เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 447
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 447
“ยารวมศูนย์!”
ลู่ฝานบ่นพึมพำ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรที่อยู่ในตัวของเขาก็พูดออกมา
“พระเจ้า ฉันได้เห็นยารวมศูนย์ด้วยหรือนี่ วิชากลั่นยาแบบนี้ ไม่ใช่หายสาบสูญไปตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้วหรอกหรือ? 66เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ รวยเลยนะ พวกเรารวยเลย รีบเก็บมาเลย เก็บมาสิ!”
ลู่ฝานก็ด่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรในใจ ให้มันได้เจียมตัวหน่อย
หวูเฉินยิ้มพูดว่า “ถูกต้อง เป็นยาที่ไม่มีระดับอะไร นายเก็บมันไปเถอะ”
ลู่ฝานตอบรับเบาๆ แล้วก็ขมวดคิ้วเก็บยารวมศูนย์เข้าไปในเข็มขัด
พอเห็นว่าลู่ฝานมีเข็มขัดอากาศธาตุหนึ่งเส้น หวูเฉินก็ยิ่งยิ้มอย่างดีใจ
“ดูเหมือนว่านายอยู่ในสถาบันอย่างสบายดีนะ”
ลู่ฝานถามว่า “อาจารย์ครับ ยารวมศูนย์เม็ดนี้มีสรรพคุณอะไร?”
หวูเฉินยิ้มพูดว่า “มันจะมีสรรพคุณอะไร ก็ขึ้นอยู่กับตัวนายเอง ฉันไม่ได้กินมันเสียหน่อย จะไปรู้ได้ไงว่ามีสรรพคุณอะไร”
ลู่ฝานก็ค่อนข้างไม่เข้าใจกับสิ่งที่หวูเฉินพูดออกมา
แต่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในกายกลับหัวเราะพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ในวงการผู้ฝึกชี่นั้น ยารวมศูนย์ถูกขนานนามว่ายาบรรลุเป็นจริง ฮ่าๆ อาจารย์ของท่านพูดได้ไม่มีผิด คนที่กินมันลงไปเท่านั้นถึงจะรู้ว่ามันมีสรรพคุณอะไร วันหลังท่านต้องได้ใช้มันแน่นอน”
ลู่ฝานก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
ยาบรรลุเป็นจริง เป็นยาที่สามารถทำตามความฝันของคนได้อย่างนั้นหรือ?
มันเกินจริงไปหรือเปล่า ถ้าฉันกินมันลงไป ก็เลื่อนไปถึงเซียนบู๊เลยสิ
โลกนี้จะมียาแบบนี้ได้อย่างไร!
ลู่ฝานก็ไม่อยากถามเยอะ ในเมื่อเจดีย์เสวียนเก้ามังกรรู้จัก อย่างนั้นวันหลังค่อยถามก็แล้วกัน
สองคนนั่งอยู่ในกระท่อม หวูเฉินยิ้มพูดว่า “ลู่ฝาน ไหนลองเล่ามาสิ ว่าช่วงนี้อยู่ในสถาบันเป็นอย่างไรบ้าง ดูจากพลังของนายแล้ว คงจะได้ไปเจออะไรดีๆ เยอะเลยสินะ ลองเล่ามาฟังซิ!”
ลู่ฝานพยักหน้า แล้วก็เริ่มเล่า
สำหรับหวูเฉินแล้ว ลู่ฝานไม่มีอะไรต้องปิดบัง
พอเล่าถึงตอนที่เขาไปพบกับจวนของเซียนบำเพ็ญชี่และเจดีย์เสวียนเก้ามังกร หวูเฉินก็ตาเป็นประกาย
พอเล่าถึงตอนที่เขาฝึกเพลงเต๋าหนึ่งเดียวสำเร็จ และทำให้กระบี่หนักไร้คมยอมรับเป็นเจ้านายมันได้ หวูเฉินก็ตกใจจนต้องพยักหน้าด้วยความพอใจอย่างมาก
พอเล่าถึงตอนที่เขาต่อสู้ในสถาบันจนคณะตนเองได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง
หวูเฉินก็หัวเราะอย่างดีใจมาก “ศิษย์ของฉัน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ชื่อของนายตั้งได้ดีมาก ลู่ฝาน ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาเลย”
ลู่ฝานยิ้มเบาๆ จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ครับ ตอนที่ผมฝึกวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุอยู่ในคณะฟ้าร้อง ได้ยินว่าสาขาสายฟ้าอะไรสักอย่าง แล้วก็ถูกจับได้ว่าผมเป็นผู้สืบทอดของสำนักจิ่วเซียว”นี่มันอะไรกัน สาขาสายฟ้ามันคืออะไรกันเนี่ย
หวูเฉินหัวเราะ “สาขาสายฟ้าน่ะหรือ ก็พวกที่มาช่วยเหลือพวกสำนักจิ่วเซียวเราไง แต่ว่านั่นก็เป็นเรื่องของรุ่นอาวุโสแล้ว ไม่เกี่ยวกับนาย แต่ว่าพอนายเจอกับคนพวกนี้จะต้องเคารพนบนอบหน่อย อย่างไรก็รู้จักกันมานาน พอที่จะไม่ลงโทษได้ก็ไม่ลงโทษ ไม่แน่ว่าวันหลังอาจจะได้เป็นเพื่อนกัน”
ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ คำพูดของหวูเฉิน ทำให้เขาเบาใจลงไม่น้อย หลักๆ คือเขากลัวว่าตัวตนของสำนักจิ่วเซียวจะถูกแพร่ออกไป แล้วสร้างปัญหามาให้อาจารย์
“เอาเถอะ ปล่อยพลังวิญญาณออกมา แล้วก็อาศัยจังหวะนี้แสดงเขตวิถีของกระบี่หนักไร้คมและเจดีย์เสวียนเก้ามังกร เสร็จแล้วก็มาให้ฉันดู”
หวูเฉินก็ตาร้อนผ่าว
สิ่งของสามสิ่งนี้ มีสิ่งไหนบ้างที่ไม่ใช่ของที่นักบู๊ใฝ่ฝันอยากจะได้ แม้แต่ผู้แดนเซียนบู๊ ผู้แดนฟ้าดินก็ยังอยากได้
คิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะได้มันมาครอบครองด้วยพลังระดับเพียงเท่านี้ เขาช่างเป็นคนที่โชคดีมากเลยทีเดียว เป็นที่เกิดมาพร้อมกับโชคจริงๆ