เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 352
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 352
“ต่อให้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ฉัน แต่ก็ไม่ควร….ทำแบบนั้นนะ”
เสี่ยวเหวินโมโหไม่พอใจ พอนึกถึงมือของลู่ฝานมาวางบนตัวเธอ เธอก็รู้สึกว่าใบหน้าเหมือนมีไฟลุก
หวังหว่านนึกถึงตอนที่เพิ่งเข้าไปแล้วเห็นเสี่ยวเหวินเสื้อผ้าหลุดลุ่ย คาดว่าลู่ฝานจะถอดเสื้อผ้าให้เธอตอนทำการรักษา
นักฝึกบู๊รักษาอาการบาดเจ็บ จะถอดเสื้อผ้าเพื่อรักษา สามารถเห็นได้ทั่วไป
หวังหว่านมองเสี่ยวเหวินแล้วพูดว่า “เสี่ยวเหวิน เรื่องนี้ห้ามพูดกับใครเด็ดขาด ในเมื่อเขารักษาอาการบาดเจ็บให้เธอแล้ว ยังทำให้วิทยายุทธของเธอเพิ่มขึ้นมากด้วย และไม่ได้ชิงความบริสุทธิ์ของเธอไปด้วย เรื่องนี้ก็พักเอาไว้ก่อน ถ้าเธอโมโหจนทนไม่ไหวล่ะก็ เดี๋ยวศิษย์พี่ไปหาคนช่วยเธอจัดการเขาให้”
เสี่ยวเหวินบ่นพึมพำว่า “ศิษย์พี่ เกรงว่าทั้งคณะฟ้าร้องคงจะไม่มีใครจัดการเขาได้นะ”
หวังหว่านก็พูดไม่ออก
สองคนก็นิ่งไป เสี่ยวเหวินพูดว่า “ศิษย์พี่ ฉันขอกลับไปนอนก่อนแล้วกัน อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ”
หวังหว่านตอบว่า “วางใจเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยจัดการให้ อ่อแล้วก็ เสี่ยวเหวิน เธอได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”
เสี่ยวเหวินตอบว่า “คือว่าฉัน…….”
คำพูดตอนท้าย เสี่ยวเหวินก็คิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เพราะว่าเธอบอกศิษย์พี่หวังหว่านไปว่าตนเองแอบเข้าไปในห้องของลู่ฝาน ศิษย์พี่จะต้องด่าเธอแน่นอน
เสี่ยวเหวินส่ายหัว ไม่อยากพูดอะไรมาก แล้วก็หันหลังกลับไป
หวังหว่านมองดูเสี่ยวเหวินทางด้านหลัง แล้วก็ส่ายหัวยิ้มเบาๆ
หวังหว่านหันตัวเดินกลับไป จนมาถึงตรงหน้าห้องของลู่ฝานอีกครั้ง
พวกคนรับใช้ฟังคำสั่งของเธอ ยังคงคอยเฝ้าอยู่หน้าประตู
หวังหว่านโบกมือพูดว่า “พวกนายออกไปเถอะ เรื่องในวันนี้ ถ้าแพร่ออกไป ฉันรับรองเลยว่าพวกนายทุกคนจะต้องได้ออกไปจากสถาบันสอนวิชาบู๊แน่นอน”
คนรับใช้ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยน รีบรับปากแล้วรีบเดินออกไป
หวังหว่านเคาะประตูห้องของลู่ฝาน แต่ไม่ได้เปิดเข้าไป
ยืนอยู่หน้าประตู พูดเบาๆ ว่า “ลู่ฝาน นายเป็นคนช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเสี่ยวเหวินใช่ไหม?”
ทางด้านใน ลู่ฝานก็ค่อยๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น “ศิษย์พี่หวัง พี่รู้แล้วงั้นหรือ? ผมไม่ได้โกหกพี่ ผมช่วยรักษาให้จริงๆ”
“รักษาให้อย่างเดียวงั้นก็ดี ขอถามอีกหน่อย เลือดบนเตียงมันนั้นคืออะไร?”
ลู่ฝานถามอย่างนิ่งๆ ว่า “คือเลือดคั่ง ถ้าศิษย์พี่หวังไม่เชื่อ ก็เข้ามาดูได้ เลือดคั่งกับเลือดสด มันไม่เหมือนกัน”
ศิษย์พี่หวังพยักหน้าเบาๆ ที่นอกประตู นิ่งไปครู่หนึ่ง ก็พูดว่า “อย่างนั้นก็ยังไม่ต้องคุยกันเรื่องนี้ วันพรุ่งนี้นายต้องประลองกับศิษย์พี่หลัวตาน รีบพักผ่อนเถอะ”
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เชื่อกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรือไง? แต่ว่าเชื่อเขาได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
เสียงที่หน้าประตูค่อยหายไป หวังหว่านกลับออกไปแล้ว
ลู่ฝานหายใจออกมายาวๆ แล้วก็หลับตากลับไปอีกครั้ง
……
เช้าวันต่อมา ที่ผาเหลยถิง บนเขาด้านหลังของคณะฟ้าร้อง
ในหมู่เมฆหมอก บนยอดหน้าผา
ภายใต้การนำของอาจารย์ฮั่วซาน ลู่ฝานค่อยๆ เดินไปทางผาเหลยถิง
ด้านหลัง เสี่ยวเหวินกับหวังหว่านก็อยู่ในกลุ่มคนที่ขึ้นมา ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะลืมเรื่องเมื่อคืนไปหมดแล้ว สีหน้าเป็นปกติ มองดูผาเหลยถิงที่ไกลออกไป
มองไกลออกไป ผาเหลยถิงก็เหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาใส่หน้าผาจนแยกออก มีลวดลายที่สายฟ้าฟาดลงมาชัดเจนตรงส่วนที่ถูกตัดออกไป รอบๆ มีเมฆหมอกหนาแน่น บางครั้งก็จะมีสายฟ้าฟาดลงมาใส่หน้าผาอยู่บ่อยๆ ถือว่าเป็นทัศนียภาพที่แปลกเหมือนกัน
แต่ว่าสีสันของสายฟ้ามันแปลกไปมาก มันเป็นสีดำสนิท ดูแล้วน่ากลัว
สะพานเหล็กเฟยเถียนเชื่อมต่อกับผาเหลยถิง มีแสงสายฟ้าสาดไปมาบนสะพานเหล็ก
อาจารย์ฮั่วซานชี้ไปยังสะพานเหล็ก
“ถึงสะพานผ่านทัณฑ์แล้ว ลู่ฝาน หลัวตานกำลังรอนายอยู่บนผาเหลยถิง นายเข้าไปเองได้เลย”