เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 370
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 370
ส่งลู่หมิงไปแล้ว หลายวันต่อมา ลู่ฝานก็ปิดประตูบ้านแล้ว เข้าสู่สภาวะของการฝึกฝนแบบปิดแล้ว
อาจจะช่วงนี้ต่อสู้อยู่บ่อยครั้งเกินไป ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองมีสัญญาณของการทะลวงอย่างคลุมเครืออีกแล้ว ดังนั้น เขาก็ฝึกหม้อยาอย่างตั้งใจแล้ว เอามากินเป็นอาหารอยู่สองวันเลย
นั่งบนเตียง วิธีการทำสมาธิระดับชั้นสูง พละกำลังแห่งฟ้าดินปกคลุมรอบตัวเขาอย่างกับน้ำเลยยังไงอย่างนั้น
ก้าวสุดท้ายที่สำคัญ ก็ขาดแค่ก้าวสุดท้ายที่สำคัญนั่นแล้ว
ลู่ฝานค่อยๆหมุนโคจรพละกำลังของตัวเองอย่างสงบนิ่ง ในขณะเดียวกัน กระบี่หนักไร้คมวางอยู่ตรงหน้า พลังอันบริสุทธิ์ถูกถ่ายโอนจากกระบี่หนักไร้คมเข้าสู่ร่างกายของลู่ฝานอย่างต่อเนื่อง
รู้สึกได้ว่าพละกำลังภายในร่างกายกำลังที่จะถึงจุดที่อิ่มตัว ลู่ฝานเปล่งเสียงพูดออกมาอย่างสงบนิ่งว่า : “ไอ้เก้า เริ่มเถอะ”
เสียงของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังอยู่ในร่างกายของเขา นำพามาซึ่งความลังเล
“เจ้านาย จะเอาแบบนี้จริงๆเหรอ ทำแบบนี้มันอันตรายมากนะ แม้ว่าพละกำลังจะเพียงพอ แต่ว่าพรวดพราดแบบนี้ จะเกิดปัญหาได้ง่ายมากนะ ฉันก็ไม่กล้ารับรอง ว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นเลยสักนิดได้หรือไม่”
ลู่ฝานพูดอย่างแน่วแน่ว่า :”มาสิ โอกาสมีแต่แค่ครั้งเดียว พุ่งสู่ชั้นห้าของปราณนอกในคราวเดียว”
สูดลมหายใจเข้าอย่างลึกๆแล้ว ลู่ฝานเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็ทำได้เพียงปลดปล่อยพลังอันบริสุทธิ์ที่นับไม่ถ้วนออกมาไหลเวียนที่ภายในร่างกายของลู่ฝาน
และในขณะเดียวกัน ได้โอนย้ายพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ ปั่นป่วนออกมาจากท่ามกลางของกระบี่หนักไร้คมทันที
พละกำลังเหล่านี้ ก็เป็นการได้รับจากกระบี่หนักไร้คมย่อยสลายหุ่นร้ายความฝัน แม้ว่าพละกำลังนี้ถูกกระบี่หนักไร้คมกลืนกินเองเจ็ดส่วนแล้ว แต่ว่าพละกำลังสามส่วนที่เหลือนี้ ลู่ฝานก็อยากจะดูดซับโดยสิ้นเชิง และก็จะต้องเสี่ยงอันตรายด้วย นี่ก็เป็นเพราะว่าเขาเชื่อเจดีย์เสวียนเก้ามังกร ถ้าหากไม่มีพลังการรักษาของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร เกรงว่าลู่ฝานคงกล้าดูดซับหนึ่งส่วนกว่าเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ลู่ฝานไม่ได้ใช้มาตลอดเลย ก็รอแค่ตอนนี้ นำมันมาใช้พุ่งเข้าชั้นห้าของปราณนอกเลย
ช่วงเวลาที่เส้นลมปราณของลู่ฝานกำลังได้รับพลังโจมตี เส้นลมปราณภายในร่างกายก็ปรากฏรอยร้าว
พลังที่บ้าคลั่ง ทำลายล้างภายในร่างกายของเขา โจมตีโดยรอบทั้งหมด รวมถึงอวัยวะภายในก็ได้รับความเสียหายในทันที
เลือดไหลทะลักถึงคอแล้ว ลู่ฝานฝืนกลืนมันลงกลับไปแล้ว
สิ่งที่ต้องการในเวลานี้คือเพียงครั้งเดียวก็สำเร็จโดยไม่ต้องหยุดพัก เขาไม่มีทางยอมแพ้
ปราณชี่ภายในร่างกายที่อยู่การควบคุมของลู่ฝานเริ่มมีการโต้กลับแล้ว พละกำลังของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรเริ่มซ่อมแซมส่วนที่ภายในร่างกายของลู่ฝานได้รับความเสียหายอย่างสุดชีวิต
พละกำลังที่บุกเข้าสู่ร่างกายโดยไม่เชื่อฟังเหล่านี้ ก็เหมือนกับตั๊กแตนที่ข้ามเขต แต่ละแห่งที่ข้ามผ่าน ก็เป็นความวุ่นวายเละเทะตุ้มเป๊ะ
ลู่ฝานพยายามปราบปรามไว้อย่างสุดความสามารถ ปราบปรามไว้อีก
บางครั้งสิ่งที่ต้องต่อสู้กับการฝึกฝนก็คือจิตใจ ใครแบกรับไว้ไม่ไหว คนนั้นก็ล้มลงก่อน
เห็นได้ชัดว่า พละกำลังที่ไร้สติเหล่านี้ ไม่ว่ายังไงก็สู้ลู่ฝานไม่ได้ หลังจากที่พวกมันปั่นป่วนคลื่นหนึ่งถึงสองระลอกแล้ว ก็สงบลงแล้ว
ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดได้ผ่านไปแล้ว หลังจากนั้นลู่ฝานก็เริ่มดูดซับพลังงานเหล่านี้เข้าไปในปราณชี่ของตัวเอง
หากไม่ทลายอันเก่าก็ไม่สามารถสร้างอันใหม่ได้ เส้นลมปราณ กระดูก อวัยวะภายในที่ได้รับความเสียหายเหล่านั้น
ดูดซับพละกำลังไปพลาง เริ่มซ่อมแซมไปพลาง
ทันใดนั้น ตอนที่ดูดซับพละกำลังไปจนถึงจุดวิกฤติ แดนวิทยายุทธก็เริ่มทะลวง
เส้นลมปราณขยายกว้าง ตันเถียนขยายตัว ร่างกายแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
การทะลวงของลู่ฝานในครั้งนี้แม้ว่ามันจะอันตราย แต่ว่าประโยชน์ก็มีมากมายมหาศาล
ความรู้สึกชา พุ่งออกมาจากภายในร่างกาย ความสดชื่นสบายๆแบบนั้น ยากที่จะบรรยาย
สสารมืดพุ่งออกมาจากผิวหลังของเขาทีละชั้นๆ พร้อมทั้งเลือดเสีย สารตกค้าง ขจัดออกมานอกร่างกายพร้อมกันเลย