เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1823 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (3)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1823 ฆ่าคนชิงตำแหน่ง (3)
ไขมันโดนเปลวไฟแผดเผาจนหมด อาทิตย์ลุกโชนแผดเผาเลือดเนื้อที่มีกลิ่นศพแบบนี้ มีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ฝึกชั่วร้ายที่อยู่รอบๆ มองลู่ฝานด้วยสายตาที่เหมือนมองคนบ้า
แม้แต่หนานกงสิงก็ไม่ต่างกัน!
แม้เขารู้ว่าลู่ฝานพลานุภาพแข็งแกร่ง เก่งกาจมาก แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าลู่ฝานจะเอาชนะเจ้าอ้วนจู้ได้ อีกทั้งยังฆ่าเจ้าอ้วนจู้ต่อหน้าทุกคนด้วย
การกระทำเช่นนี้เรียกได้ว่าบ้าคลั่ง
แม้คนที่ไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับผู้ฝึกชั่วร้ายเท่าไร ยังรู้ว่านอกจากราชาปีศาจที่เป็นหัวหน้าของพวกผู้ฝึกชั่วร้ายแล้ว ถ้าคนอื่นฆ่าหัวหน้าสำนักของผู้ฝึกชั่วร้ายตาย จะเจอกับการแก้แค้นอย่างสาหัส
ไม่ต้องพูดถึงการฆ่าต่อหน้าต่อตาทุกคนโดยไร้เยื่อใยแบบนี้!
หนานกงสิงกำลังคิดว่าควรหนีตอนนี้ดีหรือเปล่า!
ตัวของลู่ฝานหดเล็กลงจนเป็นเหมือนเดิม ยื่นมือไปดึงกระบี่หนักไร้คมของตัวเองขึ้นมา
ลู่ฝานหันมามองหัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยแล้วพูดว่า “ทำไม พวกนายอยากสู้กับฉันเหมือนกันเหรอ”
หัวหน้าสำนักทั้งสองคนถอยไปด้านหลัง เหมือนพวกเขาตกใจกับพลานุภาพของลู่ฝานแล้ว
หรือจะพูดว่าพวกเขาไม่ต้องการสู้กับคนบ้าแบบนี้ โดยเฉพาะคนบ้าที่เพิ่งฆ่าหัวหน้าสำนักอย่างไม่คิดชีวิตไปเมื่อกี้
“ทุกคนปิดกั้นที่นี่ไว้!”
หัวหน้าสำนักลี่ตะโกนออกมาทันที
ตอนนี้ผู้ฝึกชั่วร้ายคนอื่นที่อยู่ที่นี่เพิ่งตั้งสติได้ รีบวางค่ายกลปิดตายที่นี่อย่างรวดเร็ว
ลู่ฝานมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ “พวกนายกลัวฉันหนีเหรอ”
หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยยืนด้วยกัน ออร่าปีศาจบนตัวรวมตัวเป็นเกราะป้องกันปกคลุมตัว
หัวหน้าสำนักขุยพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายตายแน่ๆ ฆ่าหัวหน้าสำนัก นายต้องตายอย่างอนาถ อีกเดี๋ยวผู้อาวุโสจะมาแล้ว ฉันยินดีดูจุดจบของนายด้วยความเต็มใจ”
ตอนนี้หนานกงสิงลุกขึ้นยืน พยายามส่งสัญญาณมือให้ลู่ฝานสุดชีวิต เหมือนบอกให้ลู่ฝานรีบไป ไม่ต้องสนใจเขา
ลู่ฝานมองหนานกงสิงอย่างเฉยเมยแล้วส่ายหน้าพูดว่า “งั้นเหรอ งั้นฉันอยากเห็นจริงๆ ว่าจุดจบฉันจะเป็นไง!”
