เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 433
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 433
เสียงตะโกนดังขึ้นตลอดเวลา คฤหาสน์ของตระกูลลู่โดนทำลายอีกครั้ง เดิมทีคฤหาสน์ที่ซ่อมเสร็จแล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นซากปรักหักพังอีกครั้ง
พลังปราณพุ่งออกมาไม่หยุด เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วท้องฟ้า มีคนเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง บางคนเป็นลูกหลานของตระกูลโม่ บางคนก็เป็นลูกหลานของตระกูลลู่
ในกลุ่มฝูงชน คนที่ว่างมากๆคงมีแค่เมิงซันกับเหมาอีเท่านั้น
ทั้งสองคนยืนอยู่อย่างเงียบๆ พวกเขาไม่ได้คิดจะลงมืออยู่แล้ว
ลูกหลานของตระกูลลู่ที่พุ่งเข้ามาถึงด้านหน้าของพวกเขา โดนเฟ่ยซิงกับคนอื่นไล่ไปหมดแล้ว
เมิงซันสองมือกอดอกและมองดู สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
สถานที่อยู่ ไม่ไกล ลู่สวินโดนนักบู๊แดนปราณนอกสองคนขัดขวางอยู่ ทำให้เขาไม่สามารถออกมาช่วยเหลือคนของตระกูลลู่ได้
ตูม!
กำแพงอันหนึ่งโดนทำลายทันที การต่อสู้สุดชีวิตแบบนี้ ถึงแม้จะพยายามไม่ทำลายสิ่งของ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ยังดีที่ช่วงนี้ทุกคนในเมืองเจียงหลินรู้เรื่องการต่อสู้ระหว่างตระกูลลู่กับตระกูลโม่ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้คฤหาสน์ตระกูลลู่ต่างย้ายออกไปหมดแล้ว บนถนนแถวนี้ไม่มีใครอีกแล้ว ถึงแม้บ้านของประชาชนทั่วไปโดนทำลายก็ไม่เป็นไร
ลู่เฮ่าหรานกับโม่เทียนต่อสู้กับอย่างดุเดือด ถึงแม้ชายชราทั้งสองคนจะอายุมากแล้ว แต่พวกเขาลงมืออย่างรวดเร็วเหมือนกัน
พลังปราณพุ่งสูงขึ้น ต่อยหมัดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ขณะต่อสู้อยู่ โม่เทียนหัวเราะเสียงดังและพูด:”ลู่เฮ่าหราน วิชากายทองไฟอาบของตระกูลลู่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอ่อนแอแล้ว แกควรเอาวิชานี้เข้าไปในโลงศพพร้อมกับแกจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเอามาขายหน้าต่อคนอื่น!”
ลู่เฮ่าหรานไม่พูดอะไรเลย แสงสีแดงที่อยู่บนร่างกายก็พุ่งสูงขึ้น
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถปลดปล่อยเพลิงไฟออกมาได้เหมือนกับลู่ฝาน แต่อาศัยผิวหนังสีแดงอันนี้ ทำให้พลังป้องกันตัวของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นเหมือนกัน
“หมัดทำลายล้าง!”
โม่เทียนต่อยหมัดใส่ร่างกายของลู่เฮ่าหราน
แต่ร่างกายของลู่เฮ่าหรานกลับไม่ได้ขยับเลย แสงสีแดงที่อยู่บนร่างกายส่องสว่าง และต้านรับหมัดของโม่เทียนเอาไว้ได้
ม่านตาของโม่เทียนหดตัวด้วยความตกใจ สีหน้าของเขาแย่มากๆ
ลู่เฮ่าหรานไม่สนใจอะไรเลย เขาต่อยหมัดออกไปเหมือนกัน
พลังหมัดอันน่ากลัวโจมตีจนโม่เทียนถอยหลังไปหลายก้าว เขามองเห็นหน้าอกของตัวเองที่ไหม้และเป็นรอยดำ
พลังปราณที่อยู่บนร่างกายของลู่เฮ่าหรานพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ดูเหมือนพลังของเขาใกล้จะทะลุถึงขั้นต่อไปแล้ว
โม่เทียนกัดฟันและพูด:”มันเป็นไปไม่ได้ พลังของแกจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่วันได้ยังไง?”
ลู่เฮ่าหรานไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เขายังคงต้องการบอกโม่เทียนหรือ เขาได้สมุนไพรและโอสถจากลู่ฝาน
ลู่เฮ่าหรานปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา โจมตีจนโม่เทียนถอยหลังตลอด ผ่านไปไม่นานมุมปากของโม่เทียนก็มีเลือดสดไหลออกมา
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลู่หมิงกับโม่หยุนเฟยก็ต่อสู้กับอย่างดุเดือดเช่นกัน
มีกระบี่เหล็กอยู่ในมือ เพลงกระบี่ของลู่หมิงเหมือนกับอสรพิษ และแทงร่างกายของโม่หยุนเฟยจนมีบาดแผลหลายแห่ง
โม่หยุนเฟยโดนโจมตีจนถอยหนีอย่างสุดชีวิต เขามองเห็นลู่หมิงยิ่งสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โม่หยุนเฟยตะโกนทันที:”ส่งคนมาช่วยฉันหน่อย!”
มีลูกหลานกลุ่มหนึ่งของตระกูลโม่รีบพุ่งเข้ามาและปิดล้อมลู่หมิงเอาไว้ตรงกลาง
ลู่หมิงมองหน้าโม่หยุนเฟยด้วยสายตาเย็นชา:”ไอ้ขี้แพ้ อยากจะใช้คนเยอะมาเอาชนะฉันเหรอ?ฉันไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว เข้ามาได้เลย”
โม่หยุนเฟยมองเห็นบาดแผลที่อยู่บนร่างกาย เขาหายใจแรงและกัดฟันพูด:”ลู่หมิง แกอย่าอวดดีจนเกินไป ฉันรู้ว่าเพลงกระบี่ของแกไม่เลวเลย แล้วยังไง รีบๆสังหารลู่หมิงเดี๋ยวนี้ ฉันจะตัดศีรษะของมันไปแขวนไว้หน้าประตูของตระกูลลู่ เมื่อลู่ฝานกลับมามองเห็น ให้มันรู้ว่าการเป็นศัตรูกับตระกูลโม่ของเราจะมีจุดจบแบบไหน”
ลูกหลานจำนวนไม่น้อยของตระกูลโม่พุ่งเข้าไปและต่อสู้กับลู่หมิงทันที ภายในชั่วพริบตา ร่างกายของลู่หมิงก็เต็มไปด้วยบาดแผล