เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 208
“มีความสามารถน้อยนิด แต่คิดทำการใหญ่ ไม่เจียมตัว”
เอี๋ยนชิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่พลังปราณบนตัว ปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้น ฉู่สิงกับหานเฟิงกระเด็นออกไปทันที พลังปราณสีดำมาพร้อมกับเสียงระเบิด เหมือนหมัดนับไม่ถ้วน กระแทกลงบนตัวฉู่สิงกับหานเฟิง ทั้งสองโดนกระแทกจนกระเด็นไปหลายสามสิบเมตร
ฉู่เทียนรีบเดินเข้ามา ฟันดาบไปทางเอี๋ยนชิง
พลังดาบแผ่ซ่าน ความแหลมคมของแสงดาบ ทำให้เอี๋ยนชิงขมวดคิ้วเบาๆ และหลีกทางเล็กน้อย
หลบดาบของฉู่เทียนเพียงมิลลิเมตร เอี๋ยนชิงยื่นนิ้วออกมาหนึ่งนิ้ว แตะไปที่อกฉู่เทียน
“โดน!”
เลือดพุ่งออกมา อกของฉู่เทียนโดนทิ่มเป็นรูเล็ก
ฉู่เทียนตัวโงนเงน แต่ไม่ได้เซถอยหลัง พลิกมือใช้วิชาดาบอีกครั้ง
วิชาดาบที่ยืดหยุ่นได้ ฟันจนเกิดประกายไฟบนตัวเอี๋ยนชิง ในเวลาเดียวกัน ลู่ฝานพุ่งเข้ามา ยกกระบี่หนักขึ้น ลู่ฝานระเบิดพลังปราณ 20 เท่าของตัวเองทันที
“กระบี่มังกรเหิน!”
กระบี่ฟันตรงๆ ไปที่เอวของเอี๋ยนชิง พลังปราณ 20 เท่าทำให้ชี่ที่ปกคลุมร่างกายเอี๋ยนชิงสั่นรุนแรง
“เอ๊ะ”
เอี๋ยนชิงตกใจเล็กน้อย มองลู่ฝานอีกครั้ง
จากนั้น เอี๋ยนชิงหรี่ตาลง แล้วพูดว่า “คนกระจอกกล้ามาสู้กับผู้ยิ่งใหญ่! พระเนตรสะกด เปิด!”
ตาทั้งสองข้างของเอี๋ยนชิงมีแสงน่าตกใจพุ่งออกมา ฉู่เทียนกับลู่ฝานที่อยู่ใกล้สุด โดนแสงส่อง ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมทันที
ลู่ฝานรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองเป็นหิน ปราณชี่ในตัวเคลื่อนไหวช้าลง พลังอันน่ากลัวระงับการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้
วินาทีนั้น ลู่ฝานรู้สึกเหมือนภูเขาขนาดใหญ่ หนีบเขาเอาไว้ตรงกลาง ไม่สามารถขยับได้ ขนาดหายใจยังลำบาก
ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเอี๋ยนชิง เหมือนสัตว์ประหลาด แปลกประหลาด ชั่วร้าย เต็มไปด้วยสีดำและสีแดง
ฉู่สิงกับหานเฟิงที่เพิ่งลุกขึ้นมา โดนพระเนตรสะกดของเอี๋ยนชิงสาดส่องมาเช่นกัน ยืนนิ่งที่เดิมทันที
แสงค่อยๆ หายไป ลู่ฝานเห็นตรงหว่างคิ้วของเอี๋ยนชิง มีกล้ามเนื้อกระตุกเบาๆ เหมือนจะทะลุออกมาจากตรงกลาง
แสงในดวงตาหายไป เอี๋ยนชิงพูดว่า “พวกพละกำลังไม่เกินแดนปราณใน กล้าเหิมเกริมต่อหน้าฉัน เอาเลือดสารจำเป็นของพวกนายออกมา”
พลังปราณบนตัวเอี๋ยนชิงแยกออกเหมือนหนวดหมึก ที่ไร้รูปร่างนับไม่ถ้วน พันพวกลู่ฝานทั้งสี่คนเอาไว้ หนวดสองสามหนวด เข้าไปในตา จมูก ปาก หู ของพวกลู่ฝาน
วินาทีต่อมา ลู่ฝานเห็นศิษย์พี่ของตัวเอง เริ่มมีเลือดออกเจ็ดทวาร เลือดสดไหลจากใบหน้าลงบนพื้น และไหลไปทางเฒ่าประหลาด
เอี๋ยนชิงตบพลังปราณลงบนพื้น วินาทีต่อมา ด้านล่างตัวเฒ่าประหลาดปรากฏเป็นค่ายกลที่รวมตัวจากพลังปราณ
