เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 338
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 338
ลู่ฝานถามถึงตำแหน่งโดยรวมของตลาดหม้อยาจากนั้นจำชื่อเขาอวี่ฮั่วที่นอกเมืองหยุนไห่เอาไว้
หลิงเหยาอยู่ในคณะหนึ่งเดียวประมาณ 2-3 ชั่วยาม หลังจากทานอาหารฝีมือเจ้าดำกับพวกหานเฟิงและคนอื่น ก็กลับไป
ก่อนจะไป หลิงเหยายังดูห้องของลู่ฝานด้วย
เมื่อเห็นห้องที่สะอาด สว่างและกว้างขวางของลู่ฝาน หลิงเหยาดีใจจนผิดปกติ
ตอนแรกลู่ฝานไม่รู้ว่าทำไมหลิงเหยาดีใจขนาดนี้ ต่อมาศิษย์พี่ฉู่เทียนบอกเขาว่า “ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่าดูห้องของผู้ชาย สามารถเห็นนิสัยใจคอของเขาได้ เห็นได้ชัดว่า เธอคิดว่านิสัยของนายเหมือนกับห้องของนาย ไม่มีฝุ่นสักนิด ดังนั้นเธอจึงดีใจขนาดนี้”
ลู่ฝานได้ยินจึงเข้าใจทันที
แต่นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของเขา แค่ห้องของเขาสร้างจากต้นปรงเหล็ก เดิมทีต้นปรงเหล็กไม่กลัวฝุ่น อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษไล่ยุงด้วย
เมื่อฟังจบ ศิษย์พี่หานเฟิงกลับไปจัดห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เพื่อที่จะสร้างความประทับใจให้ศิษย์น้องผู้หญิง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ศิษย์พี่หานเฟิงตัดสินใจจัดห้องทุกวัน อีกทั้งยังถือโอกาสขโมยไม้ออกมาจากห้องลู่ฝานด้วย
การกระทำของเขา อยู่ในสายตาของลู่ฝานและคนอื่น
ศิษย์พี่ฉู่สิงหัวเราะเบาๆ “นี่เรียกเตรียมการไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ”
ลู่ฝานพูดว่า “แปลกจริงๆ ศิษย์พี่หาเฟิงไม่รู้สึกเหรอว่า ก่อนที่จะเตรียมการล่วงหน้า ต้องมีศิษย์น้องผู้หญิงที่เป็นคนรักก่อน แล้วศิษย์น้องจะยอมมาหาเขาไหม”
ทุกคนหัวเราะออกมา อาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวงหัวเราะอย่างมีความสุข
ค่ำคืนผ่านไปอย่างเงียบสงบ
เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ลู่ฝานออกมาจากจวนอากาศธาตุ ในมือมียาสองขวดที่เพิ่งออกจากเตา เขาเทใส่ปากเหมือนกินลูกอม
ตอนนี้ลู่ฝานไม่จำเป็นต้องใช้การนอนมาฟื้นฟูสติแล้ว
โดยทั่วไป แค่ปราณชี่เคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายเขา สติของเขาก็ยังเต็มเปี่ยม
ยิ่งฝึกฝนไปเรื่อยๆ เรื่องเล็กๆ อย่างกินข้าว นอน เข้าห้องน้ำ ก็หายไปด้วย
อันที่จริงตอนนี้ลู่ฝานสามารถกินยาเพื่อทำให้อิ่มท้อง แต่ความอยากอาหารกับความต้องการด้านความรักของหญิงชาย ล้วนเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณของมนุษย์
ขอแค่มีของกิน เขาก็กินวันละสามมื้อต่อไป
ส่วนเรื่องไม่กินธัญพืชทั้งห้า เขาไม่เคยคิดเลย และไม่คิดจะทำด้วย
วันนี้ลู่ฝานจะเดินทางไปคณะฟ้าร้อง
เขากับหลัวตานนัดกันไว้ว่าจะสู้กันที่ผาเหลยถิง ลู่ฝานยังไม่ค่อยรู้ตำแหน่งของผาเหลยถิง ดังนั้นจึงออกไปหาล่วงหน้าก่อน เพื่อที่จะไม่ทำให้เสียเวลา
เมื่อทานข้าวเช้าเสร็จ ลู่ฝานออกมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่น
สำหรับพวกหานเฟิงและคนอื่น การต่อสู้ของลู่ฝานและหลัวตาน ไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล ถึงหลัวตานแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเทียบกับลู่ฝานได้
ล้วนคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ลู่ฝานต้องชนะ รวมอาจารย์อี้ชิงอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดจะไป
อาจารย์อี้ชิงให้ลู่ฝานออกไป โดยไม่กำชับสักประโยค
ลู่ฝานก็ไม่คิดอะไรมาก ไปตามทางที่ศิษย์พี่หานเฟิงบอก มุ่งหน้าไปยังคณะฟ้าร้อง
หลังจากลู่ฝานไป อาจารย์อี้ชิงคิดอะไรได้ จึงถามว่า “หานเฟิง หลัวตานคณะฟ้าร้องนัดลู่ฝานไปสู้ที่ไหน”
หานเฟิงกินพลาง พูดแบบไม่ชัดว่า “ผาเหลยถิง อาจารย์รู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“อ๋อ ผาเหลยถิงเหรอ”
อาจารย์อี้ชิงขมวดคิ้วเบาๆ เขารู้สึกผิดปกติ