เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 400
ลู่ฝานมองแวบหนึ่ง ก็รู้ว่าเจ้าดำจะทำอะไร
“แกจะให้ฉันช่วยกลั่นยาให้เหรอ”
เจ้าดำพยักหน้าเหมือนลูกไก่จิกข้าวเปลือก ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วรับสมุนไพรมา จากนั้นเอาสมุนไพรประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์กลั่นเป็นยาเม็ดต่อหน้าเจ้าดำ ส่วนที่เหลือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ อืม กลั่นยาก็ต้องคิดเงินเหมือนกัน
วันต่อมาที่หน้าประตูคณะ นักเรียนที่อยากเข้าคณะหนึ่งเดียวดูบางตาลง
หานเฟิงวิ่งออกมาดู จู่ๆ ก็หัวเราะอย่างเบิกบานใจ
“ฮ่าๆๆ เจ้าดำเก่งมากจริงๆ โดนแกซัดจนหนีไปหมดแล้ว ฮ่าๆ คณะหนึ่งเดียวของเราไม่ได้เข้าง่าย”
เจ้าดำใช้กรงเล็บดันหานเฟิงออกไป ไม่ให้ขวางมันเก็บสมุนไพร
นักเรียนที่เหลือ อย่างน้อยมีผลการฝึกตนแดนปราณในชั้น 7-8 อีกทั้งผ่านการต่อสู้มาหนึ่งวัน พวกเขาเห็นผลการฝึกตนของเจ้าดำ เทียบได้กับนักบู๊แดนปราณนอกเลยล่ะ
ดังนั้นพวกเขาต้องใช้แรงภายนอกเล็กหน่อย ถึงจะมีโอกาสชนะ
อาวุธชั้นดี เกราะชั้นดี รวมไปถึงยาเม็ดเพิ่มพละกำลัง ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น
พวกเขาต้องเตรียมพร้อมทุกอย่าง ถึงกล้ามาท้าสู้กับเจ้าดำ ไม่สิ ควรเรียกว่ามังกรเปลวไฟดำ
เวลาหนึ่งวัน ทำให้เจ้าดำมีฉายาเป็นของตัวเอง
ตอนนี้มันก็มีชื่อเสียงในสถาบันสอนวิชาบู๊แล้วด้วย นักเรียนที่โดนซัดจนบาดเจ็บสาหัสกลับไป เมื่อพูดถึงมังกรเปลวไฟดำ มีใครบ้างที่ไม่มีสีหน้าตื่นตกใจ
เมื่อเห็นว่าไม่ต้องคืนเหรียญทองที่ได้มา หานเฟิงก็สบายใจ ไม่ต้องหลบอยู่แต่ในห้องอีกแล้ว
ดูสิ ไม่ใช่ว่าฉันไม่คืนเหรียญทอง แต่พวกนายผ่านด่านแรกไม่ได้ต่างหาก โทษฉันไม่ได้
ศิษย์พี่ฉู่สิงสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว เขานั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู ดูเจ้าดำซัดคนไปด้วย ช่างสบายใจจริงๆ
ในบรรดาทั้งสามคน ลู่ฝานบาดเจ็บน้อยที่สุด จึงไม่มีปัญหาอะไร หานเฟิงอาศัยพลังสายเลือด พลังการฟื้นฟูแข็งแกร่งมาก ไม่กี่วันก็หายดี มีเพียงฉู่สิงที่เสียพลังไปมาก ถึงกินยาไปแล้ว ก็ต้องพักผ่อนสิบวันขึ้นไป
ดูเหมือนการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับคณะหยินหยาง ฉู่สิงคงไม่สามารถเข้าร่วมได้แล้ว แต่ไม่ต้องกังวล ศิษย์พี่ใหญ่จะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งสุดท้ายด้วย
มีศิษย์พี่ใหญ่กับลู่ฝานอยู่ เอาชนะคณะหยินหยาง ไม่ใช่ปัญหา
ฉู่สิงมั่นใจมาก เหมือนเขาเห็นภาพที่เอี๋ยนชิงโดนซัดจนเละแล้ว
ลู่ฝานยังฝึกฝนอยู่ในห้อง เขาพอสัมผัสได้ถึงวิธีใช้พลังวิญญาณแบบรางๆ
ใช้พระเจ้าป้องกันมัน ใช้พลังทำลายมัน พลังวิญญาณสอดคล้องกับพลังฟ้าดิน
คล้อยตามสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย ได้รับโชคดีที่คาดไม่ถึง
ลู่ฝานยิ้มบางๆ เหมือนเขาจับจุดสำคัญได้แล้ว
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวกับกระบี่หนักไร้คม กำลังแบ่งพัดที่ลู่ฝานชิงมา
หลังจากลู่ฝานยินยอม เจดีย์เสวียนเก้ามังกรกลืนกินพลังของพัดเข้าไปทันที
ไม่รู้ว่ามันใช้วิธีอะไร ทำให้พัดดีๆ อันหนึ่ง ไร้แสงไปในพริบตา กลายเป็นพัดธรรมดา ไม่มีประโยชน์สักนิดเดียว
หลังจากนั้นกระบี่หนักไร้คมปล่อยแสงออกมา หลอมละลายพัดจนหมด กลายเป็นน้ำหลากหลายสี ซึมเข้าไปในกระบี่
ไม่เสียของเลยสักนิด ลู่ฝานเพิ่งรู้ว่าที่แท้พัดอันนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาง่ายๆ เป็นพัดที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ด้านในทำจากกระดูกมังกร ไม่ธรรมดาจริงๆ
ขณะที่ลู่ฝานกำลังพัฒนาระดับพละกำลัง มีเสียงดังขึ้นข้างนอก
เสียงดังสนั่นมาจากลานคณะ
ลู่ฝานรีบมองออกไป เห็นเงาคนขนาดใหญ่อยู่กลางลานคณะ
“หุ่นเชิดใหญ่มาก!”