ตอนเลือดสดสัมผัสกับค่ายกล มีแสงสีแดงก่ำสว่างขึ้น ออร่าบนตัวเฒ่าประหลาดพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ ใบหน้าเฒ่าประหลาดเกิดการเปลี่ยนแปลง
เฒ่าประหลาดค่อยๆ หนุ่มขึ้น ผิวหนังแห้งกร้าน กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง ใบหน้าชรา หนุ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ อายุของเฒ่าประหลาดเกิดการย้อนกลับ ไม่นาน เฒ่าประหลาดกลับไปเป็นอายุ 20-30 ปี
ลู่ฝานยังต่อสู้กับพลังปราณของเอี๋ยนชิงในร่างกายตัวเอง พลังปราณของเอี๋ยนชิงมีพลานุภาพทำลายทุกสิ่ง สร้างความเสียหายในตัวลู่ฝาน อย่างบ้าคลั่ง สิ่งเดียวที่สามารถต้านทานมันได้ นั่นก็คือปราณชี่ในตัวลู่ฝานที่ดูเหมือน “อ่อนแอ” มาก
สิ่งที่แตกต่างจากพวกศิษย์พี่คือ ลู่ฝานไม่ได้เลือดออกเจ็ดทวาร แต่กลับรู้สึกว่า ตัวเองเริ่มเคลื่อนไหวได้
ปราณชี่ของเขาปล่อยพลังป้องกันอันแข็งแกร่งออกมา จากพลังปราณของเอี๋ยนชิงที่เหนือกว่าเขาหลายสิบขั้น ไม่น่าจะทำลายปราณชี่ของเขาได้
ยังดีที่ตอนนี้ เอี๋ยนชิงจดจ่อกับเฒ่าประหลาด
มองออร่าของเฒ่าประหลาดที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างพอใจ ใกล้ถึงนักเรกิแล้ว
การยกระดับที่ฝืนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ต้องใช้เลือดสารจำเป็นของคนอื่น เลือดสารจำเป็นของตัวเอง ก็โดนแผดเผาไปด้วย ภายใต้การควบคุมของเอี๋ยนชิง เฒ่าประหลาด ได้จุดไฟชีวิตของตัวเองแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมื่อเขาถึงขั้นสูงสุด จะเป็นช่วงที่เขาต้องจบชีวิตลง
ทันใดนั้น ออร่าบนตัวเฒ่าประหลาดพลุ่งพล่าน
นี่คือการก้าวเข้าสู่นักเรกิ แต่เฒ่าประหลาดเจ็บปวดจนตัวกระตุก
เอี๋ยนชิงหัวเราะอย่างมีความสุข
โครงกระดูกสีทองเงยหน้าขึ้น พูดเสียงก้อง “นักเรกิที่คุกเข่าตรงหน้าฉัน แม้พละกำลังของนายเพียงพอ แต่ทำไมออร่าอ่อนแอเช่นนี้ นายไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอดของฉัน!”
เพียงประโยคเดียว ทำให้เอี๋ยนชิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ลู่ฝานแผดเสียงออกมา ตอนนี้แหละ!
ทันใดนั้น ลู่ฝานระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมา พร้อมกับปราณชี่ของเขา และพลังปราณของเอี๋ยนชิงก็ระเบิดออกมาด้วย
พลิกมือสะบัดกระบี่หนัก ลู่ฝานตบฉู่เทียนออกไป
ลู่ฝานเดินเข้ามา และตวัดกระบี่สองครั้ง ฉู่สิงกับหานเฟิงกระเด็นออกไป
ทั้งสามคนลอยเป็นเส้นโค้งงดงาม ไปยังประตูด้านหลังโครงกระดูกสีทอง
“ศิษย์น้องลู่ฝาน!”
หานเฟิงตะโกนกลางอากาศ
ลู่ฝานกัดฟันพูดว่า “อย่ากลับมา!”
พวกหานเฟิงกระเด็นเข้าไปในประตู ปลิวออกจากจวนอากาศธาตุ
เอี๋ยนชิงมีสีหน้าตกตะลึง จากนั้นพูดเสียงดังว่า “นายหลุดพ้นจากพระเนตรสะกดของฉัน เป็นไปไม่ได้!”
ลู่ฝานตั้งกระบี่ตรง แล้วพูดว่า “นี่หมายความว่าพระเนตรสะกดของนาย ใช้ไม่ได้!”