เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 198
“ศิษย์น้องลู่ฝาน แน่ใจใช่ไหม ว่าเราเข้าประตูเป็นมา นายแน่ใจใช่ไหม ว่าไม่ผิดพลาด”
หานเฟิงวิ่งพลาง ตะโกนออกมาเสียงดัง องครักษ์ดวงดาวด้านหลังลอยมาเหมือนสายลม ซัดหมัดใส่ทั้งสี่คนอย่างแรง
“หลีกไป!”
ลู่ฝานแผดเสียงออกมา เตะหานเฟิงออกไปก่อน ฉู่สิงกับฉู่เทียนลงมือพร้อมกัน แสงกระบี่กับดาบ สว่างขึ้นพร้อมกัน
“ทำลาย!”
ฉู่สิงกับฉู่เทียนร่วมมือกัน ทันใดนั้น ทำให้พลังฟ้าดินรอบๆ ปั่นป่วนทันที
ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ฟาดลงมา โดนปัดออกไป แต่พลังลมอันน่ากลัวยังคงพัดผ่านไปรอบๆ พัดจนฉู่สิงกับฉู่เทียนกลิ้งลงบนพื้น
ลู่ฝานลงมืออย่างบ้าคลั่ง ปราณชี่ดันพลังรอบๆ ออกไป ความเร็วของกระบี่ไม่สามารถมองเห็นได้ตรงๆ
กระบี่มังกรเหิน! เมื่อกระบี่พุ่งออกมา แสงกระบี่อันแข็งแกร่ง สว่างขึ้นบนกระบี่หนัก
องครักษ์ดวงดาวโดนฟันแขน และถอยหลังไปหลายก้าว
ลู่ฝานเก็บกระบี่หนักไว้ด้านหลัง หิ้วศิษย์พี่ฉู่สิงกับฉู่เทียนขึ้นมาคนละข้าง หลบลำแสงที่พุ่งมาโจมตีไม่หยุด และวิ่งหนีอย่างต่อเนื่อง
หานเฟิงโดนแสงทะลุฝ่ามือ ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด รีบกระโดดขึ้นมา วิ่งตามลู่ฝานเข้าไปด้านใน
ในหัวลู่ฝานหวนคิดถึงสิ่งที่เกี่ยวกับตำหนักดวงดาวอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจ ทำไมตอนแรก ถึงไม่เรียนรู้เกี่ยวกับผู้ฝึกชี่ จากอาจารย์หวูเฉิน ให้มากกว่านี้
กวาดตามองไปทั่ว ทางออกอยู่ไหน ทางออกอยู่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นตำหนักแบบไหน ยังไงก็ต้องมีทางออก
ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นดวงดาวที่สว่างเป็นพิเศษด้านหน้า ลู่ฝานพาศิษย์พี่พุ่งเข้าไป อย่างไม่ลังเล
องครักษ์ดวงดาวขนาดใหญ่ด้านหลัง อ้าปากสูดลมหายใจ ลำแสงนับไม่ถ้วน เข้าไปในตัวมันเองอีกครั้ง ช่วยสร้างแขนใหม่ออกมาให้มัน
มองพวกลู่ฝานกำลังวิ่งหนี องครักษ์ดวงดาวกลายร่างเป็นสายลม พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
ตอนนี้ พวกลู่ฝานพุ่งเข้ามาข้างหน้าดาว ดวงที่สว่างที่สุด
ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งเห็นว่าดาวดวงนี้ ไม่ใช่ทางออก แต่เป็นแร่ควอตซ์สีใส
“ให้ตายเถอะ!”
ลู่ฝานสบถออกมา แต่หานเฟิงกลับพุ่งเข้าไป คว้าแร่ควอตซ์ลงมา
“ได้มาแล้วศิษย์น้องลู่ฝาน”
หานเฟิงตะโกนออกมา แต่ตอนที่เขาเอาแร่ควอตซ์ องครักษ์ดวงดาวด้านหลังพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
มันอ้าปาก แสงดาวเป็นแถบ พ่นออกมาจากปากองครักษ์ดวงดาว
แสงดาวอันแข็งแกร่ง เหมือนแสงกระบี่อันน่ากลัว ลู่ฝานรีบหันไป ดึงกระบี่หนักออกมา ใช้เกราะ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“ยืนด้านหลังผม!”
ลู่ฝานตวาดออกมา ฉู่สิง ฉู่เทียนและหานเฟิงรีบมายืนด้านหลังลู่ฝาน
ตู้ม!
