เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1827 ลงสระปีศาจ
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1827 ลงสระปีศาจ
เสียงดังก้องสะท้อนอยู่ในซอกเขาครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ เลือนหายไปไกล
ลู่ฝานมองรูปปั้นที่ปรากฏขึ้นกลางน้ำ ขมวดคิ้วน้อย ๆ รูปปั้นนี่ทำไมถึงได้แปลกประหลาดอย่างนี้
ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงสิ่งไม่มีชีวิต แต่กลับให้กลิ่นอายแห่งชีวิตแก่ลู่ฝาน
ลู่ฝานจ้องเขม็ง พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดหนหนึ่ง ในที่สุดก็พบว่าความรู้สึกนี้ออกมาจากตรงไหน
ดวงตา!
ดวงตาของรูปปั้นนั่นมีประกายเกินไป
เดิมทีก็ไม่เหมือนออกมาจากรูปปั้นอยู่แล้ว เหมือนกับดวงตาของคนเป็น ๆ วางอยู่ข้างในอย่างไงอย่างงั้น
เฉียบคม ชัดเจน คล้ายสามารถมองทะลุทุกสิ่ง ลู่ฝานมองจนค่อนข้างเหม่อลอย
และก็ในเวลานี้เอง บรรดาหัวหน้าสำนักผู้ฝึกชั่วร้ายที่อยู่รอบด้านพริบตานั้นต่างกระโดดลงไปทีละคน ๆ พวกเขาดูเหมือนกลัวว่าจะช้ากว่าคนอื่นหนึ่งก้าว
จากยอดเขากระโดดลงไป กลางอากาศยังเร่งความเร็ว
ก็เหมือนวางเกี๊ยว เงาของแต่ละคนดิ่งลงสู่สระปีศาจอันกว้างใหญ่
ธิดาเทพแห่งไฟที่อยู่ข้างลู่ฝานหลังจากได้ยินลงสระสองคำนี้ ก็กระโดดลงไปอย่างรีบเร่งเช่นกัน
ลู่ฝานเลิกคิ้วมอง ทว่าไม่มีท่าทีร้อนรน
ด้านข้าง ซูตงเห็นลู่ฝานเฉย ๆ จึงยิ้มพลางพูดว่า: “ทำไมเหรอ นายกลัวความสูง?”
ลู่ฝานส่ายหน้า: “นั่นย่อมไม่ใช่ ฉันเพียงอยากถามสักคำ สระปีศาจนี่มีไว้ทำอะไรกันแน่?”
ซูตงพลันหัวเราะออกมา ตอบว่า: “คำถามไร้เดียงสาอย่างนี้ นายก็ช่างกล้าถามนะ นายเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายจริง ๆ ใช่ไหม? ใต้หล้านี้ ยังมีผู้ฝึกชั่วร้ายที่ไม่รู้จักสระปีศาจ? ที่นี่ก็คือ สถานที่ซึ่งผู้ฝึกชั่วร้ายนับไม่ถ้วนกระทั่งฝันก็อยากจะแช่ตัวในสระปีศาจสักครั้ง! สามารถยกระดับศักยภาพของตัวเองในเวลาที่สั้นที่สุด ขจัดอารมณ์เคียดแค้นในร่างกาย สระปีศาจที่เข้าใจวิถีแห่งสวรรค์!”
ลู่ฝานเลิกคิ้วน้อย ๆ: “ก็หมายความว่า สระปีศาจนี่ ร้ายกาจกว่ายาเซียน?”
ซูตงเน้นชัดทีละคำ: “น้ำในสระปีศาจหยดหนึ่ง หยิบออกมาก็คือน้ำทิพย์ยาเซียน หัวหน้าสำนักเงามืด สระปีศาจหินยานนี่ เป็นไปได้ว่าอาจเปิดแค่ครั้งเดียวในประเทศฉิงเทียน พลังที่อยู่ในนั้นมีจำกัด หากนายยังไม่ลงไปอีก ส่วนดี ๆ จะต้องถูกคนอื่นแย่งไปหมดแน่”
ลู่ฝานยิ้มน้อย ๆ เขาไม่ร้อนใจสักนิดขณะที่พูดว่า: “ไม่เป็นไร สระปีศาจใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้พวกเขาหาวิธีปิดแผ่นฟ้าเพื่อดื่มมันให้หมด ยังต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง อย่าว่าแต่เวลาแค่นี้เลย แม่นางซู เธอบอกฉันหน่อยซิ สระปีศาจนี่สามารถทำให้คนย้อมเอาออร่าปีศาจได้ไหม ช่วงนี้ฉันยังต้องทำภารกิจลับ ไม่อาจให้ร่างกายปรากฏออร่าปีศาจแม้แต่ครึ่งส่วน”
มุมปากของซูตงคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม: “ฉันพอรู้ภารกิจของนายอยู่บ้าง อาจารย์แอบบอกฉันนิดหน่อย วางใจเถอะ พลังในสระปีศาจ ทั้งหมดนั้นล้วนสำเร็จจากพลังวิถีแห่งสวรรค์หลวมรวมฟ้าดิน พลังในนั้น ล้วนเป็นพลังบริสุทธิ์ที่สุด เกิดจากแก่นแท้ที่สุด สะอาดที่สุด ไม่ว่าเป็นอสูรวิเศษ นักบู๊ หรือผู้ฝึกชี่ต่างสามารถดูดซับ มิฉะนั้น จะทำให้ใต้หล้าน้ำลายสอได้ยังไง!”
