เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 205
“ถอย ถอย!”
ฉู่เทียนดึงหานเฟิงเข้ามา ถืออาวุธไว้ในมือ
โครงกระดูกสีทอง เงยหน้าขึ้นช้าๆ ในดวงตาทั้งสองข้าง มีควันสีเทาพุ่งขึ้นมา ตอนนี้รวมตัวเป็นเหมือนลูกตา
โครงกระดูกสีทอง พร้อมดวงตาโดดเดี่ยว มีแสงสีทองแสบตา อยู่ทั่วร่างกาย พลานุภาพอันแข็งแกร่ง แผ่ซ่านไปทั่ว
ลู่ฝานและคนอื่น รีบถอยหลัง เว้นระยะห่างกับโครงกระดูกสีทอง
แต่ถอยไม่ถึงสิบก้าว ลู่ฝานเห็นพื้นที่ด้านหลัง เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา
ความบิดเบี้ยวของมันน่ากลัวมาก ทำให้ลู่ฝานและคนอื่น ไม่กล้าเดินไปอีก
ด้านในตำหนัก มีพื้นที่ภาพลวงตาปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ แบบไร้เหตุผล เหมือนม้วนภาพเปิดออกทีละม้วน ปรากฏขึ้นบริเวณรอบๆ
ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นว่าตำหนักดวงดาวที่พวกเขาเพิ่งเดินผ่านมา และห้องสมุนไพรที่พวกเขาเคยเอามา รวมไปถึงประตูใหญ่ที่เดินเข้ามา
ส่วนอื่น รวมถึงห้องที่มีขวดเล็กๆ วางเต็มไปหมด ลู่ฝานมองแวบหนึ่ง รู้สึกตกใจทันที นี่คือตำหนักยา ยาเม็ดทั้งหมดที่เซียนบำเพ็ญชี่หลงเหลือเอาไว้ แบ่งเป็นหมวดหมู่ วางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ลองนับคร่าวๆ มีประมาณพันขวดขึ้นไป
เมื่อมองไปด้านข้าง ยังมีห้องวางเครื่องราง ห้องที่มีหุ่นวางอยู่เต็มห้อง ห้องที่มีเงินทองกองอยู่
แต่ละห้อง ดูเหมือนโอ่อ่าตระการตามาก วัสดุด้านในล้วนเป็นของดี ทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ ต้องคู่ควรกับฐานะของเซียนบำเพ็ญชี่ แม้กระทั่งทรัพย์สินที่อริยปราชญ์ฟ้าดินมี อาจเทียบกับที่นี่ไม่ได้
ทันใดนั้น หานเฟิงเห็นห้องที่พวกเฒ่าประหลาดกำลังต่อสู้กันอยู่
เฒ่าประหลาดกับเอี๋ยนชิงที่อยู่ข้างใน มีเลือดเต็มตัว สิ่งที่กำลังต่อสู้กับพวกเขา เป็นค่ายกลผสมที่น่ากลัว
ค่ายกลมากมาย ทำให้เอี๋ยนชิงต้องทุ่มสุดตัว
พลังปราณอันแข็งแกร่งพร้อมกับแสงสีดำที่มองเห็นด้วยตาเปล่า เห็นได้ชัดว่าเขาเกือบเข้าสู่แดนปราณชีวิตแล้ว
พลังปราณรวมตัวเป็นสี เป็นความสามารถของนักบู๊แดนปราณชีวิต แสงสีดำบางๆ แสดงให้เห็นว่า ผลการฝึกตนของเอี๋ยนชิงในวิถีบู๊ เน้นหนักไปที่วิถีทำลายและความมืดมน
แต่ไม่ว่าจะเป็นวิถีบู๊ประเภทไหน แค่ก้าวเข้ามา พลานุภาพจะพุ่งสูงขึ้น
แม้เอี๋ยนชิงยังไม่ได้เข้าสู่แดนปราณชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ระดับความเฉียบคมของการโจมตี พวกนักบู๊แดนปราณนอกไม่สามารถเทียบได้
ซัดหมัดออกไป พลังอันน่ากลัว สามารถทำลายทุกสิ่งที่มองเห็นได้
แม้เป็นค่ายกลผสมห้าธาตุค่ายใหญ่ก็ต้องสั่นไหวเพราะหมัดของเขา มีสัตว์ร้ายพลานุภาพน่ากลัวขนาดประมาณสามสิบเมตร ก่อตัวอยู่ในค่ายกล โดนทำลายด้วยหมัดของเอี๋ยนชิง ท่ามกลางอากาศเวิ้งว้างที่แตกต่างกันออกไป ลู่ฝานสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าตกใจ ที่ออกมาจากหมัดของเอี๋ยนชิง
