เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 516
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 516
คนขับรถม้าเคยได้ยินที่นั่นมารอบหนึ่ง ได้ยินว่าห้องพักห้องชั้นต่ำที่แย่สุด ยังต้องเป็นคนที่มีฐานะหลายแสนเหรียญทอง จึงจะเข้าไปได้
ทั้งชีวิตเขาไม่มีทางหาเงินเยอะขนาดนั้นได้!
รถเพิ่งเลี้ยวหัว ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนอยู่ด้านนอกรถ “คุณชายหาน อย่าทิ้งฉันสิ!”
ลู่ฝานมองไปข้างนอก เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับหานเฟิง
หานเฟิงเลิกผ้าม่านรถขึ้น พูดกับผู้หญิงว่า “ขอโทษด้วย เธอเดินกลับเองละกัน ในรถนั่งไม่ได้แล้ว”
พูดจบ หานเฟิงนั่งลงช้าๆ สีหน้าไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด เหมือนนี่คือสิ่งที่สมเหตุสมผลแล้ว
ลู่ฝานพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง ทะเลาะกันเหรอ”
หานเฟิงพูดอย่างตกใจ “ทะเลาะเหรอ ทะเลาะอะไร ความสัมพันธ์ของเราดีมาก!”
“แล้วทำไมไม่ให้เธอขึ้นมาล่ะ”
หานเฟิงพูดว่า “ทำไมต้องให้เธอขึ้นมาล่ะ แค่ผู้หญิงที่เห็นแก่ฐานะและเงินของฉันเท่านั้น ตามคำพูดของพ่อฉัน สำหรับผู้หญิงน่าเงินแบบนี้ ต้องใช้วิธีแบบนี้ ถ้าโอ๋เธอเกินไป เธอจะไม่รู้ฐานะตัวเอง ตอนนี้เธอยังไม่มีคุณสมบัติมานั่งบนรถกับเรา”
ลู่ฝานยิ้มบางๆ ดูเหมือนศิษย์พี่หานเฟิงไม่สนใจอะไร อันที่จริงเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง
สำหรับทฤษฎีของศิษย์พี่หานเฟิง ลู่ฝานไม่รู้เหมือนกันว่าถูกหรือผิด
แต่ฟังดูมีเหตุผลมาก
รถม้าวิ่งกลับมายังสวนหอมปาฟาง เพิ่งมาถึงหน้าประตู
ลู่ฝานเห็นผู้ดูแลเฉินซวงกับหลิ่วหยี ยืนอยู่หน้าประตู
“ฮ่าๆ คุณชายลู่ฝานกลับมาแล้ว ฉันว่าแล้ว คุณชายลู่ฝานผลการฝึกตนสูงส่ง เป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆ ในสถาบันสอนวิชาบู๊ ได้ตำแหน่งผู้ตรวจการ เป็นเรื่องเล็กๆ ง่ายนิดเดียว”
ลู่ฝานกับหานเฟิงลงจากรถม้า โยนเหรียญทองหนึ่งเหรียญให้คนขับรถม้า ทำให้คนขับรถม้าขอบคุณยกใหญ่
เฉินซวงเดินเข้ามาโค้งตัวเล็กน้อยให้ลู่ฝาน เทียบกับเมื่อวาน วันนี้เฉินซวงดูถ่อมตนมาก
หลิ่วหยีก็พูดด้วยสีหน้าเป็นกันเอง ในแววตามีความเลื่อมใส
ลู่ฝานพูดว่า “ข่าวถึงหูพวกคุณเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”
เฉินซวงพูดว่า “ตระกูลปาฟางของเรา อาศัยข่าวในการหากิน ถ้ารู้ข่าวช้า เราคงไม่อยู่นานขนาดนี้หรอก เชิญคุณชายลู่ฝาน เราเปลี่ยนห้องให้นายแล้ว เชื่อว่านายจะพอใจอย่างแน่นอน”
หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “เปลี่ยนห้องด้วยเหรอ สวัสดิการดีจริงๆ!”
ขณะกำลังพูด ถนนด้านนอกมีรถม้า 5-6 คัน กำลังวิ่งเข้ามา
ลู่ฝานหันไปมอง เห็นจากไกลๆ มีคนรูปร่างคุ้นๆ โดนคนยกลงมาจากรถม้า
ไม่นาน ผู้อาวุโสคนหนึ่งพร้อมกับคนใช้กลุ่มหนึ่ง แบกวัยรุ่นคนหนึ่งมาตรงหน้าลู่ฝาน
เมื่อเพ่งมองดูดีๆ ลู่ฝานจำได้ว่าคนนี้คือหม่าจิ่น ที่โดนเขากับศิษย์พี่หานเฟิงซัดไม่ใช่เหรอ
ผู้อาวุโสคำนับแล้วพูดว่า “คุณชายลู่ฝาน ผมหม่าไค่ซี เป็นพ่อหม่าจิ่น ไอ้เด็กนี่อวดดี ได้ยินว่าไปล่วงเกินคุณชายลู่ฝานกับคุณชายหานเฟิง ผมตั้งใจพาเขามาขอโทษ ไอ้ลูกเวร ยังไม่รีบขอโทษคุณชายลู่ฝานอีก!”
หม่าจิ่นพูดด้วยเสียงสะอื้น “คุณชายลู่ฝาน ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าอีกแล้ว คุณชายลู่ไว้ชีวิตผมเถอะ!”
ลู่ฝานสีหน้าราบเรียบ แต่หานเฟิงที่อยู่ข้างๆ เดินเข้ามาจับขาหม่าจิ่น “เกิดอะไรขึ้น ศิษย์น้องลู่ฝาน นายทำหักเหรอ”
หม่าไค่ซีพูดว่า “ไม่ใช่ครับ ผมทำเอง เฮ้อ หวังเพียงว่าคุณชายลู่ฝานจะหายโมโห”
ลู่ฝานพูดช้าๆ ว่า “แค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น เรื่องเล็ก ไม่เป็นไร”
หม่าไค่ซีถอนหายใจอย่างโล่งอก “คุณชายลู่ใจกว้างขนาดนี้ ตระกูลหม่าจะจำไว้ขึ้นใจ รถม้าด้านหลังเป็นของที่ชดใช้ให้คุณชายลู่ฝาน หวังว่าคุณชายลู่จะรับไว้ เราขอตัวก่อน”
พูดจบ หม่าไค่ซีพาหม่าจิ่นออกไป
ลู่ฝานส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “นี่คือสภาพสังคมสินะ!”
หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ นี่แค่สภาพความเป็นจริงเท่านั้น”