ลู่ฝานพยักหน้าน้อย ๆ: “ดูท่าเป็นของดีจริง ๆ”
ซูตงตอบ: “แน่นอนอยู่แล้วหัวหน้าสำนักเงามืด หากนายไม่อยากลงไปล่ะก็ สามารถยกสิทธิ์นี้ให้ฉัน ฉันจะซาบซึ้งใจต่อนายมาก!”
ลู่ฝานหัวเราะเบา ๆ ทำเหมือนไม่ได้ยิน
บนบ่ามีเจ้าดำปรากฏ มองไกล ๆ ไปยังสระปีศาจพลางคำรามเสียงเบาหลายครั้ง
ลู่ฝานลูบหลังเจ้าดำ: “ทำไมเหรอ นายก็สัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในสระปีศาจใช่ไหม?”
ภายในร่าง เป็นเสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้นมา
“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าเกรงขามไร้เทียมทาน นายเจอของดีอะไรเหรอ? พระเจ้า เป็นสระปีศาจ! เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ รีบลงไปเถอะ รวยแล้ว!”
ฟังน้ำเสียงตื่นเต้นของไอ้เก้า ลู่ฝานในที่สุดก็ตัดสินได้แล้วว่าสระปีศาจเป็นของดีอย่างไม่ต้องสงสัย
กางแขนทั้งสองข้าง ลู่ฝานกระโดดลงจากยอดเขา
พายุฉีกกระชากเสื้อผ้าของเขา ร่างกายของเขาแฉลบผ่านยอดเขา
ลู่ฝานมองสระปีศาจที่ยิ่งใกล้เข้ามา ยิ้มบาง ๆ: “มาเถอะ ให้ฉันได้ดูสักหน่อยนายมีดีแค่ไหนกันแน่!”
ปึง!
ศีรษะของลู่ฝานจมลงสู่สระปีศาจ
ผืนน้ำรอบด้านสาดกระเซ็น ร่างกายลู่ฝานจมลงสู่สระปีศาจอย่างรวดเร็ว
เก็บอากาศ กลั้นลมหายใจ ปราณชี่ในร่างของลู่ฝานโคจรต่อเนื่อง รูขุมขนบนร่างกายเปิดออก
เนิ่นนานมาแล้ว ที่เขาเรียนรู้วิธีหายใจโดยไม่ผ่านรูจมูก
ลู่ฝานมองตัวเองค่อย ๆ จมลงไปในน้ำ ท่ามกลางผืนน้ำ แสงธรรมชาติแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นกลุ่มหนึ่งพันรอบเขา
ลู่ฝานพลันสัมผัสได้ถึงพลังแห่งโลกในร่าง ค่อย ๆ โคจรช้า ๆ คลับคล้ายคลับคลาเริ่มเสริมพละกำลัง
ตลอดเส้นทางนี้ พลังแห่งโลกภายในร่างของเขา ผ่านการใช้อย่างสับสนอลหม่าน สิ้นเปลืองไปไม่น้อย แม้เรื่องนี้สำหรับลู่ฝานแล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขาเองก็ไม่มีปัญญาใช้สอยมันสักเท่าไหร่ พลังแห่งโลกในร่างกายสรุปแล้วมีมากมีน้อย ล้วนไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับเขามากนัก
แต่สามารถเพิ่มพลังได้ย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน มองพลังในมือที่ค่อย ๆ เสริมเข้ากับพลังแห่งโลก
ลู่ฝานพลันค้นพบสิ่งใหม่
พลังทุกประเภท อาศัยวิธีลึกล้ำไหลรวมเข้าด้วยกัน ตามการโคจรพลังแห่งโลกในร่าง ค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
มันโคจรของมันเอง ทำให้ลู่ฝานดูคล้ายได้เห็นโลกใหม่
ที่จริงแล้ว วิถีแห่งฟ้าดินก็ดี พลังแห่งฟ้าดินก็ช่าง ต่างพัวพันรวมเข้าด้วยกัน ไม่แยกจาก
ที่จริงแล้ว วิถีเหล่านี้ สามารถรวมเข้าด้วยกันได้อย่างนี้ และสามารถรวมเข้าด้วยกันได้อย่างนั้น พลังเหล่านั้นสามารถชดเชยแก่นแท้ของพลังแห่งโลก ทั้งยังมีพลังเหล่านั้นร่วมประสานเข้าด้วยกัน ท้ายที่สุดกลายเป็นพลังแห่งโลก
ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองดูคล้ายได้เห็นตำรับยาแผ่นหนึ่ง เป็นตำรับยาของโลก
