เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 197
บทที่ 197
ลู่ฝานถอยออกมาไม่กี่ก้าว ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม มองประตูเปิดออก
ลายมังกรและเสือ บนประตูคุ้มครองหายไป ถูกแทนที่ด้วยคำว่าสือฟาง
หานเฟิงมองลู่ฝานอย่างตกตะลึง จากนั้นหัวเราะออกมา “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายเปิดมันออกได้จริงๆ ไอ้หมอนั่นบอกว่านักบู๊ ไม่มีคุณสมบัติเข้าไปไม่ใช่เหรอ นายเปิดประตูออกได้ยังไง”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “บนโลกนี้ ไม่มีที่ไหนที่นักบู๊เข้าไปไม่ได้ ผู้ฝึกชี่แค่มีวิธีมากกว่านักบู๊เท่านั้นเอง”
“ใช่ๆ คุณท่านของตระกูลฉัน ก็พูดแบบนี้เหมือนกัน ผู้ฝึกชี่ เหอะๆ ก็เท่านั้นแหละ”
หานเฟิงหัวเราะอย่างมีความสุข จ้องไปยังประตูบานใหญ่
ฉู่สิงกับฉู่เทียนเดินเข้ามา ฉู่เทียนพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ดูเหมือนต่อไป ถ้าเจอสมบัติลึกลับ หรือจวน คงต้องเรียกนายมาด้วย”
ศิษย์พี่ฉู่สิงมองอย่างประเมิน แล้วถามว่า “เอ๊ะ ทำไมประตูบานนี้ ถึงเปิดออกมาทางด้านนอกล่ะ ตอนตาเฒ่านั่นเข้าไป มันเปิดเข้าไปด้านในนี่”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ ศิษย์พี่ฉู่สิงมองละเอียดจริงๆ
“ประตูคุ้มครองแบ่งเป็นประตูเป็น ประตูตาย โดยทั่วไปแล้ว อาศัยรูปแบบที่ถูกต้องที่เจ้าของทิ้งไว้ จะเข้าไปยังประตูเป็น ส่วนที่ใช้พลังทำลายหรือไม่ก็ติดกับดัก จะเข้าสู่ประตูตาย ประตูเป็นอาจมีความยากลำบากมากมาย หรืออาจเป็นเส้นทางทั้งแถบ แต่ยังไงก็มีชีวิตรอด ในประตูตาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มีกับดักเต็มไปหมด ถึงแก่ชีวิตได้เลย”
ลู่ฝานพูดเรื่องเกี่ยวกับประตูคุ้มครองที่ตัวเองรู้ออกมา
หานเฟิงตาเป็นประกาย “แล้วตอนนี้เราเปิดประตูเป็นหรือประตูตาย”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ประตูเป็น”
พวกฉู่สิงหัวเราะออกมา ตอนนี้พวกเขาเชื่อใจลู่ฝานมาก
หานเฟิงถือกระบี่หยกในมือ เดินไปด้านหน้า
“ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคน ให้ฉันนำทางเอง พูดกันก่อน เดี๋ยวถ้าเจอของดี ฉันจะแบ่งเป็นคนแรก”
หานเฟิงเดินอย่างสบายใจ จนเกือบฮัมเพลงออกมา
ลู่ฝานอดเตือนศิษย์พี่หานเฟิงไม่ได้ อย่าคิดว่าจวนอากาศธาตุที่เซียนบำเพ็ญชี่หลงเหลือเอาไว้ เป็นสนามเด็กเล่น แม้เป็นประตูเป็น ไม่แน่อาจเจอองครักษ์ก็ได้
จากพละกำลังของเซียนบำเพ็ญชี่ ถึงทิ้งหุ่นเอาไว้สองตัว ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรับมือได้
ทั้งสี่คนเดินเข้าไปข้างในช้าๆ
โลกด้านหน้าเหมือนกาแล็กซี่ ด้านล่างเป็นแสงดาวเคลื่อนไหว รอบๆ มีความมืดหมุนเวียนไปมา แอบมีลมสีขาวหมุนวนอยู่ในนั้น
“นี่คือ ตำหนักดวงดาว!”
