เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 448
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 448
ลู่ฝานได้ยินดังนั้นก็แปลงพลังปราณทั้งหมดเป็นพลังวิญญาณ แล้วก็กระตุ้นเขตวิถีของกระบี่หนักไร้คม
ในกระท่อมเกิดเป็นเสียงไม้ลั่น ราวกับว่าถ้าลู่ฝานออกแรงมากกว่านี้อีกหน่อย กระท่อมก็จะพัง
หวูเฉินก็มองไปด้วยพยักหน้าพูดว่า “ดีมาก ไม่เลวเลย เขตวิถีของกระบี่หนักไร้คมแน่นหนามากถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องระดับของนักบู๊ แต่เรื่องเขตวิถียังพอมองออกบ้างนิดหน่อย พลังธาตุดินเข้าเขตวิถี จากนั้นก็เปลี่ยนไปวิถีทำลาย ใช้วิถีเล็กเข้าวิถีใหญ่ วิทยายุทธของคนคนนี้ล้ำลึกมาก นายได้รับเขตวิถีของเขามา ก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ มีเขตวิถีนี้ พอนายเข้าสู่แดนปราณชีวิต ก็จะฝึกวิชาได้เร็วขึ้นมากอย่างรวดเร็ว”
ลู่ฝานยิ้มพยักหน้า ข้อดีของเขตวิถีเขาได้สัมผัสกับมันแล้ว
ในใจของเขาก็เรียกว่า “ไอ้เก้า ออกมาเลยนะ อาจารย์ฉันเรียกนาย ไสหัวออกมาเลย”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็ออกมาจากร่างของลู่ฝานอย่างไม่ค่อยพอใจ ค่อยๆ ปรากฏเป็นเจดีย์อยู่บนมือของลู่ฝาน
“สวัสดีครับอาจารย์ของเจ้านาย”
หวูเฉินก็ยิ้มแย่งขึ้นมาทันที
“เป็นภูติอาวุธที่ไม่เลวเลย นายคงจำบำเพ็ญมาเกินร้อยปีแล้วสินะ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็ตอบไปตามตรงๆ “เป็นร้อยปีแล้ว แต่ว่าตอนนี้บาดเจ็บยังไม่หายดีไม่อาจจะปรากฏตัวออกไปทำความเคารพได้”
หวูเฉินยิ้มหยักหน้า แล้วก็เอานิ้วชี้ไปยังเงาที่ปรากฏออกมาของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร
ทันใดนั้น เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็รู้สึกเหมือนกับน้ำแข็งเจอกับไฟร้อนแรง ควันสีขาวลอยพุ่งออกมา
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้น ลู่ฝานก็มือสั่นๆ ไปด้วย
บนตัวของหวูเฉินก็มีพลังที่น่ากลัวปรากฏขึ้น น่ากลัวเหมือนกับเทพมาร ลู่ฝานก็หยุดการหายใจทันที ที่แท้เขายังมีพลังไม่พอ โอกาสที่จะสัมผัสกับพลังอย่างนี้ยังไม่มี ตอนนี้เขารู้สึกได้อย่างลึกๆ พลังนี้มันเหมือนจะทำลายฟ้าดินเลย
หวูเฉินพูดทีละคำว่า “ฉันไม่สนใจว่าก่อนหน้านี้นายจะรับใช้ใคร ในเมื่อเข้ามาอยู่ในมือของลูกศิษย์ฉันแล้ว ก็ต้องตามหน้าที่ เป็นภูติอาวุธที่ดี เข้าใจไหม?”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดเสียงสั่นๆ ว่า “เข้าใจแล้ว ขุนพลังสุดเหนือฟ้า ยิ่งใหญ่ครอบครองนิรันดร์ ผู้ใหญ่โบราณ เก้าน้อยเข้าใจแล้ว”
หวูเฉินก็เก็บพลังไป แล้วพูดว่า “อย่างนั้นก็ดี ที่ชี้ไปเมื่อครู่นี้ น่าจะทำให้นายฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วไม่น้อย นายกลับไปได้แล้ว!”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็รีบสลายไป จิตวิญญาณกลับเข้าไปยังตันเถียนของลู่ฝาน ไม่กล้าส่งเสียงออกมาอีก
ลู่ฝานก็ยิ้มพูดว่า “อาจารย์ครับ ไปขู่มันแบบนี้จะดีหรือครับ?”
หวูเฉินก็พูดว่า “ลู่ฝาน นายอายุยังน้อย ไม่รู้ความร้ายกาจของโลกนี้ ต่อให้เป็นภูติอาวุธที่เข้าไปอยู่ในตันเถียนของนายแล้ว ก็จำเป็นต้องระวังภัยไว้ จะได้ไม่เกิดผลร้าย”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ ในใจก็เรียกหาไอ้เก้าหลายครั้ง
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรสะอื้นพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ที่แท้อาจารย์ท่านเป็นขุนพลังสุดเหนือฟ้า ฉันก็ว่าใครกันที่สามารถกลั่นยารวมศูนย์ออกมาได้ น่ากลัวมากเลย ที่ชี้มาใส่เมื่อครู่นี้เกือบเอาชีวิตฉันไปเลย ไอหย๋า แต่ว่าอาการบาดเจ็บก็ฟื้นฟูมาแล้วไม่น้อย เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ อย่างนั้นฉันก็ขอไปหลับใหลพักผ่อนก่อนนะ”
พูดจบ เสียงของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็หายไป
ลู่ฝานก็สะดุ้งเล็กน้อย เขาได้ยินคำว่าขุนพลังสุดเหนือฟ้าอีกแล้ว
มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่? แข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือเซียนบู๊อีกงั้นหรือ?
ตอนที่ลู่ฝานกำลังครุ่นคิด หวูเฉินก็มองพลังวิญญาณบนตัวของลู่ฝานแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงให้นายไปฝึกเพลงเต๋าหนึ่งเดียวที่คณะหนึ่งเดียว”
ลู่ฝันรับตั้งสติกลับมา แล้วพูดว่า “เพราะว่าเพลงเต๋าหนึ่งเดียวรุนแรงอย่างนั้นหรือครับ?”
หวูเฉินยิ้มส่ายหัว “ไม่ใช่แค่เหตุผลนี้ ตอนนี้นายฝึกสำเร็จแล้ว ฉันก็จะเปิดเผยอะไรบางอย่างให้ เข้ามาใกล้ๆ ฉันจะถ่ายทอดวิชาให้”