เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 23
เรือนเก็บหนังสือของตระกูลลู่ ยังคงสว่างไสว
ลู่เฮ่าหรานพาลู่ฝานมาที่เรือนเก็บหนังสืออย่างรวดเร็ว ผลักประตูบานใหญ่ ลู่เฮ่าหรานพูดเสียงดังว่า “ลุงสวิน รีบเอาวิชากายทองไฟอาบออกมาเร็วๆ”
ท่านสวินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างประตู ได้ยินเสียงเรียกของลู่เฮ่าหราน จึงปิดหนังสือลงช้าๆ
“น่ารำคาญ อายุปูนนี้แล้ว ยังไม่รู้จักใจเย็น คนอายุน้อยคนไหน มีคุณสมบัติฝึกกายทองไฟอาบ ขอฉันดูหน่อย”
ท่านสวินเงยหน้ามองข้างหน้า ลู่ฝานปรากฏอยู่ในสายตาเขา ท่านสวินตกใจเล็กน้อย
“ลู่ฝาน! นายเพิ่งฝึกทักษะบู๊ได้ไม่นานไม่ใช่เหรอ ทำไมผ่านไปแค่ปีเดียว นายถึงมีคุณสมบัติฝึกกายทองไฟอาบล่ะ”
ท่านสวินสีหน้าตกใจ มองลู่เฮ่าหรานด้วยแววตาที่เหมือนกำลังพูดว่า คุณไม่ต้องมาล้อฉันเล่น
ลู่เฮ่าหรานจิตใจสงบนิ่ง ยังคงยิ้ม แล้วพูดว่า “ลุงสวิน ลู่ฝานเพิ่งเป็นแดนฝึกร่างชั้นสามได้เมื่อเดือนก่อนจริงๆ แต่หนึ่งเดือนนี้ เขาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ยกระดับได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาแดนฝึกร่างชั้นหก แล้ว”
ท่านสวินขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “จริงเหรอ ก้าวหน้ารวดเร็วเหลือเชื่อ แต่แค่แดนฝึกร่างชั้นหก ยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอให้ฝึกกายทองไฟอาบ!”
ลู่เฮ่าหรานหัวเราะแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน แสดงให้ท่านสวินดูหน่อย ให้เขาเห็นว่าตระกูลลู่ มีผู้มีความสามารถแบบไหน”
แววตาลู่ฝานวูบไหว ตอนนี้เขาไม่แน่ใจจริงๆ ว่าจะต่อยหมัดไฟออกมาได้หรือเปล่า
เพราะกระแสลมที่ไหลเวียนในร่างกายเขา หมดไปแล้ว และเปลวไฟของตัวเอง เหมือนหมุนเวียนมาจากกระแสลมนี้
แต่ลู่เฮ่าหรานพูดขนาดนี้แล้ว ลู่ฝานจึงไม่มีทางหนีทีไล่แล้ว
ลู่ฝานตอบรับเบาๆ เดินออกไปนอกประตู ยืนอยู่หน้าหินสีดำ
ท่านสวินยืนอยู่หน้าประตู กับลู่เฮ่าหราน ด้วยความแปลกใจ รอลู่ฝานลงมือเงียบๆ
ลู่ฝานหลับตารอครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
ท่านสวินเห็นลู่ฝาน ยังไม่ลงมือ จึงหัวเราะแล้วพูดว่า “เขาคงไม่ได้จะยืนตรงนี้ทั้งคืนใช่ไหม ยืนนิ่งๆ ไม่ได้บอกว่าจะฝึกกายทองไฟอาบได้นะ”
ลู่เฮ่าหรานปรายตามองท่านสวิน แล้วพูดว่า “ลุงสวิน คุณดูเอาเถอะ ไม่ทำให้คุณผิดหวังหรอก”
ผ่านไปนาน ในที่สุดลู่ฝาน สัมผัสได้ถึงกระแสลมในตัวเล็กน้อย
ปล่อยหมัดออกมาทันที จนทำให้เกิดเสียงลม ลู่ฝานใช้แรงทั้งหมดในตัว ต่อยลงไปบนหินศิลาดำ
แสงสว่างขึ้นมา คำว่าแดนฝึกร่างชั้นหก ไม่สามารถดึงดูดสายตาท่านสวินได้ สายตาของท่านสวินจ้องไปที่หมัดของลู่ฝาน วินาทีต่อมา ลู่ฝานรู้สึกว่ากระแสลมในตัวไหลออกมา หมัดของเขามีเปลวไฟขึ้นมาทันที
ท่านสวินมองภาพตรงหน้าอย่างตะลึง เปลวไฟที่ลุกโชนบนหมัดของลู่ฝาน เหมือนจุดไฟในใจของเขา
เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ท่านสวินจับหมัดลู่ฝานเอาไว้ ไฟเผาฝ่ามือท่านสวิน แต่ท่านสวินไม่มีปฏิกิริยาใด
“เปลวไฟสวรรค์ประทาน เป็นเปลวไฟสวรรค์ประทานจริงๆ สวรรค์มีตา มอบผู้มีความสามารถที่หาได้ยากมาให้ตระกูลลู่!”
