เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 374
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 374
ใช้เวลาไป 2 วันเต็มๆ ลู่ฝานและคนอื่นๆถึงจะกลับมาถึงคณะหนึ่งเดียว
แม้แต่ออกมาจากจวนลอยฟ้าเท่านั้น ก็ใช้เวลาไป 1 วัน ลู่ฝานต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ศิษย์พี่ใหญ่หลอกลวงคนอย่างเต็มที่เลยจริงๆ
สถานที่บ้าๆนี่ คิดไม่ถึงว่าทางออกซ่อนความลับขนาดนี้ สุดท้ายก็กระโดดออกมากลางฟ้า แม้ว่าความสูงไม่สามารถฆ่าคนตายได้ แต่เนื่องจากต้องการทะลวงค่ายกลของจวน ดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวเชียว
อย่างน้อยขณะที่หานเฟิงกำลังทะลวงค่ายกล ก็ตกใจร้องห่มร้องไห้เหมือนผีสาง เพราะเมื่อมองเข้าไปข้างนอกในค่ายกล ก็สูงตระหง่านเชียวล่ะ!
ท่ามกลางสายตาผู้คนและที่ดูหมิ่น ศิษย์พี่ใหญ่ทำได้เพียงหัวเราะเหอะๆ
กลับมาถึงคณะหนึ่งเดียว ผู้คนก็พักผ่อนกันหนึ่งคืน วันต่อมา ศิษย์พี่หานเฟิงก็นำจดหมายท้าประลองที่เขียนเสร็จแล้ว เอาไปให้คณะบังเหินและคณะกระบี่
ด้วยคารมคมคายในการด่าคนอย่างรุนแรงของศิษย์พี่หานเฟิง ให้เขาทำหนังสือท้าประลองอีกฝ่าย ซึ่งเป็นการดีที่สุด
สิ่งเดียวที่กังวลก็คือ ศิษย์พี่หานเฟิงด่าแรงเกินไป ถ้าหากถูกคนทุบตีตายที่หน้าคณะก็ไม่ดีแล้ว
ดังนั้น ก่อนเดินทาง ศิษย์พี่ฉู่สิงถามศิษย์พี่หานเฟิงโดยเฉพาะไม่กี่คำ
“เงินส่วนตัวของนายซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว?”
……
หนึ่งวันต่อมา ทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊ก็ดุเดือด
คณะหนึ่งเดียวท้าประลองคณะบังเหิน และคณะกระบี่ สองคณะใหญ่!
ด้วยพลังของคณะเดียว ท้าประลองสองคณะ มันเป็นเรื่องราวที่แปลกและมหัศจรรย์ ตั้งแต่โบราณมา!
เหล่านักเรียนของสองคณะใหญ่ คณะบังเหิน คณะกระบี่ กำลังจะโกรธจนระเบิดแล้ว
“เหยียดหยาม นี่คือการเหยียดหยามอย่างโจ่งแจ้ง!”
เหล่านักเรียนกลุ่มหนึ่งของคณะบังเหินแทบจะตะโกนไปตามถนนสายหลักและตรอกเล็กซอยน้อย
นักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งของคณะกระบี่ ก็ได้เตรียมตั้งทีมท้าทายคณะหนึ่งเดียวแล้ว
ดูถูกคณะกระบี่ของพวกเขาขนาดนี้ พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับคณะหนึ่งเดียว
โดยเฉพาะไอ้เวรนั่นหานเฟิงแห่งคณะหนึ่งเดียว ขณะที่เขามานัดต่อสู้ ใบหน้าที่หยิ่งผยองนั่น ที่เหลือก็แค่อึหน้าประตูคณะกระบี่เท่านั้นแหละ
อาจารย์ของสองคณะใหญ่ว่ากันว่า ต่างก็ปิดประตูห้องด่าทั้งคืน
แม้แต่อาจารย์เสวียนเจินแห่งคณะกระบี่ที่นิสัยดีมาตลอด ก็โมโหทุบของไปไม่น้อย ของมีค่าเสียหายมากมาย
เหล่านักเรียนจากคณะอื่นๆ ก็มาดูเรื่องตลกกันอย่างสนุกสนาน
“ได้ข่าวบ้างไหม คณะหนึ่งเดียวท้าทายคณะใหญ่สองคณะ อย่างคณะบังเหินกับคณะกระบี่อย่างกำเริบเสิบสาน”
“ฮ่า ๆ ได้ข่าวอยู่แล้วล่ะ มีดราม่าให้ดูแล้ว ว่ากันว่าเหล่านักเรียนคณะบังเหินกับคณะกระบี่ต่างก็โกรธจนระเบิดไปแล้ว ประกาศศักดาว่าจะทำลายคณะหนึ่งเดียว”
“ทำลายคณะหนึ่งเดียวเหรอ? งั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เหมือนกับว่าคณะหนึ่งเดียวไม่มีอาจารย์ คนเขาที่นั่นมีอาจารย์สองคนเชียวนะ อย่างมากที่สุดก็คือสั่งสอนคนของคณะหนึ่งเดียวบนสังเวียนอย่างโหดเหี้ยม
“ฉันมองว่าไม่แน่นอน ใครสั่งสอนใครยังไม่รู้อีก คณะหนึ่งเดียวลู่ฝานกระบี่โหดเหี้ยมฆ่าอนงค์ ท้าประลองเดี่ยวกับยอดฝีมือของคณะฟ้าร้อง มีเขาอยู่ ก็เทียบได้กับคณะหนึ่งคณะ ศิษย์พี่ของพวกเขาสองสามคนว่ากันว่าความสามารถไม่เลวเลย การต่อสู้ครั้งนี้ จะต้องตั้งใจชมให้ดีๆ”
“อืม ที่นายวิเคราะห์ก็มีเหตุผลนะ เมื่อเป็นเช่นนี้ คณะหนึ่งเดียวเคล็ดลับนี้โหดเหี้ยมจริงๆ หากชนะ ก็จะเหยียบย่ำคณะกระบี่และคณะบังเหินอยู่ใต้เท้าโดยสมบูรณ์ ถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร เดิมทีด้วยหนึ่งต่อสอง หากแพ้ก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ฉลาดนะ! สถานที่ตั้งและเวลาประลองฝีมือล่ะ? ใครจะรู้?”
“ว่ากันว่าหลังจากนี้สองวัน คณะหนึ่งเดียววางเข็มทิศหินไว้ที่เชิงเขาอวิ๋นซาน เหยียบไปก็จะไปถึงที่แล้ว”
“งั้นก็ดี ถึงเวลาพวกเราก็ไป”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ฮ่า ๆ”
……