ลู่ฝานพูดออกมาเบาๆ
เมื่อได้ยินคำว่า ตำหนักดวงดาว หานเฟิงอดถามไม่ได้ว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายกำลังพูดอะไร”
ลู่ฝานอธิบายว่า “ผมบอกว่า ที่นี่คือตำหนักดวงดาวของผู้ฝึกชี่ แค่ผู้ฝึกชี่มีจวน โดยพื้นฐานจะสร้างตำหนักดวงดาวแบบนี้ เอาไว้ใช้ตระหนักรู้ กลั่นยา ขนาดของตำหนักดวงดาว พลังที่เหลืออยู่ สามารถรู้พละกำลังของผู้ฝึกชี่คนนี้ได้ ผมคิดว่า เซียนบำเพ็ญชี่คนนี้ คงเป็นเซียนบำเพ็ญชี่ที่ฝึกพลังลมเป็นหลัก มองตำหนักดวงดาวที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เซียนบำเพ็ญชี่คนนี้คงเป็นผู้แข็งแกร่งในบรรดาเซียนบำเพ็ญชี่”
แววตาลู่ฝานเป็นประกาย เขามีพลังชี่ในตัว แค่ยืนอยู่ในตำหนักดวงดาว ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังรอบๆ ที่เข้ามาในร่างกาย แอบมีพลังของวิถีใดวิถีหนึ่ง แฝงอยู่ด้วย
ลู่ฝานแน่ใจว่า ถ้าตัวเองทำความเข้าใจอยู่ในนี้สักระยะ ต้องได้รับสิ่งดีๆ มากมายแน่นอน
ลู่ฝานสูดหายใจลึก แอบเคลื่อนไหววิชาเทพไร้ขีดจำกัดของตัวเอง พลังแห่งลมที่อยู่ในตำหนักดวงดาวเข้ามาในตัวเขาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การเคลื่อนไหวของค่ายกลห้าธาตุในตัว กลายเป็นพลังบริสุทธิ์เข้าไปในปราณชี่ ให้ความชุ่มชื้นกับปราณชี่ของลู่ฝานอย่างต่อเนื่อง
หานเฟิงมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “สถานที่บ้าๆ แบบนี้ ควรไปทางไหน ตำหนักดวงดาว ไม่มีประโยชน์กับฉันสักนิด ยาเม็ด ฉันต้องการยาเม็ด อย่าบอกนะว่าเซียนบำเพ็ญชี่ จะไม่เหลือยาอะไรไว้ในจวนของตัวเองเลย”
ขณะกำลังพูด จู่ๆ ในตำหนักดวงดาว เงาเลือนรางพร้อมแสงดาว ปรากฏขึ้นมา
ใบหน้าเลือนราง ตัวปกคลุมด้วยแสงดาว เงาเลือนรางสูงสิบกว่าฟุต มองลงมายังพวกลู่ฝาน
“นักบู๊ พวกนายเข้ามาที่นี่ไม่ได้ รีบออกไป จะไว้ชีวิตพวกนาย”
ฉู่สิง ฉู่เทียนและหานเฟิงรีบเอาอาวุธออกมา
หานเฟิงตะโกนว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน จะเอายังไง สู้ไหม หรือยืนนิ่งๆ”
ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “จะสู้ยังไงล่ะ นี่เป็นองครักษ์ดวงดาวที่ก่อตัวจากตำหนักดวงดาว รีบหนีเร็ว”
เมื่อได้ยินคำว่าหนี พวกหานเฟิงรีบแยกย้ายกันหนี องครักษ์ดวงดาวที่อยู่ด้านหลังอ้อมผ่านใบหน้าเลือนราง ง้างมือขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันปกป้องที่นี่ ไม่มีทางให้พวกนาย เข้ามาตามใจชอบ ทำลาย!”
เมื่อพูดออกมาว่าทำลาย แสงดาวรอบๆ เปลี่ยนไปทันที
พลังนับไม่ถ้วน พุ่งเข้ามา แสงดาวเหมือนใยแมงมุมเต็มท้องฟ้า ค่ายกลแห่งความตาย พุ่งเข้ามาฆ่า
แสงดวงหนึ่ง พุ่งเข้ามาบนตัวหานเฟิง ไหล่ของหานเฟิงเป็นรูทันที ไม่มีเลือดไหลออก ตรงบาดแผลมีควันสีขาวลอยออกมา
ลู่ฝานสะบัดกระบี่หนัก กันแสงนับไม่ถ้วนเอาไว้ แสงแต่ละดวง เหนือกว่าการโจมตีด้วยพลังทั้งหมด ของนักบู๊แดนปราณนอก จากร่างกายอันแข็งแกร่งของลู่ฝาน โดนลำแสงโจมตี ก็ต้องร้องซี๊ดออกมา