ท่านสวินดีใจมาก จับมือลู่ฝานไม่ปล่อย
ลู่เฮ่าหรานก็เดินมาข้างหน้า แล้วพูดว่า “ลุงสวิน รีบเอาวิชากายทองไฟอาบออกมา ผมอยากเห็นลู่ฝานฝึกกายทองไฟอาบ จนถึงขั้นสมบูรณ์เร็วๆ แล้ว”
ท่านสวินไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเอาสมุดเล่มหนึ่ง ออกมาจากในอก วางไว้ในมือลู่ฝาน
ลู่ฝานมองอย่างจริงจัง เป็นหนังสือที่ดูเก่า ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี หน้าปกมีตัวหนังสือใหญ่เขียนว่ากายทองไฟอาบ ทำให้ใจเขาเต้นอย่างรุนแรง
“ลู่ฝาน นี่เป็นกายทองไฟอาบ ทักษะวิชาบู๊ระดับทิพย์ของตระกูลลู่ของเรา นายเอาสมุดไปไม่ได้ แต่นายมีเวลาท่องมันหนึ่งคืน ถ้าต่อไปมีอะไรสงสัย สามารถมาถามฉันได้ทุกเมื่อ”
ท่านสวินตาเป็นประกาย เห็นรอยยิ้มมุมปากได้ชัดเจน
เดิมทีลู่เฮ่าหรานจะพูดประโยคนี้ แต่ในเมื่อท่านสวินพูดก่อนแล้ว ลู่เฮ่าหรานจึงไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำอีก เพราะผลการฝึกตนของท่านสวิน เหนือกว่าเขาจริงๆ ถ้าลู่ฝานได้ฝึกกับท่านสวิน นับว่าเป็นโชคดี
ลู่ฝานคำนับแล้วตอบรับ รีบนั่งลงท่องทันที
หนังสือไม่หนา เวลาหนึ่งคืนน่าจะเพียงพอ ลู่ฝานรวบรวมสมาธิท่อง ลู่เฮ่าหรานกับท่านสวินเดินกลับไปที่เรือนเก็บหนังสือ
ท่านสวินเอาไหเหล้าหนึ่งไหกับถ้วยเล็กสองใบ ออกมาจากเรือนเก็บหนังสืออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เทเหล้าจนเต็มท่ามกลางเสียงหัวเราะของลู่เฮ่าหราน
ผู้อาวุโสทั้งสองคน ดื่มเหล้าฉลองกันในห้อง ส่วนลู่ฝานท่องหนังสือเงียบๆ อยู่ด้านนอก
ค่ำคืนผ่านไปอย่างสงบสุข
……
เช้าวันต่อมา ลู่ฝานมาในร้านหวูเฉิน อย่างกระปรี้กระเปร่า ท่องหนังสือเมื่อคืน ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้ลู่ฝานรู้สึกอ่อนเพลีย กลับทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“อาจารย์ ผมมาแล้ว”
หวูเฉินยิ้ม มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “รวมของได้หมดแล้วเหรอ”
ลู่ฝานเขย่าแหวนบนมือไปมา พูดเสียงก้องว่า “รวมได้หมดแล้ว ไม่มีปัญหาสักนิด เดิมทีไม่พอ แต่เมื่อคืนผมทำได้ดี ไม่เพียงแต่จะได้วิชาชั้นเลิศที่สืบทอดกันมาของตระกูล แถมยังได้เงินมาไม่น้อยอีกด้วย”
หวูเฉินหัวเราะ แล้วพูดว่า “เงินเยอะงั้นเหรอ พอซื้อสมุนไพรพวกนี้ได้กี่ครั้ง ต่อไปนายยังต้องซื้อสมุนไพรอีกเยอะนะ”
ลู่ฝานอึ้งไป แล้วพูดว่า “ยังต้องซื้อเหรอ”
หวูเฉินพูดว่า “ใช่ ไม่มีสมุนไพร นายจะเอาอะไรกลั่นยา ไม่กลั่นยา นายจะเป็นผู้ฝึกชี่ได้อย่างไร สมุนไพรพวกนี้เป็นแค่ล็อตแรกเท่านั้น”