แสงดาวเป็นแถบ โจมตีมายังลู่ฝาน
แสงดาวอันน่ากลัวมาพร้อมกับพลังทำลายลึกถึงกระดูก พุ่งเข้ามาสู่ปราณชี่กับอวัยวะภายในของลู่ฝาน
เป็นการโจมตีจากข้างนอกสู่ข้างใน ตอนที่ได้สัมผัส ลู่ฝานมีเลือดออกตรงมุมปาก
ค่ายกลห้าธาตุกับค่ายกลหยินหยางในตัว เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
ปราณชี่อันแข็งแกร่ง เหมือนรากต้นไม้ใต้ดิน ไม่ว่าลมจะพัดอย่างไร ก็ไม่ขยับไปไหน
“ศิษย์น้องลู่ฝาน!”
หานเฟิง ฉู่สิงและฉู่เทียนตะโกนออกมา ทั้งสามคนโจมตีไปยังองครักษ์ดวงดาวอย่างสุดชีวิต
ลู่ฝานกัดฟันอดทน ขณะนั้น ลู่ฝานเห็นสิ่งแปลกประหลาดในปากองครักษ์ดวงดาว
แสงเหล่านั้นเหมือน……
ลู่ฝานพูดออกมาด้วยความตกใจ “ทางออก ทางออกคือปากของมัน ศิษย์พี่ทั้งสาม คอยช่วยเหลือผมด้วย!”
กล้ามเนื้อทั้งตัวลู่ฝานปูดขึ้นมา ปราณชี่บนตัวหายไปอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมา ลู่ฝานปล่อยกระบี่หนัก
ตอนกระบี่หนักโดนแสงดาวโจมตี ลู่ฝานเหวี่ยงหมัดออกมา รวบรวมพลังทั้งหมดเอาไว้ แก่นแท้หมัดอู๋เซี่ยง แก่นแท้ของหมัดทำลายล้าง แก่นแท้ของหมัดถล่มเขา โจมตีออกมาพร้อมกัน
“พุ่งไป!”
เหวี่ยงหมัดออกมา แสงดาวรอบๆ เหมือนโดนคลื่นยักษ์โจมตี วกกลับไปทันที พลังหมัดนับไม่ถ้วน ปกคลุมด้านหน้าลู่ฝานเอาไว้ ต่อยจนองครักษ์ดวงดาวสะเทือนไปทั้งตัว
หานเฟิง ฉู่สิงและฉู่เทียนเด้งตัวขึ้นพร้อมกัน
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
แสงกระบี่แสบตาสองดวง แสงดาบอันบ้าคลั่งหนึ่งดวง ปล่อยลำแสงเป็นหมื่นฟุตออกมาทันที
หัวขององครักษ์ดวงดาวโดนฟันจนกระเด็น แขนทั้งสองข้างโดนฟันจนขาด แสงสีขาว ทะลักออกจากปากของมัน จนเกือบจะทำลายดวงตาคนอื่น
“พุ่งเข้าไป!”
ลู่ฝานพลิกมือรับกระบี่หนักของตัวเอง และพุ่งไปทางแสงสีขาว
ปฏิกิริยาของฉู่สิง ฉู่เทียนและหานเฟิงรวดเร็วเช่นกัน พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ตัวขององครักษ์ดวงดาวที่อยู่ด้านล่าง ระเบิดอย่างรุนแรง
แรงระเบิดอันน่ากลัว ทำให้เกิดพลังทำลายล้าง ตามมาด้านหลัง
ลู่ฝานเร่งความเร็ว พุ่งไปด้านหน้าแสงสีขาว
พลิกกระบี่ ตบหานเฟิง ฉู่สิง และฉู่เทียนเข้าไปข้างในทันที
ส่วนตัวเอง โดนแรงระเบิด จนเข้าไปในแสงสีขาว
พลั่ก พลั่ก พลั่ก!
เสียงอึกทึกดังต่อเนื่องสามครั้ง และร่วงลงบนพื้น
เสียงร้องโอดครวญของศิษย์พี่หานเฟิงดังขึ้น “ศิษย์น้องลู่ฝาน ก้นนายทับหัวฉันแล้ว”
ลู่ฝานพลิกตัวอย่างน่าเวทนา ปราณชี่โดนกระแทกจนเกือบสลาย รวมไปถึงเกราะก็แสงหม่นลงด้วย
หานเฟิงบ่นแล้วลุกขึ้นยืน ลูบเอว แล้วพูดว่า “รอให้ฉันแข็งแกร่งก่อนเถอะ ฉันต้องกลับมาจัดการมันแน่นอน!”
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วลุกขึ้น ลู่ฝานช้อนตาขึ้นมอง เห็นห้องด้านหน้า
ทันใดนั้น ลู่ฝานอ้าปากกว้าง
ฉู่สิงกับฉู่เทียนลุกขึ้นมา ก็เบิกตาโต มองห้องนี้เช่นกัน
เงียบอยู่นาน ลู่ฝานกลืนน้ำลาย สบถออกมาแบบที่เห็นได้น้อยครั้ง “รวยแล้ว!”