เดิมทีด้วยมาตรฐานของเขา กระทั่งเขตวิถีของตัวเองล้วนไม่อาจหลอมรวมแสดงศักยภาพออกมา เดิมแค่ขอบเขตของพลังแห่งโลกก็สัมผัสไม่ถึง
แต่ตอนนี้ พลังเหล่านี้
ชะลออยู่ในร่างของลู่ฝาน รวมเข้าด้วยกันทีละเล็กทีละน้อย เสมือนดังผู้ฝึกชี่ฝีมือล้ำเลิศผู้หนึ่ง กลั่นยาอย่างเชื่องช้าให้เขาดูรอบแล้วรอบเล่า
โดยไม่รู้ตัว ปราณชี่ในร่างของลู่ฝานก็พลันโคจรรวมเข้าด้วยกัน
เพราะการโคจรของพลังแห่งโลก พลังในสระปีศาจ ดูคล้ายบ้าคลั่งขึ้นมา พุ่งเข้าหาลู่ฝานอย่างไม่บันยะบันยัง
ขณะนั้น ในสระปีศาจ
รูปปั้นแกะลายฉลุ ข้างในไม่ได้กลวง แต่เป็นบันไดแนวขวาง คือสิ่งก่อสร้างที่ซ่อนไว้ซึ่งพลังฟ้าดิน
ลู่ฝานสนใจข้างในดวงตาของรูปปั้นที่สุด ขณะนั้นมีผู้อาวุโสฝึกฝนชั่วร้ายสิบคน และราชาปีศาจสามคน
ราชาปีศาจผู้ปราบมังกร ราชาปีศาจฝันร้าย ธิดาเทพแห่งความมืด ล้วนมองไปยังสระปีศาจ ผ่านกำแพงใส
ด้านหลัง ผู้อาวุโสสิบคนกำลังคุยเล่น ดื่มเหล้าพลาง เดินเล่นพลาง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก
ในบรรดาผู้อาวุโสสิบคน มีเพียงผู้อาวุโสซู่มั่นที่ทำงาน ในมือคีบมุกเม็ดหนึ่ง เดินไปข้างกายราชาปีศาจ พลางพูดว่า: “หัวหน้าสำนักรวมทั้งสิ้นหนึ่งร้อยสิบสี่คน ทั้งหมดเข้าไปในสระปีศาจแล้ว คาดว่า พวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาสิบวัน เพื่อดูดซับพลังในสระปีศาจ ส่วนจะสามารถดูดซับได้มากน้อยแค่ไหน ก็ดูที่โชคของพวกเขาแล้วกัน หรือจะพูดว่า เวลาดูดซับยิ่งนาน พลังยิ่งแข็งแกร่ง ศักยภาพยิ่งสูง พวกท่านทั้งสาม เชิญเลือกก่อน”
ราชาปีศาจฝันร้ายโบกพัดพูดว่า: “ยอดหญ้าไหวจึงรู้ทิศทางลม ดูว่าหัวหน้าสำนักเหล่านั้นเป็นอย่างไร ก็น่าจะพอรู้ถึงพลังในมือของพวกเขาแล้ว ธิดาเทพแห่งความมืด สหายผู้ปราบมังกร พวกเราสามคนเฉลี่ยแบ่งเท่า ๆ กันเถอะ เวียนกันเลือก หนึ่งคนต่อหนึ่งครั้ง ไม่ว่าใครต่างก็ไม่เสียเปรียบ”
ราชาปีศาจผู้ปราบมังกรยิ้มพลางพูดว่า: “ไม่มีปัญหา ก็ไม่ได้หวังว่าพวกเขาจะทำได้มากน้อยแค่ไหน”
ธิดาเทพแห่งความมืดสีหน้าเย็นชาพูดว่า: “เห็นด้วย ทว่ามีอยู่คนหนึ่ง ฉันเลือกแล้ว”
ราชาปีศาจฝันร้าย ราชาปีศาจผู้ปราบมังกรตะลึงไปครู่หนึ่ง ต่อมาทั้งสองคนหัวเราะออกมา: “ใคร?”
“เป็นเจ้าหนุ่มโชคดีคนไหน ทำให้ธิดาเทพแห่งความมืดหมายตาได้อย่างนี้”
ธิดาเทพแห่งความมืดพูดเรียบ ๆ : “หัวหน้าสำนักสิบห้า ชื่อเงามืด ก็คือคนสุดท้ายที่เพิ่งกระโดดลงไปเมื่อครู่นี้”
ราชาปีศาจฝันร้าย ยิ้มพลางพูดว่า: “อ้อ เจ้าหนูนั่นเองเหรอ ไม่มีปัญหา”
ราชาปีศาจผู้ปราบมังกรโบกมือพูดว่า: “ตามสบาย”
ผู้อาวุโสซู่มั่นซึ่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะเบา ๆ ไม่หยุด ผงกศีรษะน้อย ๆ ให้ธิดาเทพแห่งความมืด
ธิดาเทพแห่งความมืดสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่แสงสว่างในนัยน์ตา แหลมคมขึ้นมาหลายส่วน มองไปยังสระปีศาจอย่างไม่คลาดสายตา
และก็ในขณะเดียวกัน ดวงตาของรูปปั้นนั้น ถึงกับส่องแสงสว่างแวววาวขึ้นมา