญญาณ
แต่เป็นวิธีโจมตีวิญญาณอีกอย่างหนึ่งที่บันทึกไว้ในวิถีวิญญาณ วิชากระบี่สวรรค์คุมวิญญาณ!
รวมวิญญาณเป็นกระบี่แล้วโจมตีออกไป
ความยากของกระบวนท่านี้คือจะรวมวิญญาณให้เป็นรูปร่างยังไง แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับลู่ฝาน สามารถเปลี่ยนปราณชี่เป็นพลังวิญญาณ แล้วค่อยรวมมันเป็นรูปร่างอีกที ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
เมื่อโจมตีออกมา กระบี่ไปตามจิตใจ ไม่มีร่องรอยอะไรเลย
แค่วิญญาณของอีกฝ่ายไม่แข็งแกร่ง กระบวนท่าของลู่ฝานก็จะมีประสิทธิภาพมาก ไม่เพียงแต่จะโจมตีวิญญาณอีกฝ่ายได้ ยังแผ่พลังวิญญาณเข้าไปในตัวอีกฝ่ายได้ด้วย จากนั้นจะกลายเป็นบาดแผลน่ากลัว
ลู่ฝานก้าวมาข้างหน้า นัยน์ตาเป็นประกายวูบไหว
ปลิดชีพตอนเขาบาดเจ็บนี่แหละ วิชาดับวิญญาณ!
จู่ๆ ทุกคนในที่นี้รู้สึกว่าจิตวิญญาณในสมองตัวเองสั่นสะเทือน
ผู้ฝึกชั่วร้ายที่วิญญาณอ่อนแอ เลือดออกเจ็ดทวารแล้วล้มลงพื้นทันที
เจ้าอ้วนจู้ร้องโหยหวน ไขมันทั้งตัวหดลง เลือดทะลักออกมาไม่หยุด
ตูม!
เจ้าอ้วนจู้ล้มลงในสวน ล้มแบบคุกเข่าก้มศีรษะ กระแทกจนพื้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่!
ตัวหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เลือดเต็มตัวเจ้าอ้วนจู้
เขาเบิกตาโต ท่าทางเหมือนจะสู้กับลู่ฝานอีก แต่ร่างกายเขากลับกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ลู่ฝานถือกระบี่เพลิงยักษ์ ก้มมองตัวเจ้าอ้วนจู้ จากนั้นยกกระบี่ขึ้น
ตอนนี้หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยทนดูอย่างใจเย็นไม่ได้แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ลงมือ เจ้าอ้วนจู้ต้องตายต่อหน้าพวกเขาแน่ๆ
“หยุดนะ!”
หัวหน้าสำนักลี่แผดเสียงออกมา สยายปีกค้างคาวด้านหลังแล้วกระโจนเข้ามาหาลู่ฝาน
ฝ่ามือหัวหน้าสำนักขุยกลายเป็นกรงเล็บมังกรดำ คว้ากรงเล็บกลางอากาศ เหมือนจะหยุดกระบี่ของลู่ฝาน
รับรู้ถึงพลังที่มาจากด้านหลัง ลู่ฝานหันมามองทั้งสองคนแวบหนึ่ง
แค่แวบเดียวเท่านั้น ควันขาวพุ่งขึ้นบนตัวหัวหน้าสำนักลี่ หัวหน้าสำนักขุยถอยไปด้านหลังเป็นสิบก้าว หลับตาสนิท สีหน้าซีดเผือด
“ไอ้หนุ่ม นายรู้ไหมว่าผู้ดูแลระดับต่ำฆ่าหัวหน้าสำนัก วิญญาณนายจะพิการไปตลอดชีวิต เจอความทรมานตลอดไป!”
แม้หัวหน้าสำนักลี่สภาพเป็นแบบนี้แล้วยังตะโกนออกมาอีก
ลู่ฝานมองทั้งสองคนแล้วพูดอย่างเฉยเมย “พวกนายกำลังเตือนฉันเหรอ”
หัวหน้าสำนักลี่กัดฟันพูดว่า “ครั้งนี้แม้เจ้าอ้วนจู้ล้ม นายปล่อยเขาไปล้วนมีผลดีกับทุกคน”
เจ้าอ้วนจู้ล้มอยู่บนพื้น น้ำลายฟูมปาก ยังคงจ้องลู่ฝานอยู่อย่างนั้น
หัวหน้าสำนักขุยยืนอยู่หลังหัวหน้าสำนักลี่ แล้วพูดว่า “วิชาดับวิญญาณแข็งแกร่งมาก เดิมทีฉันคิดว่านายไม่ใช่ผู้ฝึกชั่วร้าย ไอ้หนุ่ม ปล่อยเขาก็เหมือนปล่อยตัวนายเองไปด้วย นายทำอะไรหัวหน้าสำนักย่อยไม่ได้ นายปล่อยเขาไปตอนนี้ เรื่องระหว่างเราปล่อยให้แล้วกันไป จะไม่มีใครไปหาเรื่องนายกับสหายของนายอีก”
เมื่อได้ยิน ลู่ฝานหัวเราะออกมา
รอยยิ้มบนใบหน้าเต็มไปด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม
“ปล่อยให้แล้วกันไปงั้นเหรอ ทำอะไรไม่ได้งั้นเหรอ”
ลู่ฝานมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มแล้วพูดออกมา
หัวหน้าสำนักลี่คิดว่าลู่ฝานกำลังถาม จึงตอบว่า “ใช่ ปล่อยเขาไป เรื่องทุกอย่างคุยกันได้”
ลู่ฝานพูดว่า “เหมือนพวกนายยังไม่เข้าใจสินะ ตอนนี้คำพูดของฉันตัดสินทุกอย่างที่นี่”
พูดจบ รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานหายไป กระบี่เพลิงยักษ์ในมือเสียบเข้าไปในหัวเจ้าอ้วนจู้
เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาทันที ท้องฟ้าที่จวนองค์ชายใหญ่กลายเป็นสีแดงเพลิง
ศพของเจ้าอ้วนจู้สั่นเป็นครั้งสุดท้ายแล้วโดนเปลวไฟกลืนกินจนหมด
หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยมองภาพนี้อย่างตกตะลึง
จากนั้นทั้งสองคนกัดฟันมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ไอ้บ้า!”
“นายตายแน่นอน!”