ลู่ฝานเดินกลับมานั่งที่ตัวเอง หยิบอาหารข้างๆ ขึ้นมาดื่มกินต่อ ดูใจเย็นเป็นอย่างมาก
หัวหน้าสำนักลี่พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่รู้ที่เป็นที่ตาย”
หัวหน้าสำนักขุยพูดเสียงเบาว่า “เราจับเขาก่อนดีไหม”
หัวหน้าสำนักลี่หนังตากระตุก “นายไปเองสิ ฉันไม่ไปด้วยหรอก”
หัวหน้าสำนักขุยพูดอะไรไม่ออก ทั้งคู่ยืนหลังตรงอยู่ด้านข้าง
ผู้ฝึกชั่วร้ายทุกคนจ้องหน้าลู่ฝาน เหมือนบนหน้ามีอะไรพิเศษน่ามองอย่างไรอย่างนั้น
หนานกงสิงหางตากระตุก ส่งกระแสจิตพูดเบาๆ ว่า “สหายลู่ฝาน ไม่หนีจริงเหรอ อีกเดี๋ยวจะไม่ทันเอานะ”
ลู่ฝานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “หนีแล้วมีประโยชน์อะไร วางใจเถอะ ฉันมีเหตุผลของตัวเอง มาดื่มเหล้า กินอาหารกันดีกว่า!”
หนานกงสิงดื่มอะไรไม่ลงแล้ว แต่ลู่ฝานกลับกินอย่างมีความสุขมาก
ทุกคนมองเขากินอาหาร ลู่ฝานไม่รีบร้อน ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก
จู่ๆ มีแสงสีดำแวบมาด้านหน้า เงาใครบางคนมาถึงในสวนหลังบ้าน
“ใครมาฆ่าแกงกันที่นี่!”
เสียงดังชัดเจน แววตาดุดัน คนที่มาคือผู้หญิงที่ดูมีอายุมาก
หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยรีบเดินไปหาคนคนนี้ ชี้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “เขา ไอ้เด็กคนนี้แหละ เขาเพิ่งฆ่าจู้หาวหัวหน้าสำนักย่อยที่ 15 ไอ้เด็กคนนี้โหดเหี้ยม ผู้อาวุโสโปรดจัดการเขาด้วย!”
“ใช่ คนคนนี้ทำร้ายหัวหน้า ผู้อาวุโสได้โปรดลงโทษอย่างเด็ดขาดด้วย!”
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายที่อยู่รอบๆ ตะโกนเสียงดัง
“เราเป็นพยานได้!”
“เขานี่แหละ ไอ้เงามืดคนนี้ฆ่าคน!”
ในบรรดานั้น พวกองค์ชายสี่หนานกงฉวนตะโกนดังที่สุด
แต่หลังจากลู่ฝานกวาดตามองพวกเขา คนพวกนี้รีบหลบหลังกลุ่มคนทันที
“ไอ้ขี้ขลาด!”
ลู่ฝานก่นด่าแล้วหันไปมองคนที่มา
เมื่อเห็นคนที่มา รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าลู่ฝาน
ผู้อาวุโสคนที่มา ถ้าไม่ใช่ซู่มั่นจะเป็นใครได้อีก
ลู่ฝานยกไหเหล้าขึ้นมาแล้วมองไปทางผู้อาวุโสซู่มั่น “ผู้อาวุโสซู่มั่น มาดื่มสักแก้วไหม”
ผู้อาวุโสซู่มั่นก้มมองพื้นสีดำด้านล่าง จากนั้นมองรอบๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เงามืด นายนี่หาเรื่องเก่งจริงๆ! นี่เพิ่งผ่านไปไม่นานเท่าไร นายก็ฆ่าคนเล่นอีกแล้วเหรอ”
พูดพลาง ผู้อาวุโสซู่มั่นเดินไปรับไหเหล้าที่ลู่ฝานยื่นให้
ภาพนี้ทำให้หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุยอ้าปากค้าง ถลึงตาจนลูกตาเกือบหล่นลงมาบนพื้น
นี่เป็นภาพลวงตาหรือเปล่า
ผู้อาวุโสซู่มั่นสนิทสนมกับเด็กคนหนึ่งขนาดนี้เลยเหรอ
หนานกงสิงใบหน้าไม่อยากเชื่อ
หัวหน้าสำนักลี่รีบระงับอาการตกใจของตัวเองแล้วพูดเสียงแหลม “ผู้อาวุโส เมื่อกี้เขาเพิ่งฆ่าหัวหน้าสำนักไปนะ!”
