เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 210
ลู่ฝานเจ็บจนเกือบสลบไป ถึงมีเกราะปกคลุมบนตัว แต่เตะของเอี๋ยนชิงทำให้กระดูกซี่โครงของเขา หักไปอย่างน้อยสามซี่
ลู่ฝานฝืนกระโดดออกจากเสาหิน พุ่งประชิดกระแทกเข้ากับตัวเอี๋ยนชิง
เอี๋ยนชิงตัวโงนเงน ส่วนลู่ฝานใช้แรงสะท้อนกลับ กลิ้งตัวหลายสิบครั้ง มาอีกด้านหนึ่ง
ลู่ฝานหมอบอยู่บนพื้น หายใจรุนแรง หยิบกระบี่หนัก ที่ตกอยู่ข้างๆ ขึ้นมา
“คิดไม่ถึงว่ามีเคล็ดวิชาป้องกันตัวแบบนี้ ไอ้เด็กน้อย นายทำให้ฉันสนใจซะแล้ว ถ้านายเป็นคนคณะหยินหยาง ฉันยังไว้ชีวิตนายได้ น่าเสียดาย นายเป็นคนคณะอื่น ฉันจัดการศัตรู แบบถอนรากถอนโคนมาโดยตลอด”
โจมตีสองครั้ง แต่ไม่สามารถฆ่าลู่ฝานได้ ตอนนี้เอี๋ยนชิงโมโหมาก รอยยิ้มมุมปาก ดูโหดเหี้ยม
ขยับไปทางซ้ายสองสามก้าว เอี๋ยนชิงตั้งสมาธิ จะจัดการลู่ฝานที่นี่
ตำแหน่งการยืนของเขา ปิดโอกาสหนีของลู่ฝานไว้ทั้งหมด จากนั้นเขาเดินไปหาลู่ฝานช้าๆ
นี่เป็นท่าทางกดดันอย่างหนึ่ง เอี๋ยนชิงจะลงมือสุดแรง ปล่อยพลานุภาพของยอดฝึมือปราณชีวิต ออกมาข่มขวัญ
นักบู๊แดนปราณนอก แดนปราณใน ใช้แรงเต็มที่ก็ทำได้แค่มีท่าทีข่มขวัญคน แต่เมื่อถึงแดนปราณชีวิต พลังปราณกระตุ้นฟ้าดิน พลานุภาพแปรเปลี่ยนเป็นวิธีมากมาย
อย่างเช่น เสียงฝีเท้าของเอี๋ยนชิงในตอนนี้ ถ้านักบู๊ที่สติปัญญาไม่แน่วแน่ ต่อสู้กับเขา ต้องโดนเสียงฝีเท้าของเขาทำลายจังหวะ อีกทั้งยังทำให้พลังปราณของอีกฝ่ายเคลื่อนไหวช้าลงด้วย
เอี๋ยนชิงมาถึงหน้าลู่ฝาน ด้วยท่าทียโสและเหยียดหยาม “จะถามอีกครั้ง ยอมหรือไม่ยอม!”
ลู่ฝานยืนขึ้นอีกครั้ง สูดหายใจลึก หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ยอมบ้านพ่อนายสิ!”
ลู่ฝานยกกระบี่ขึ้นมา ใช้กระบวนท่ากระบี่ที่ตัวเองใช้เป็น ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด
ตอนนี้ ลู่ฝานระเบิดศักยภาพตัวเองออกมา แสงกระบี่เหมือนดอกไม้เบ่งบาน เพียงพริบตา ลู่ฝานฟันกระบี่ลงไปเป็นร้อยครั้ง
ทุกกระบี่มีพลังระเบิด เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชี่ที่ปกคลุมตัวเอี๋ยนชิงโดนโจมตีจนสั่นไหว เอี๋ยนชิงแผดเสียงออกมา มือกลายเป็นกรงเล็บมังกร จับกระบี่หนักของลู่ฝานทันที
เมื่อจับกระบี่ เอี๋ยนชิงรู้สึกผิดปกติ พลังปราณบนตัวเขาโดนกระบี่ไม่คมขจัดออกไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาจับมัน เดิมทีจะหักอาวุธของลู่ฝาน แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อจับลงไป กระบี่หนักของลู่ฝานไม่เป็นอะไรเลย มือของเขากลับมีรอยเลือดปรากฏขึ้นมา
มีประกายฉายในแววตา พลังปราณบนตัวเอี๋ยนชิงกลายเป็นงูขนาดใหญ่ พันตัวลู่ฝานเอาไว้แน่น
“ไอ้เด็กน้อย ฉันจะดูสิว่านายถึกแค่ไหน!”
