เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 557
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 557
เลือดสดหยดหนึ่งซึมออกมา ในเลือดสดมีออร่าลึกลับแผ่ซ่านไปทั่ว ทันใดนั้นเลือดสดหายไปจนหมด ราวกับโดนฟ้าดินกลืนกินไปอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อปล่อยมือออกจากกัน แววตาของกวนหานแปรเปลี่ยนเป็นแววตากระหายเลือด เขายิ้มเห็นฟันขาวน่ากลัว กวนหานพูดว่า “ลู่ฝาน ฉันเชื่อว่าเลือดสารจำเป็นของนาย ทำให้พละกำลังของฉันเพิ่มขึ้นไม่น้อย”
มือลู่ฝานสั่นเบาๆ คำพูดของกวนหานคือการกระทำของผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายชัดๆ
ปฏิกิริยาแรกของลู่ฝานคือตรวจสอบว่าป้ายคำสั่งในแหวน มีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า
ทันใดนั้น ลู่ฝานพบว่าป้ายคำสั่งสั่นเพียงเล็กน้อย เหมือนโดนกระตุ้น
ดูเหมือนป้ายคำสั่งอาศัยความมากน้อยของออร่าชั่วร้าย ในการเกิดปฏิกิริยา แต่นี่เพียงพอที่จะยืนยันว่ากวนหานเป็นผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
ให้ตายเถอะ ในเมืองตงหวามีผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายเยอะขนาดนี้เลยเหรอ
ถ้าบอกว่าคนอื่นมองผู้ฝึกชั่วร้ายไม่ออก แม้แต่สายตาและความสามารถของหัวหน้าเขตอี้ว์ ก็ดูไม่ออกเหมือนกันเหรอ
ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัว ลู่ฝานพลิกมือใช้กระบี่โจมตีออกไป
ไม่ลังเล ไม่ให้กวนหานมีโอกาสตั้งตัว ใช้กระบี่โจมตีออกไป แสงสายฟ้าเต็มไปหมด ใช้กระบี่เพลิงทองสายฟ้าออกมาทันที!
จากความสามารถของลู่ฝานในตอนนี้ จู่โจมเพียงกระบี่เดียว มีสายฟ้าออกมาเกือบครึ่งลานประลองบู๊
กวนหานก็ปล่อยพลังปราณอันแข็งแกร่งออกจากตัว ฝ่ามือขวากลายเป็นสีฟ้าเย็นยะเยือก
ฉึบ กวนหานใช้สองนิ้วรับกระบี่ของลู่ฝาน สายฟ้าพาดผ่านไป กวนหานไม่ขยับไปไหน
ในดวงตาแดงก่ำ กวนหานพูดเบาๆ ว่า “แช่แข็งสรรพสิ่ง!”
พลังปราณเย็นยะเยือกถึงกระดูกพุ่งขึ้นมาจากใต้เท้า อุณหภูมิความร้อนรอบๆ ลดลงทันที
ผู้ชมจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าตัวเองเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนลมหนาวพัดผ่านมา
ลู่ฝานรู้สึกว่าเส้นลมปราณชี่ของตัวเองใกล้โดนแช่แข็ง เคล็ดวิชาบู๊ของกวนหานดูคล้ายกับหุ่นเชิดวิญญาณ
ปราณชี่พุ่งขึ้นมา ลู่ฝานหันหลังถอยไปหลายก้าว
ฝ่าเท้าก้าวเดินแบบจิ่วกง กระบี่ไร้คมโจมตีออกมาอีกครั้ง
กระบี่ฆ่าพิชิตฟ้า!
กระบี่ประชิดตัว ปราณพลุ่งพล่าน
กวนหานยังคงชูมือขวาอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน จากนั้นแตะลงกลางอากาศ
เหมือนบังเอิญแต่ก็ไม่ได้บังเอิญ นิ้วของเขาผ่านตัวอักษรคำว่าฆ่าทั้งเจ็ดตัว จากกระบี่ของลู่ฝาน แล้วแตะลงบนกระบี่ไร้คม
ลู่ฝานใช้พลังทั้งหมดกดลงไปด้านล่าง พบว่ามือของกวนหาน เหมือนภูเขาลูกใหญ่ ไม่ขยับไปไหนแม่นิดเดียว
“พลังของนายน้อยไปหน่อยนะ!”
กวนหานแสยะยิ้มเย็นชาแล้วเอ่ยขึ้น
ลู่ฝานตกใจเล็กน้อย เขากินยาวิญญาณแปรเปลี่ยนชีวิตไปแล้ว แต่พลังยังเทียบกวนหานไม่ได้ เขาประเมินกวนหานต่ำไป
พื้นด้านล่างเท้าเป็นน้ำแข็ง มือซ้ายของกวนหานกลายเป็นหมัดโจมตีออกมา
หมัดไม่ได้เร็ว แต่มีพลานุภาพพลุ่งพล่าน
อีกทั้งวิชาหมัดของเขา ทำให้ลู่ฝานรู้สึกว่าไม่ว่าจะหลบอย่างไร ก็โดนโจมตี ความรู้สึกประหลาดแบบนี้ ต้องเป็นพลังที่มาจากวิถีใดวิถีหนึ่งแน่นอน
ลู่ฝานรีบตัดสินใจใช้เขตวิถีบนกระบี่หนักไร้คม
เมื่อเห็นแขนของกวนหานลดลดต่ำลง ลู่ฝานใช้โอกาสนี้เตะลงบนท้องกวนหาน
เตะอันทรงพลัง ที่ทำให้เขาถล่มหินกระจาย แต่กวนหานไม่ขยับไปไหนเลย รับมันไว้อย่างฝืน กลับเป็นลู่ฝานที่โดนแรงสะท้อนกลับจนถอยหลังไปสิบก้าว ยืนโงนเงน แต่ก็ใช้โอกาสนี้หลบพลังหมัดของกวนหาน
“พลังเขตวิถี กระบี่ดี ฉันขอเก็บกระบี่เล่มนี้ของนายไว้ละกัน”
กวนหานมองกระบี่ไร้คมในมือลู่ฝานด้วยแววตาโลภ
ลู่ฝานตกใจว่าทำไมร่างกายกวนหานทนทานขนาดนี้ ไม่เหมือนพลังป้องกันที่นักบู๊แดนปราณชีวิตควรมี
กวนหานง้างมือใส่ลู่ฝาน พลังสีฟ้าเย็นยะเยือกพุ่งขึ้นมาบนแขนเขาอีกครั้ง