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดอย่างเฉยเมยว่า “แล้วยังไง ตายเพราะการต่อสู้เป็นเรื่องปกติ เป็นตายแล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต”
หัวหน้าสำนักขุยพูดว่า “จะเป็นการตายเพราะการต่อสู้ปกติได้ยังไง คนตายไม่ใช่ผู้ดูแลหรือเทวทูตนะ เขาคือจู้หาวหัวหน้าสำนักย่อยที่ 15 เชียวนะ! ผู้อาวุโสแน่ใจแล้วเหรอ”
ผู้อาวุโสซู่มั่นได้ยินแล้วจ้องหัวหน้าสำนักขุย สายตานี้ทำให้หัวหน้าสำนักขุยตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้น น่องสั่นเป็นระยะ
ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า “นายคิดว่าฉันรู้จักกฎไม่ดีเท่านายเหรอ ฉันจะพูดกับนายอีกรอบ นี่คือการตายเพราะการต่อสู้ปกติ เงามืดเป็นหัวหน้าสำนัก ฆ่าหัวหน้าอีกสำนักตาย เรื่องนี้แม้แต่เจ้าสำนักยังขี้เกียจมายุ่งเลย แค่เงามืดชดเชยการสูญเสียของสำนักก็พอแล้ว นายเข้าใจหรือยัง”
ลู่ฝานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ”
คนนับไม่ถ้วนตะโกนอย่างตกใจ
“เขาก็เป็นหัวหน้าสำนักเหมือนกันเหรอ ผู้อาวุโสล้อเล่นหรือเปล่า”
หัวหน้าสำนักลี่ตกใจจนเกือบเด้งตัวขึ้นมา
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายรอบๆ พากันซุบซิบพูดคุย พวกเขาไม่เชื่อเหมือนกันว่าลู่ฝานคือหัวหน้าสำนัก
เป็นไปได้ยังไง คนจำนวนมากในที่นี้รู้ว่าลู่ฝานเพิ่งมาประเทศฉิงเทียนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ฐานะเป็นแค่เทวทูตเท่านั้น
ผู้อาวุโสซู่มั่นหันมาพูดกับลู่ฝานว่า “รีบเอาป้ายของนายออกมาเร็วๆ”
ลู่ฝานได้ยินแล้วพยักหน้า เอาป้ายหัวหน้าสำนักของตัวเองออกมา จากนั้นสะบัดมือโยนออกไป
ป้ายลอยอยู่กลางอากาศ แสงออร่าปีศาจสว่างขึ้นมาเล็กน้อย
ทุกคนเบิกตาโตมองป้ายอันนี้ พวกเขาพบว่ามันคือของจริง
ไอ้เด็กตรงหน้าคือหัวหน้าสำนักจริงๆ!
หัวหน้าสำนักลี่กับหัวหน้าสำนักขุย เหมือนกินซุปแล้วเจอขี้หนู สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก สีหน้าแย่ลงเรื่อยๆ
อย่างอื่นสามารถปลอมขึ้นมาได้ มีเพียงป้ายอันนี้ที่ไม่สามารถปลอมได้ นี่เป็นป้ายที่ต้องให้สิบผู้อาวุโสร่วมกันหลอมขึ้นมา
พวกเขาพูดอะไรไม่ออก เพราะผู้อาวุโสซู่มั่นพูดถูกต้อง
ถ้าลู่ฝานเป็นหัวหน้าสำนัก งั้นเขาฆ่าเจ้าอ้วนจู้ตายก็เป็นการตายเพราะการต่อสู้ปกติ เป็นตายแล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต!
หัวหน้าสำนักลี่มองตรงจุดที่เจ้าอ้วนจู้ตาย จากนั้นส่ายหน้าพูดว่า “เจ้าอ้วน นายตายอย่างไม่เป็นธรรมจริงๆ!”
ผู้อาวุโสซู่มั่นมองรอบๆ จู่ๆ เธอหัวเราะแล้วพูดว่า “เงามืด ในเมื่อนายฆ่าหัวหน้าสำนักย่อยที่ 15 ตาย งั้นนายก็รับหน้าที่ดูแลสำนักย่อยที่ 15 ไปเลยสิ จากนั้นส่งคนมาให้สำนักหมื่นคน ถือว่าเรื่องวันนี้เลิกแล้วต่อกัน!”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา งั้นตกลงกันอย่างสบายใจแบบนี้แล้วกัน!”