หมัดกระแทกลงบนหน้าลู่ฝาน ลู่ฝานกระอักเลือดออกมา เกราะโดนกระแทกจนยุบ
มือซ้ายของเอี๋ยนชิงกลายเป็นเงา ซัดหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ละหมัด ทำให้เกราะของลู่ฝานเปลี่ยนรูป เกราะที่สว่างไสวมีพลานุภาพดุดัน โดนกระแทกจนแสงริบหรี่ เสียหายเรื่อยๆ
ลู่ฝานฝืนไม่ให้ตัวเองสลบ ขยับแขนซ้ายเล็กน้อย พลังฟ้าดินรอบๆ ล้อมรอบเอี๋ยนชิง ขณะที่เอี๋ยนชิงไม่ทันได้สังเกต
เอี๋ยนชิงซัดหมัดไปกระแทกข้อมือขวาของลู่ฝาน
พลังหมัดกระแทกจนเกราะแตก กระดูกข้อมือของลู่ฝาน โดนกระแทกจนหัก กระบี่หนัก ร่วงลงไปในมือเอี๋ยนชิง
“กระบี่เล่มนี้ไม่เลว ไอ้เด็กน้อย กระบี่ของนาย ฉันเก็บไว้ละกัน”
เอี๋ยนชิงมองลู่ฝานอย่างเฉยเมย จับกระบี่หนักไว้ในมือ จากนั้นยัดเข้าไปในแหวนของเขา
ลู่ฝานมีเลือดหยดตรงมุมปาก หัวเราะแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย นายเอาไปไม่ได้หรอก”
พูดจบ มือซ้ายของลู่ฝาน วาดยันต์อันสุดท้าย
จู่ๆ เอี๋ยนชิงรู้สึกถึงพลังที่ทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวน จากด้านล่างเท้าของตัวเอง เขาก้มลงมอง
ทันใดนั้น เอี๋ยนชิงเห็นค่ายกลห้าธาตุขนาดใหญ่ ก่อตัวอยู่ด้านล่างเท้าของเขา ลำแสงหนึ่งพุ่งขึ้นมา
“อะไรกัน”
เอี๋ยนชิงพูดอย่างตกใจ
ลำแสงน่ากลัวของห้าธาตุ สาดส่องไปทั่วตำหนักจนขาวโพลน
อากาศเวิ้งว้างที่ลอยอยู่รอบๆ แตกเหมือนฟอง ลู่ฝานกระตุ้นพลังฟ้าดินรอบๆ นี่เป็นการต่อสู้ที่พังพินาศไปด้วยกัน เรียกว่า ค่ายกลทำลายห้าธาตุค่ายเล็ก
ภาพลวงตาของสัตว์ห้าธาตุมากมาย ปรากฏออกมา คำรามและวิ่งอยู่ในตำหนัก
ลู่ฝานใช้ปราณชี่สุดท้ายจนหมด มองแสงห้าธาตุพุ่งเข้ามา เตรียมจะกลืนกินเขาเข้าไป
เอี๋ยนชิงตกใจ ชี่ที่ปกคลุม กลายเป็นมังกรสีดำ ปกป้องพื้นที่บริเวณสิบเมตร รอบตัวเขา รวมไปถึงลู่ฝาน ไม่ได้โดนแสงห้าธาตุฆ่าในทันที
แสงทั้งหมด ชนกับพลังปราณของเอี๋ยนชิง
เอี๋ยนชิงกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้ตายเถอะ ทำไมพลังฟ้าดินที่นี่ ถึงรุนแรงเช่นนี้
ถ้าเป็นผู้ฝึกชี่ คงไม่กลัวเท่าไร ไม่มีอะไรมากไปกว่า ห้าธาตุปกป้องร่างกาย แค่ลบล้างค่ายกลก็จบแล้ว จากผลการฝึกตนของลู่ฝานในตอนนี้ แม้กระตุ้นเลือดสารจำเป็นของตัวเอง เสี่ยงชีวิต อย่างมากจัดการได้แค่อาจารย์บำเพ็ญชี่ขั้นพื้นฐาน หรือไม่ก็ขั้นกลาง จะจัดการอาจารย์บำเพ็ญชี่ที่เก่งกาจ ไม่มีความเป็นไปได้เลย
แต่ใช้จัดการนักบู๊แท้ๆ อย่างเอี๋ยนชิง พลานุภาพของกระบวนท่านี้ เพียงพอแล้ว แม้ฆ่าเอี๋ยนชิงไม่ตาย แต่ก็ทำให้เขาต้องจ่ายอย่างแสนสาหัส
เอี๋ยนชิงตะโกนเสียงดัง
“อยากฆ่าฉัน ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก หยินหยางแปรเปลี่ยนไท่จี๋ ทำลายมันซะ!”