เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 459
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 459
หานเฟิงพูดว่า “ได้สิครับอาลู่ คุณอาก็จะได้พาผมไปที่จวนผู้เฝ้าเมืองด้วยเลย ผมกลัวหาไม่เจอเหมือนกัน”
สองคนก็เดินคุยกันออกไป
ลู่เฮ่าหรานก็พูดกับลู่ฝานด้วยสีหน้ากังวลว่า “ลู่ฝาน นายมั่นใจว่าเอาอยู่ใช่ไหม นายต้องรู้ไว้นะ ว่าตอนนี้นายเป็นเจ้าบ้านแล้ว ทั้งตระกูลลู่อยู่ที่การตัดสินใจของนายเลยนะ ทุกอย่างจะต้องมองตระกูลเป็นหลัก”
ลู่ฝานพูดอย่างเข้าใจว่า “ปู่ครับ ผมทราบดี เรื่องที่ไม่มั่นใจ ผมไม่ทำแน่นอน เชื่อผมเถอะ!”
ลู่เฮ่าหรานเห็นว่าลู่ฝานมีสายตามั่นใจ ก็ไม่พูดอะไรมาก แล้วเดินกลับออกไป
เขาได้เตรียมตัวเพื่อตอนท้ายแล้ว ลู่เฮ่าหรานคิดไว้ในใจแล้ว
ถ้าหากว่าตระกูลลู่เดินลงเหวเพราะการตัดสินใจของลู่ฝาน เขาจะปกป้องชีวิตของลู่ฝานก่อน ถึงแม้สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนจะเป็นชีวิตของตนเองก็ตาม
ลู่ฝานหายใจลึก ๆ แล้วหยิบแก้วรวมสารเหล็กพันปีมาพูดว่า “ไอ้เก้า รีบทำงานเลย ก่อนวันพรุ่งนี้ จะต้องทำให้เสร็จ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “รีบร้อนเกินไป รีบมากเลย เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ข้าพูดได้ว่าจะพยายามนะ”
พูดจบ ลู่ฝานก็นั่งสมาธิลงไปอีกครั้ง
แก้วรวมสารเหล็กพันปีในมือก็หลอมละลายภายใต้พลังปราณที่เป็นสายออกมา สุดท้ายก็กลายเป็นของเหลวที่เปล่งแสงสีดำออกมา แล้วไหลลงไปในพื้นดิน
ทันใดนั้น คนของทั้งเมืองเจียงหลินก็รู้สึกว่าพื้นดินที่เท้าสว่างวาบขึ้นมา แสงสีทองหลายสายทะลุออกมา แล้วพุ่งไปบนฟ้า
ในตอนนี้ คนนับไม่ถ้วนในเมืองเจียงหลินส่งเสียงตกใจ ชาวบ้านธรรมดาพวกนี้เคยเห็นค่ายกลที่ไหนกัน แถมยังเป็นค่ายกลเสวียนเหล็กเจดีย์เก้าที่ล้ำลึกพิสดารแบบนี้อีก
พื้นดินที่เท้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง บนพื้นหินบนถนน เริ่มเกิดอักษรยันต์ป็นลวดลายชัดเจน ลวดลายพวกนี้มหัศจรรย์มาก ทำให้คนนับไม่ถ้วนมองแล้วเหม่อลอย
นักบู๊บางคนมองดูพักหนึ่ง ก็รู้สึกว่าในหัวเหมือนถูกโจมตีหนัก นาทีต่อมา ก็เหมือนจะเข้าใจในหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน
ชั่วพริบตานี้ มีนักบู๊เมืองเจียงหลินมากมายบรรลุแดนพลัง นี่ก็คือผลลัพธ์การรวมกันของค่ายกลหยินหยางกับค่ายกลเสวียนเหล็กเจดีย์เก้า ค่ายกลผสานกันมีผลลัพธ์ที่มากกว่าหนึ่งบวกหนึ่งใหญ่กว่าสอง
“พระเจ้า หล่าววัง เห็นไหม ฉันบอกแล้วไงว่ามีอะไรผิดปกติ อ่าว หล่าววังไปไหนเสียแล้ว?”
หลี่โก่วด้ารตะโกนร้องน้ำลายกระเด็น กระโดดโลดเต้นคุมตัวไม่อยู่
คนข้างๆ ก็มองเขา แล้วยิ้มพูดว่า “หลี่โก่วด้ารเอ้ย หล่าววังเพิ่งออกไปเอง ฮ่าๆ ไม่แน่ว่าอาจจะไปบ้านนายก็ได้นะ”
หลี่โก่วด้ารก็อึ้งไป จากนั้นก็วิ่งไปยังบ้านตนเอง
……
ในขณะเดียวกัน ห่างจากเมืองเจียงหลิน500ลี้ ในจ้าวเจียจวง ก็มีศพเกลื่อนพื้น
คนจำนวนนับไม่ถ้วน นั่งยองอยู่ที่มุมหนึ่ง มองชาย12คนด้วยสีหน้าหวาดกลัว เสื้อผ้าสีเลือด เป็นเหมือนกับฝันร้าย ทำให้พวกเขาทุกคนตัวสั่นด้วยความกลัว
“พี่ใหญ่ ไอ้ลูกเต่าพวกนี้เป็นสายสืบให้กับตระกูลลู่ ตอนนี้ข่าวที่พวกเรามาถึง คงจะส่งไปยังตระกูลลู่แห่งเมืองเจียงหลินแล้วล่ะ”
ชายที่เรียกว่าซานเจียวยันคนหนึ่งพูดออกมา
ชายที่ถูกเขาเรียกว่าพี่ใหญ่ ก็ใช้ดาบฟันคอชายที่นั่งตรงหน้าขาดไป
ยกดาบขึ้น “พี่ใหญ่” คนนั้นก็เช็ดเลือดบนใบดาบ
“พี่ใหญ่” คนนั้นยิ้มเย็นพูดว่า “รู้แล้วไง พวกมันนอกจากจะหนีไปแล้วจะทำอะไรได้ เหอะ พวกเรารีบเดินทางกันดีกว่า จะต้องถึงเมืองเจียงหลินก่อนฟ้าสางพรุ่งนี้ ฉันไม่อยากให้เหยื่อตัวใหญ่ของเราหนีไปได้ ถ้าเป็นแบบนั้น พวกของเมิงซันก็จะตายไปฟรีๆ ไป ออกเดินทาง”
ยกดาบขึ้นมา ใบดาบก็สะท้อนใบหน้าของพี่ใหญ่