เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 573
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 573
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง
จู่ๆ ลู่ฝานส่ายหน้ายิ้มขมขื่น “ฟังดูแล้ว ผมรู้สึกว่าทำไมผมซวยขนาดนี้”
หัวหน้าเขตอี้ว์พูดขึ้นมาว่า “ความซวยของนายคือโชคดีของฉัน”
ลู่ฝานมองหัวหน้าเขตอี้ว์แวบหนึ่ง สีหน้ายิ่งกลุ้มเข้าไปอีก
“งั้นตอนนี้จะทำยังไง ท่านหัวหน้าเขตจะจับผมส่งสำนักเทพวิญญาณเลยไหม”
เหมือนลู่ฝานพูดติดตลก แต่ในความเป็นจริง เขาเริ่มตะโกนเรียกเจ้าดำที่อยู่ในจวนอากาศธาตุแล้ว
หัวหน้าเขตอี้ว์จ้องลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายคิดมากเกินไปแล้ว”
ชิวซานพูดต่อ “เราไม่ใช่สุนัขรับใช้ของสำนักเทพวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อเขา มานี่สิลู่ฝาน นายเก็บนี่เอาไว้”
พูดพลาง ชิวซานยื่นกระบี่กลืนทิพย์ในมือให้ลู่ฝาน
ลู่ฝานอึ้งเล็กน้อย “นี่มันอะไรกัน”
หัวหน้าเขตอี้ว์หัวเราะแล้วพูดว่า “กระบี่เล่มนี้เราเก็บไว้ก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีมันควรเป็นรางวัลของนาย แต่ฉันขอเตือนนาย กระบี่เล่มนี้อาจมีรอยประทับของผู้แข็งแกร่งสักคนของสำนักเทพวิญญาณ ถ้านายเก็บไว้กับตัว ระวังโดนวิชาของผู้แข็งแกร่งสำนักเทพวิญญาณ ในสำนักเทพวิญญาณ มีผู้ฝึกชี่อยู่ไม่น้อย”
ลู่ฝานก่นด่าในใจ ประโยคสุดท้ายนี่สิคือเหตุผลที่แท้จริง
แต่ลู่ฝานก็ไม่สนใจ เดี๋ยวกลับไปเอากระบี่เล่มนี้ให้เจดีย์เสวียนเก้ามังกรกลืนกิน
ลู่ฝานถามขึ้นในใจทันที “ไอ้เก้า สิ่งนี้กลืนกินได้ไหม”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบพูดว่า “ได้แน่นอน เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายให้ฉันกลืนกินมัน ฉันเดาว่าจะฟื้นฟูพลังได้ไม่น้อย ถึงตอนนั้นถ้าผู้แข็งแกร่งสำนักเทพวิญญาณมา ก็สามารถปกป้องเจ้านายได้”
คำพูดของไอ้เก้า ลู่ฝานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ฟังเอาไว้
ลู่ฝานเอากระบี่โยนใส่เข้าไปในจวนอากาศธาตุ
หัวหน้าเขตอี้ว์พูดว่า “ลู่ฝาน ตอนนี้ฉันจะถามนายอีกรอบ นายรีบยอมเป็นคนตระกูลอี้ว์มั้ย แม้จวนหัวหน้าเขตเทียบสำนักเทพวิญญาณไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็อยู่ในฐานะข้าราชการ พวกเขาไม่บุกเข้ามาในจวนหัวหน้าเขต เพียงเพราะศิษย์ในนามแค่คนเดียวหรอก อย่างน้อยรับประกันว่านายจะอยู่ในเมืองตงหวาอย่างปลอดภัย”
ลู่ฝานถอนหายใจ “หัวหน้าเขตอี้ว์ ผมพูดตรงๆ อันที่จริงในสถาบันสอนวิชาบู๊ ผมมีคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงอีก”
หัวหน้าเขตอี้ว์ขมวดคิ้ว “ยังไม่ได้แต่งงาน ทำไมถึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เธอเป็นศิษย์สำนักไหน”
ลู่ฝานส่ายหน้า “เหมือนจะไม่มีสำนัก”
หัวหน้าเขตอี้ว์ถามอีก “งั้นเป็นคุณหนูตระกูลสูงส่งตระกูลไหน”
ลู่ฝานส่ายหน้าอีก “เหมือนว่าจะไม่ใช่เหมือนกันครับ”
เสียงของหัวหน้าเขตอี้ว์แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “แล้วทำไมไม่เปลี่ยนล่ะ ลู่ฝาน นายน่าจะรู้ว่าเลือกทางไหนถึงจะถูกต้อง”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ผมรู้”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของหัวหน้าเขตอี้ว์ดูดีขึ้นไม่น้อย “ฉันให้เวลานายอีกสักพัก ให้นายได้เปลี่ยนแปลง”
ลู่ฝานส่ายหน้า “ไม่ครับ ท่านหัวหน้าเขต ผมจะบอกว่าผมรู้ว่าไม่เลือกเป็นคนตระกูลอี้ว์ คือสิ่งที่ถูกต้องครับ”
ชิวซานหัวเราะออกมา ไม่ไว้หน้าหัวหน้าเขตอี้ว์สักนิด
หัวหน้าเขตอี้ว์เบิกตามองลู่ฝาน ส่วนลู่ฝานก็มองหัวหน้าเขตอี้ว์อย่างไม่อ่อนข้อให้เช่นกัน
ทั้งสองคนจ้องกันอยู่นาน เหมือนจะทะเลาะกัน ในที่สุดลู่ฝานพูดว่า “ท่านหัวหน้าเขต ผมขอตัวก่อน”
พูดจบ ลู่ฝานลุกขึ้น
หัวหน้าเขตอี้ว์สะบัดมือพูดว่า “ไสหัวไปซะๆ ไอ้เด็กเวร อย่ามาเสนอหน้าต่อหน้าฉัน”
ลู่ฝานลุกขึ้นเดินไปข้างนอก แต่ยังไม่ทันเดินออกจากห้อง หัวหน้าเขตอี้ว์พูดขึ้นมาอีกว่า “ลู่ฝาน ช่วงนี้อยู่จวนหัวหน้าเขตไปก่อนสิ นายจะสอบผู้ตรวจการชั้นกลางไม่ใช่เหรอ”