ทันใดนั้น เอี๋ยนชิงกับเฒ่าประหลาดหันมาพร้อมกัน พวกเขาเห็นอากาศเวิ้งว้างที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ทั้งสองสีหน้าตกใจ เห็นพวกลู่ฝานด้วยเช่นกัน จากนั้นพวกเขาพุ่งเข้ามา
ลู่ฝานจับอาวุธตัวเองเอาไว้แน่น มองเอี๋ยนชิงพุ่งออกมาจากอากาศเวิ้งว้างลักษณะเป็นวงกลม พร้อมกับแผดเสียงออกมาด้วย
เอี๋ยนชิงกับเฒ่าประหลาดที่ปรากฏตัวกะทันหัน ทำให้พวกลู่ฝาน ยืนหันหลังชนกัน
เอี๋ยนชิงสบถออกมาว่า “ที่บ้าบออะไรเนี่ย เกือบทำผมตาย เฒ่าประหลาดเฟิงหลิง ผมจะบอกให้นะ ยาทิพย์เม็ดเดียวไม่พอหรอก อย่างน้อยต้องสองเม็ด”
เฒ่าประหลาดลุกขึ้นอย่างน่าเวทนา ขาของเขา มีเลือดสีดำไหลออกมาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเขาโดนพิษ
เฒ่าประหลาดยัดยาเม็ดใส่ปากไม่หยุด “พูดไว้แล้วว่าหนึ่งเม็ดก็หนึ่งเม็ดสิ เอี๋ยนชิง ถึงอาจารย์นายมา ก็ได้แค่ยาทิพย์เม็ดเดียวเท่านั้น”
เอี๋ยนชิงเข้ามาบีบคอเฒ่าประหลาด
ระยะใกล้ขนาดนี้ บวกกับพละกำลังของเอี๋ยนชิง เฒ่าประหลาดแทบจะไม่ขัดขืน
เอี๋ยนชิงกัดฟันพูดว่า “ตาเฒ่า ฉันบอกว่าสองเม็ดก็สองเม็ดสิ ถ้านายไม่ให้ฉัน ฉันจะฆ่านายที่นี่ จากนั้นเอาของนายไปทั้งหมด”
ในแววตาของเอี๋ยนชิงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม พลังปราณสีดำรอบตัว เริ่มกลายเป็นมังกรสีดำ
ใบหน้าเฒ่าประหลาดเป็นสีแดง เขาสัมผัสได้ถึงความอาฆาตรุนแรง จากตัวเอี๋ยนชิง
“ได้ สองเม็ดก็สองเม็ด!”
เฒ่าประหลาดยอมจำนน กัดฟันพูดออกมา
เอี๋ยนชิงส่งเสียงหึ เหวี่ยงเฒ่าประหลาดออกไปด้านข้าง เหมือนทิ้งขยะ จากพละกำลังอาจารย์บำเพ็ญชี่ ของเฒ่าประหลาด ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเอี๋ยนชิงสักนิด
สายตาค่อยๆ หยุดลงที่พวกลู่ฝาน เอี๋ยนชิงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “มีใครพออธิบายให้ฉันได้ไหม ว่าที่นี่คือที่ไหน”
พวกลู่ฝานไม่พูดอะไร มองเขาเหมือนศัตรู
เอี๋ยนชิงเห็นฉู่เทียน อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นหัวเราะ แล้วพูดว่า “นี่คือฉู่เทียน ดาบเทียนควบแห่งคณะหนึ่งเดียวไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่า ที่นี่เป็นถิ่นของคณะหนึ่งเดียว”
ฉู่เทียนพูดอย่างเย็นชาว่า “นายคิดว่าฉันจะตอบนายไหม เอี๋ยนชิง”
เอี๋ยนชิงหัวเราะ “ฉันว่านายต้องตอบ ถ้านายไม่อยากโดนฉันซัด จนต้องนอนบนเตียงไปหลายเดือน อีกครั้งหนึ่ง”
ฉู่เทียนยกดาบยาวขึ้นมา “ครั้งก่อนที่คณะหยินหยาง ฉันไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ถ้านายอยากสู้กับฉันที่นี่ ฉันจะบอกนายว่า ถึงต้องละเมิดกฎของคณะหนึ่งเดียว ฉันก็จะหักกระดูกนาย”
เอี๋ยนชิงยกยิ้มมุมปาก อย่างเย้ยหยัน
“งั้นเหรอ กลัวว่านายจะตายที่นี่น่ะสิ”