เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 52
ลู่ฝานขมวดคิ้ว รู้ทันทีว่าทำไมอาจารย์ทำเช่นนี้ ถ้าเมื่อกี้อาจารย์ไม่เตือนให้เขาอย่าขยับ ตอนนี้เขาคงโดนอีกฝ่ายจับได้ไปแล้ว
รออยู่ครู่หนึ่ง หวูเฉินกำจัดวิชาร่างผสานฟ้าดินออกไป ยิ้มแล้วมองไปทางที่ผู้อาวุโสกับเด็กคนนั้นเดินออกไป หวูเฉินพูดว่า “นักบู๊แดนหยินหยาง ไม่ได้เห็นนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าประเทศเล็กๆ อย่างประเทศอู่อาน จะมียอดฝีมือแดนหยินหยาง แต่น่าเสียดาย แดนหยินหยางของเขายังไม่สมบูรณ์”
ลู่ฝานฟังจากน้ำเสียงของอาจารย์หวูเฉิน ตกใจเล็กน้อย
ฟังดูเหมือน อาจารย์เคยเจอยอดฝีมือแดนหยินหยางมาเยอะ
ลู่ฝานอดถามไม่ได้ว่า “อาจารย์ ตอนที่อาจารย์ยังไม่บาดเจ็บ เป็นยอดฝีมือแดนไหนกันแน่ นักเรกิเหรอ”
หวูเฉินโดนลู่ฝานถาม จึงเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “นักเรกิ? นายดูถูกอาจารย์ขนาดนี้เลยเหรอ แดนฟ้าดิน เคยได้ยินไหม”
ลู่ฝานอ้าปากค้าง ผู้ฝึกชี่กับนักบู๊เหมือนกัน หลังจากฝึกพลังชี่ได้ จะแบ่งเป็นห้าแดนใหญ่ ได้แก่ ผู้ฝึกชี่ อาจารย์บำเพ็ญชี่ ปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ เซียนบำเพ็ญชี่ เมื่อผ่านห้าแดนใหญ่นี้ จึงจะเป็นแดนฟ้าดิน แข็งแกร่งเหมือนกับนักบู๊แดนหยินหยาง
คนเรียกกันว่า อริยปราชญ์ฟ้าดิน
หวูเฉินส่งเสียงหึเบาๆ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ผู้ฝึกชี่แดนฟ้าดินอยู่ต่อหน้าฉัน ยังต้องเรียกฉันว่าผู้อาวุโส”
ตอนนี้ทั้งปากและจมูกของลู่ฝานมีลมออกมา เขาไม่เคยรู้เลยว่าอาจารย์ตัวเองจะเก่งขนาดนี้
หวูเฉินโบกมือไปมา แล้วพูดว่า “ฮีโร่ที่แท้จริง ไม่พูดถึงความเก่งกาจที่ผ่านมา เรื่องมันผ่านมาแล้ว ตอนนี้ฉันคงเป็นแค่นักเรกิเท่านั้น”
หวูเฉินพูดอย่างทอดถอนใจ “ไปกันเถอะลู่ฝาน เราตามพวกเขาไป”
ลู่ฝานถามว่า “ตามพวกเขาเหรอครับ เราหาสมบัติเหมือนพวกเขาเหรอ อาจารย์แน่ใจเหรอว่าถ้าตามไป จะไม่เกิดเรื่อง”
หวูเฉินหัวเราะแล้วพูดว่า “ในเมื่อเขาไม่มีทางเห็นวิชาร่างผสานฟ้าดินของฉันได้ งั้นรับรองว่าเรายังปลอดภัย ฉันสงสัยเหมือนกัน นักบู๊แดนหยินหยางจะมาที่นี่ทำไม พวกเขาบอกว่ามาหาสมบัติไม่ใช่เหรอ เราตามไปดูได้นิ ไม่แน่อาจได้อะไรมาก็ได้”
ลู่ฝานเห็นอาจารย์มีความมั่นใจ จึงพยักหน้า แต่ยังมีปัญหาหนึ่งอยู่ตรงหน้า
“อาจารย์ แน่ใจเหรอว่าเราจะตามทัน เขากลายร่างเป็นลำแสงได้นะครับ”
“วางใจเถอะ ในเมื่อมาหาสมบัติ ต้องใช้การกลายร่างเป็นลำแสงน้อยมาก ถึงพวกเขาจะเร็ว ก็ไม่เร็วไปกว่าเราสักเท่าไร อีกอย่าง นายต้องจำไว้ว่า ผู้ฝึกชี่อย่างเรา อยู่ในป่า
พูดพลาง หวูเฉินขยับนิ้วเล็กน้อย ลู่ฝานรู้สึกเหมือนต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ สัมผัสอะไรได้ และงอหลังลงตามนิ้วของหวูเฉิน
ลู่ฝานลองใช้พลังปราณแปรเปลี่ยนเป็นพลังธาตุไม้ของตัวเองเช่นกัน จากนั้น ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าต้นไม้ใบหญ้าอยู่รอบบริเวณรัศมีสิบฟุต อยู่ในการควบคุมของเขา เหมือนต้นไม้ใบหญ้านี้ กลายเป็นดวงตาของเขา
