เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 445
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 445
บ่ายของวันนั้น โจวเจิ้นโส่วก็พาคนเข้ามาตระกูลลู่
เพียงแต่ว่าไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งนี้ไม่เพียงเข้ามาอย่างมีความเคารพเท่านั้น ยังมีของกำนัลเต็มรถเข้ามาด้วย
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็ยังไม่ได้รับการต้อนรับจากคนตระกูลลู่ ลู่ฝานไม่อยากจะเจอหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ ก็เลยบอกให้คนของตระกูลออกไปรับแทน แล้วก็ไล่กลับ
แน่นอนว่า ของกำนัลก็ต้องรับไว้ ตอนนี้ตระกูลลู่กำลังอยู่ในช่วงลำบาก ของที่มีคนเอามาให้ รับไว้ได้ก็รับไว้
โจวเจิ้นโส่วที่น่าอนาถ ไม่ได้ดื่มแม้แต่ชาถ้วยเดียว ยืนอยู่ที่หน้าประตูกว่าครึ่งชั่วยาม ถึงจะยอมกลับไปอย่างทำอะไรไม่ได้
โจวเจิ้นโส่วที่ก้มหน้าเศร้าสร้อย มีชาวเมืองของเมืองเจียงหลินไม่น้อยพบเห็น
ไม่ถึงสองชั่วยาม เรื่องก็แพร่ไปทั้งเมืองเจียงหลิน
โจวเจิ้นโส่วเข้าตระกูลลู่แล้วถูกปฏิเสธ!
ฐานะของลู่ฝานในตอนนี้ สูงกว่าผู้เฝ้าเมือง!
ยิ่งมีคนที่รู้ข่าวเร็ว ยังรู้อีกว่าตอนนี้ในตระกูลลู่มีแขกคนสำคัญที่โจวเจิ้นโส่วเห็นแล้วก็ต้องคำนับให้
ตอนนี้ ตระกูลลู่ดังจนข่าวเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว
ถึงแม้ตอนนี้ตระกูลลู่จะเจ็บหนัก แต่มีลู่ฝานอยู่ ในสายตาของชาวเมืองเมืองเจียงหลิน ตระกูลลู่ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนมาก
ฟ้ายังไม่มืด นักธุรกิจในเมืองเจียงหลินที่ได้รู้ข่าว ก็เริ่มมาประจบตระกูลลู่
ตระกูลจางเป็นผู้นำ นักธุรกิจก็เข้ามามอบของกำนัลให้ตระกูลลู่กันทีละคนๆ
ขาดคนงานก็เอาคนงานมาให้ ขาดยารักษาโรคก็เอายามาให้
ยิ่งกว่านั้นยังมีคนแสดงท่าทีว่า ร้านค้าของตระกูลลู่ที่ถูกทำลายไป จะไม่มีใครไปแย่งชิงเด็ดขาด
สิ่งที่ควรเป็นของตระกูลลู่ ก็จะยังเป็นของตระกูลลู่
ส่วนกิจการและร้านค้าของตระกูลโม่ เหอะๆ ใครจะกล้าแย่ง?
ก็ต้องตกเป็นของตระกูลลู่
แต่ว่าคุณท่านลู่เฮ่าหรานเป็นคนที่เข้าใจดี ถึงแม้ทุกคนจะพูดแบบนี้ แต่ในใจก็ยังคิดวางแผน
คุณท่านก็แสดงท่าทีไปตรงๆ ว่า กิจการของตระกูลลู่ยังต้องให้ทุกคนช่วยหน่อย กิจการพวกนั้นของตระกูลโม่ ตระกูลลู่ครอบครองไว้7ส่วน ส่วนเหลือ ทุกคนเอาไปแบ่งกันเองแล้วกัน
อย่างไรเสีย ถ้าตระกูลลู่ได้ผลประโยชน์ ทุกคนก็ต้องได้ผลประโยชน์ไปด้วย
ตระกูลลู่แสดงท่าทีแบบนี้ นักธุรกิจพวกนี้ก็ยิ่งยิ้มหน้าบาน
แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่า ต่อไปทั้งเมืองเจียงหลินจะเหลือแค่ตระกูลลู่ที่เป็นใหญ่คนเดียว ถ้าหากว่าจะเอากิจการพวกนี้กลับมา ก็ง่ายเหมือนกับพลิกฝ่ามือ
คุณท่านลู่ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ตระกูลลู่มีคนไม่พอ รับช่วงดูแลต่อไม่ไหวก็เท่านั้นเอง
พอตระกูลลู่เริ่มตั้งตัวกลับมาได้ เหอะๆ คนพวกนี้จะมีช่องทางให้ต่อรองกันได้อีกรึ?
ลู่ฝานไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ตอนนี้เขากำลังดูแลพ่อกับท่านสวินด้านหลัง แล้วก็ลู่เฟิงพ่อของลู่หมิงด้วย
สามคนนี้ บาดเจ็บหนักที่สุดในตระกูลลู่
ครอบครัวของคนตระกูลลู่ทั้งหมดใช้วเวลาทั้งบ่าย เพื่อซ่อมแซมหลังบ้าน ตอนนี้สามคนก็พักอยู่นี่
พอลู่ฝานเอายาหลายขวดป้อนให้กับลู่หาว ลู่เฟิง ท่านสวินเหมือนกับเด็กกินลูกอมแล้ว
ทั้งสามคนก็มีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อย ลู่เฟิงถึงกับลุกขึ้นเดินได้เลย แต่ว่าจะไม่สามารถต่อสู้กับใครได้กว่าครึ่งปีหรือหนึ่งปี แต่ว่าปัญหานี้เป็นเรื่องเล็กๆ คาดว่าอีกครึ่งปีหรือหนึ่งปีต่อจากนี้ คงไม่ต้องให้ลู่เฟิงลงมือสู้เองอีกแล้ว
ลู่หาวกับท่านสวินที่ฟื้นขึ้นมา ก็มองลู่ฝานด้วยสายตาชื่นชมอย่างพอใจ
โดยเฉพาะลู่หาว พอเห็นว่าลูกชายตนเองมีผลงานขนาดนี้ เขาก็รู้สึกว่าตายไปก็คุ้มแล้ว
ลู่ฝานยังไม่ทันได้พูดกี่คำ ก็ถูกลู่หาวกับท่านสวินดันตัวออกไปพร้อมพูดว่า “ลู่ฝาน ตอนนี้นายน่าจะยุ่งมาก ไปทำงานเถอะ พวกเราไม่เป็นอะไรหรอก รีบไปจัดการเรื่องของนายเถอะ ไม่ต้องมาเสียเวลากับพวกเรา”
ลู่ฝานก็จะพูดอะไรได้ ได้แต่ทิ้งยาไว้สองขวดแล้วก็กลับออกมา