เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 570
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 570
แววตาลู่ฝานฉายแววประหลาด ศิษย์พี่หานเฟิงหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “นายทำธุรกิจเก่งจริงๆ รู้ว่าศิษย์น้องลู่ฝานฉันมีอนาคตก้าวไกล ก็เข้ามาทำความรู้จักฉันเร็วขนาดนี้ ธุรกิจนี้ของนายคุ้มค่ามาก บ้านที่ให้ก็ดี”
ไอ้อ้วนเจิงโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้ให้หรอกครับ แต่คุณชายลู่สมควรได้รับ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “หมายความว่ายังไง”
ไอ้อ้วนเจิงพูดว่า “คุณชายลู่ คุณต่อสู้ที่ลานประลองบู๊ทิศตะวันของเรา ทำให้ลานประลองบู๊ของเราเป็นกระแสขึ้นมา ทำเงินได้ ตามกฎแล้วรายได้ของการต่อสู้ครั้งนี้ควรแบ่งให้นายกับกวนหานคนละ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่กวนหานตายไปแล้ว จึงไม่ต้องจ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นส่วนของเขา รายได้ 40 เปอร์เซ็นต์รวมไว้ในบัญชีของนายทั้งหมด ผมคิดว่าคนหนุ่มมีความสามารถอย่างคุณชายลู่ฝาน คงไม่สนใจของล้ำค่าหรือเงิน แต่คุณชายลู่ฝานมาเมืองตงหวาได้ไม่นาน คิดว่าน่าจะยังไม่มีอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจซื้อบ้าน มอบให้คุณชายลู่ฝานเอาไว้ตั้งรกราก”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “คุณเจิงอุตส่าห์คิดถึงเรื่องนี้ ฉันกำลังต้องการคฤหาสน์ไว้ตั้งรกรากพอดี”
รอยยิ้มได้ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าไอ้อ้วนเจิง เห็นได้ชัดว่าพอใจกับความคิดของตัวเองมาก
หึหึ ตระกูลอื่นให้เงินของล้ำค่า ยาสมุนไพรตั้งมากมาย แต่เทียบกับบ้านเล็กๆ ของเขาไม่ได้เลย
นี่เรียกว่าได้ใจเต็มๆ นี่เรียกว่าสายตาหลักแหลม
ไอ้อ้วนเจิงผายมือขวาแล้วพูดว่า “ดีมากครับๆ มาครับคุณชายลู่ ผมจะพานายดูคฤหาสน์ใหม่ของนาย”
ทั้งสามคนเดินเข้าไปในจวน ลานบ้านใหญ่มาก
แค่ลานด้านหน้าแทบจะเท่ากับคฤหาสน์บ้านเกิดของลู่ฝานแล้ว
เป็นคฤหาสน์ที่มีประตูสามประตู แต่ขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าเป็นสิบเท่า บ้านใหญ่พอ ห้องก็ยิ่งสวย
เป็นบ้านของเมืองใหญ่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือการออกแบบ ดูเหมาะสม ดูดีและสบายกว่ามาก
ลู่ฝานเดินๆ หยุดๆ มองศาลาริมน้ำยืดยาวออกไป มองเรือนหนังสือหอตั้งเรียงราย รู้สึกพอใจมาก
ไอ้อ้วนเจิงพูดแนะนำอยู่ข้างๆ “เดิมทีคฤหาสน์หลังนี้ เป็นคฤหาสน์ของหลี่ฟู่ทง ผู้แข็งแกร่งแดนปราณดินที่มีชื่อเสียง แต่ฤดูใบไม้ผลิปีนี้ หลี่ฟู่ทงเสียชีวิตข้างนอก หลังจากนั้นคนตระกูลหลี่แยกกันไปคนละทิศคนละทาง ไม่นานก็ล่มสลาย คฤหาสน์หลังนี้ก็เปลี่ยนมือ คุณชายลู่ มีตรงไหนไม่ถูกใจหรือเปล่าครับ ให้คนรื้อซ่อมใหม่ได้เลย ลูกน้องพวกนี้ก็เป็นคนใช้เก่าของตระกูลหลี่ คุณชายลู่สามารถจัดการได้เลย”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ ใช้สถานที่นี้เป็นที่ตั้งรกรากของคนตระกูลลู่ก็ไม่เลว
ไอ้อ้วนเจิงมองแววตามีรอยยิ้มของลู่ฝาน เขารู้ว่าครั้งนี้ตัวเองพนันถูกแล้ว ที่ทำความรู้จักกับลู่ฝาน ต่อไปเขาจะมีคนพึ่งอีกหนึ่งคน
แน่นอนว่าไอ้อ้วนเจิงไม่มีทางบอกความจริงกับลู่ฝาน มูลค่าของคฤหาสน์หลังนี้สูงกว่ารายรับ 40 เปอร์เซ็นต์เยอะมาก
จุดนี้เขาเชื่อว่าคนฉลาดอย่างลู่ฝานต้องดูออกอย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงหลังจากลู่ฝานเดินเล่นในลานด้านหน้าเสร็จ เขารู้อยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆ อย่างรู้กัน ศิษย์พี่หานเฟิงพูดวิจารณ์คฤหาสน์ตลอดทาง
“พอได้อยู่ พอพูดกันได้ ศิษย์น้องลู่ฝาน จำไว้ว่าต้องเหลือห้องส่วนตัวให้ฉันด้วย ไม่แน่ต่อไปฉันอาจมาเที่ยวบ่อยๆ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “เหลือห้องให้พี่สองห้องยังได้เลย”
ตอนที่พวกเขากำลังจะเดินเสร็จ นักบู๊คนหนึ่งเดินมาจากลานด้านหน้า
นักบู๊เห็นลู่ฝานจากไกลๆ คารวะแล้วพูดว่า “คุณชายลู่ หัวหน้าเขตอี้ว์เชิญคุณครับ”
ลู่ฝานชะงักฝีเท้า หันหลังเดินไปหานักบู๊ ไอ้อ้วนเจิงมองเสื้อผ้าบนตัวนักบู๊ ก็รีบพูดอย่างนอบน้อม “คุณท่านจวนหัวหน้าเขตนี่เอง เสียมารยาทแล้วๆ”