หวูเฉินเห็นลู่ฝานใช้พลังไม้ได้อย่างไม่มีปัญหา จึงพยักหน้าอย่างพอใจ
นี่แสดงว่าพลังปราณของลู่ฝาน ผสานกับพลังปราณและพลังชี่แล้ว
หวูเฉินหลับตาลง สัมผัสเบาๆ ครู่หนึ่ง ชี้ไปทางซ้าย แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ พวกเขาไปทางนี้”
พูดจบ หวูเฉินกับลู่ฝาน รีบเดินไปในป่าทางด้านซ้าย
ผ่านทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด
การเดินของผู้อาวุโสกับเด็กผู้หญิงด้านหน้า สะเปะสะปะไปหมด แต่ภายใต้การค้นหาของพลังไม้อันแข็งแกร่งของหวูเฉิน ทำให้ตามได้ทัน
หวูเฉินกับลู่ฝาน ตามอยู่ไกลๆ ด้านหลังเขา ตามถึงสิบวันเต็มๆ
สิบวันนี้ ลู่ฝานไม่ได้พักเลย ปรับตัวให้เข้ากับพลังของตัวเองไปพลาง เรียนวิชาผู้ฝึกชี่กับหวูเฉินไปพลาง
พูดขึ้นมา ด้านผู้ฝึกชี่ นอกจากลู่ฝานเรียนการกลั่นยา ยังเรียนแปรชี่เป็นห้าธาตุ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สุดด้วย ตอนนี้กว่าจะเรียนได้ มันไม่ง่ายเลย ตอนนี้หวูเฉินให้เขาเริ่มเรียน การก่อชี่เป็นวัตถุขั้นพื้นฐานด้วย
ลู่ฝานเดินไปพลาง เอาเปลวไฟในมือ แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ
เช่น หมาป่า เสือ งู เหยี่ยว
พลังปราณเคลื่อนไหวตามจิตใจ เปลวไฟแปรเปลี่ยนอย่างไม่สามารถคาดเดาได้
เป็นวิธีโจมตีพื้นฐานของผู้ฝึกชี่ เริ่มจากแปรชี่เป็นห้าธาตุ ทำความคุ้นเคยกับพลังของธาตุทั้งห้าก่อน จากนั้นเลือกธาตุที่เหมาะกับนายฝึกเป็นหลัก ส่วนธาตุอื่นๆ ฝึกเป็นรอง ไม่ต้องถามฉันว่าทำไมถึงฝึกแค่ธาตุเดียวไม่ได้ นี่เป็นคำถามที่โง่มาก แม้ต่อไปนายจะเจอผู้ฝึกชี่ ที่ฝึกเพียงชนิดเดียวเยอะมาก
ลู่ฝานฟังพลางพยักหน้า เปลวไฟในมือกลายเป็นเสือร้าย ต่อมากลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ และกลายเป็นลมเย็นสดชื่น
ทันใดนั้น หวูเฉินชะงักฝีเท้าลง มีเสียงระเบิดดังออกมาจากป่าลึกด้านหน้า
แสงหนึ่งพุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้า เสียงคำรามมังกรดังขึ้น หวูเฉินรีบปกป้องลู่ฝานเอาไว้ด้านหลัง
“เกิดอะไรขึ้นครับอาจารย์”
ลู่ฝานถามขึ้น
ยังไม่ทันพูดจบ เขาเห็นร่างใหญ่ลอยขึ้นบนฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เมฆดำรวมตัวกัน ฟ้าร้องโครมคราม
เสียงมังกรคำรามน่ากลัวดังสนั่น สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาลู่ฝานคือ มังกรฟ้าหกปีก
“ไม่ดีแล้ว มังกรฟ้าหกปีก!”
หวูเฉินดึงลู่ฝานถอยหลังอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานมองเงาที่ปกคลุมท้องฟ้า สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ขณะเดียวกัน เสียงร้องตะโกนดังขึ้นอย่างชัดเจน
“ปราณหยินหยางทำลายล้าง!”
ทันใดนั้น ฟ้าดินกลายเป็นสีขาวดำ ไม่รู้ว่าตัวของผู้อาวุโสลอยอยู่บนฟ้าตั้งแต่เมื่อไร
สีขาวดำกลายเป็นรูปหยินหยางปากว้า ผู้อาวุโสสะบัดมือไปบนฟ้า รูปหยินหยางปากว้าขนาดใหญ่กลายเป็นกระบี่วิเศษ ฟาดฟันลงไปทันที