เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 545
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 545
เช้าตรู่วันต่อมา แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง
ผ่านการพักผ่อนหนึ่งคืน ลู่ฝานมีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย การต่อสู้เมื่อคืน สิ่งที่ทำให้เขาสูญเสียมากที่สุดคือเกราะเกล็ดมังกร
ช่วงนี้ลู่ฝานคงใช้เกราะเกล็ดมังกรไม่ได้แล้ว นี่ทำให้การต่อสู้เป็นตายสองสามวันหลังจากนี้ เขาอดกังวลขึ้นมาไม่ได้ แต่ลู่ฝานก็ไม่ได้เสียเวลาหนึ่งคืนไปเปล่าๆ เขากลั่นยาออกมาได้ไม่น้อย
สิ่งที่ศิษย์พี่หานเฟิงแสดงออกมาเตือนเขา ใช้ยายกระดับพละกำลังในเวลาสั้นๆ เป็นหลัก ลู่ฝานจึงตั้งใจกลั่นยาออกมาสองสามหม้อ
ในนั้นมียาที่ชื่อว่ายาเทพแดนไกลโพ้น ที่ทำให้ลู่ฝานพอใจที่สุด
แม้เป็นแค่ยาปราณชีวิตระดับหก แต่หลังจากกินเข้าไป สามารถทำให้ร่างกายของลู่ฝาน ทัดเทียมกับนักบู๊แดนปราณชีวิตขั้นกลาง ผลข้างเคียงก็ไม่มาก แค่หมดแรงระยะเวลาสั้นเท่านั้น
สมุนไพรที่ใช้สำหรับยาประเภทนี้ก็ล้ำค่ามาก เขาต้องเสียของที่เก็บไว้ไม่น้อย กว่าจะกลั่นยาออกมาได้หม้อเดียว ยาสำเร็จรูปสามเม็ด
ลองทดสอบฤทธิ์ยาเล็กน้อย เป็นเหมือนกับที่บอกไว้ในสูตรการกลั่นยา ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นพื้นฐาน ยกระดับความทนทานของร่างกาย รวมไปถึงพลังและความเร็ว
หรือเรียกว่ายิ่งร่างกายแข็งแกร่งเท่าไร ประโยชน์ของยาก็ยิ่งมากขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยามีข้อจำกัด ยกระดับความแข็งแกร่งของร่างกายได้มากสุดแค่แดนปราณชีวิตขั้นสูงสุด งั้นยาชนิดนี้ ถึงเป็นนักบู๊แดนปราณฟ้าก็ต้องแย่งชิงมันมา
เมื่อผลักประตู กลิ่นแรกที่ตีเข้าหน้าคือกลิ่นหอมอาหาร
โต๊ะแปดเซียน เก้าอี้หวาย ถ้วยตะเกียบที่ทำจากหยก อาหารรสเลิศเต็มโต๊ะ
อู่คงหลิงที่สวมผ้าปิดหน้ากำลังจัดเตรียมอาหาร เมื่อเห็นลู่ฝานออกมา ก็ยิ้มจนตาเป็นสระอิ
“คุณชายลู่ตื่นแล้วเหรอ มาชิมฝีมือฉันสิ”
ลู่ฝานมองอู่คงหลิงอย่างสงสัย ไม่กล้าเดินเข้ามา
ลู่ฝานอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “เธอทำอาหารเป็นเหรอ”
อู่คงหลิงพูดอย่างได้ใจว่า “แค่ฝีมือเล็กๆ น้อยๆ จะทำไม่เป็นได้ยังไง คุณชายลู่มาชิมฝีมือฉันสิ”
ลู่ฝานเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้หวาย
ลู่ฝานมองอู่คงหลิง รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
อาหารตรงหน้าดูประณีตมาก ดูจากสีและกลิ่น ต้องเป็นระดับเชฟใหญ่แน่นอน
ลู่ฝานเงยหน้ามองอู่คงหลิงแล้วพูดว่า “ทำไมเธอต้องทำอาหารให้ฉันกินด้วย”
อู่คงหลิงพูดว่า “คุณชายลู่ ฉันรู้ว่าครั้งแรกที่เราเจอกันมันไม่ดีไปหน่อย แต่ฉันอยากซ่อมแซมความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้นฉันจึงทำอาหารเพื่อเป็นการขอโทษนาย คิดว่าคุณชายลู่จะให้อภัยฉัน ชิมสิคุณชายลู่ฝาน”
ลู่ฝานหัวเราะเหอะๆ พูดในใจว่าถ้าง่ายขนาดนี้ก็ดีสิ
ลู่ฝานไม่ได้หยิบตะเกียบ ทำเพียงแค่มองอู่คงหลิงแล้วพูดว่า “คุณอู่คงหลิง ฉันจะพูดอีกหนึ่งรอบ ฉันไม่ใช่คนที่เดินเส้นทางเดียวกับพวกเธอ ป้ายที่มีในมือก็แค่คนให้มาเท่านั้น ฉันไม่อยากมีความสัมพันธ์แปดเปื้อนกับพวกเธอสักนิด เธอไม่ต้องตามฉัน ฉันหวังว่าเราจะรักษาระยะห่างกันได้”
แววตาอู่คงหลิงฉายแววคับแค้นใจ “คุณชายลู่ฝาน คุณชายพูดแบบนี้ทำให้ฉันเสียใจมาก ฉันขอโทษไม่จริงใจพอหรือไง”
ลู่ฝานส่ายหน้า “ไม่จำเป็น”
อู่คงหลิงพูดว่า “ฉันคิดว่าจำเป็นมาก คุณชายลู่ฝาน พูดตามตรงนะ นายคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอว่ามีคนให้ป้ายคำสั่งนี้กับนาย นายรู้ไหมว่าป้ายนี้ล้ำค่าขนาดไหน ต้องมีความสามารถแค่ไหนถึงจะได้มันมา”
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ไม่รู้!”