เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 63
คืนวันเดียวกัน ตระกูลลู่ เปิดไฟสว่างไสว
ในห้องหนังสือ ผู้นำตระกูลลู่เรียกรวมสมาชิก ลู่เฮ่าหรานยิ้ม มองลู่ฝานกินอย่างตระกละ แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน กินช้าๆ หน่อย ของกินมีเยอะแยะ”
ลู่ฝานพยักหน้าพลาง “ต่อสู้” กับเจ้าดำไปพลาง คนกับสัตว์กินอาหารเต็มโต๊ะอย่างสบายใจ ฝึกในเขาเกือบครึ่งปี วันๆ กินแต่เนื้อย่าง ผลไม้ป่า แม้ฝีมือจะดีขนาดไหน แต่ก็กินจนจะอ้วกออกมา กว่าจะกลับมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องกินอาหารรสเลิศของพ่อครัวให้เยอะหน่อย
เจ้าดำแทบจะใช้ขาทั้งสี่ข้าง มันไม่เคยกินของอร่อยขนาดนี้มาก่อน ตามเจ้านายมา เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด
ลู่เฮ่าหรานส่ายหน้า ดูเหมือนการฝึกฝนระยะนี้ ทำให้ลู่ฝานตะกละมาก
ลู่เฮ่าหรานหันไปพูดกับลู่หมิง “ลู่หมิง เล่าเรื่องโดยรวมให้ลู่ฝานฟังอีกครั้งสิ”
ลู่หมิงมองลู่ฝานกินอย่างเอร็ดอร่อย ด้วยสายตาดูหมิ่นเล็กน้อย เมื่อได้ยินลู่เฮ่าหรานพูด จึงเล่าเหตุการณ์ออกมาอีกรอบ
เมื่อเขาพูดจบ ลู่ฝานกินได้พอประมาณแล้ว
อาหารเต็มโต๊ะ สลายหายไปในพริบตา เจ้าดำลูบท้องป่องของตัวเอง ด้วยสีหน้าพอใจ
ลู่ฝานเช็ดปาก แล้วพูดว่า “ตระกูลโม่ใช้วิธีต่ำขนาดนี้เลยเหรอ พละกำลังของน่าหลานรั่วเป็นยังไงบ้าง”
ลู่หมิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงพูดว่า “ปราณในชั้นสุดยอด ครูที่ออกมาทำงานข้างนอก ล้วนอยู่ในแดนปราณในทั้งนั้น”
ลู่ฝานพยักหน้า แล้วพูดว่า “ไม่ใช่แดนปราณนอกก็ดีแล้ว กลัวเขาทำไม ผมอยากดูว่าเขาจะขัดขวางผมยังไง”
ลู่เฮ่าหรานขมวดคิ้ว พูดว่า “ลู่ฝาน อย่าประมาท ตอนนี้พละกำลังของนายเป็นยังไง น่าจะอยู่ในแดนฝึกร่างชั้นเก้าระดับสูงสุดใช่ไหม บนตัวมีบาดแผลหรือเปล่า”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ พูดคลุมเครือ “แดนฝึกร่างชั้นเก้าเหรอ ทำได้แน่นอน บนตัวไม่มีบาดแผล”
ได้ยินดังนั้น ลู่เฮ่าหราน ลู่หาวและคนอื่นถอนหายใจอย่างโล่งอก ช่วงนี้พวกเขากลัวว่าลู่ฝานจะฝึกจนร่างกายได้รับบาดเจ็บเป็นที่สุด
แค่ลู่ฝานไม่เป็นอะไร เรื่องอื่น สามารถไกล่เกลี่ยกันได้
เอาของไปให้เขา แล้วคุยกันสักหน่อย ดูว่ายังมีที่ให้ผ่อนปรนหรือไม่ สิ่งที่ตระกูลโม่ให้เขาได้ ไม่มีอะไรนอกจากเงิน สมบัติ เรื่องนี้ถึงตระกูลลู่เทียบไม่ได้กับตระกูลโม่ แต่ก็มีอยู่เหมือนกัน ลู่ฝานเพิ่งฝึกกลับมา พักผ่อนก่อนสักวัน ถ้าฉันต่อรองไม่สำเร็จ
ลู่ฝานอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่โดนลู่หาวขัดเอาไว้
ลู่หาวตบไหลลู่ฝาน แล้วพูดว่า “พักผ่อนเต็มที่สักวัน ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นมาก”
ลู่เฮ่าหราน ลู่หาว ลู่เฟิง ลุกออกไป เหมือนจะไปทางสวนด้านหลังตระกูลลู่
ลู่หมิงไม่ได้ไป มองลู่ฝานด้วยแววตาเย็นชา
เมื่อเห็นลู่เฮ่าหรานและคนอื่นออกไปจนลับตา ลู่หมิงพูดว่า “ลู่ฝาน นายรู้ไหมว่าตอนนี้พวกคุณปู่ไปไหน”
ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ เหมือนจะไปทางสวนด้านหลัง”
ลู่หมิงพูดต่อ “ถูกต้อง สวนด้านหลัง แต่พวกเขาไม่ได้ไปคุยกัน แต่ไปเอาของจากโกดังสมบัติด้านหลัง นายควรจะรู้ไว้นะ เพราะเรื่องของนาย ตระกูลอาจต้องเสียเงินก้อนโต ถึงขนาดเป็นสิ่งที่สะสมเอาไว้หลายปี หรือเป็นสิบปี”
ลู่ฝานอึ้งไปเล็กน้อย ลู่หมิงลุกขึ้นยืน มองลู่ฝานเขม็ง แล้วพูดว่า “ไม่มีใครรู้ว่าเสียเงินก้อนโตเพราะนาย จะคุ้มค่าหรือไม่ ลู่ฝาน นายบอกฉันมาตามตรง ผลการฝึกตนของนาย ได้มาจากเส้นทางชั่วร้ายหรือเปล่า”
พูดพลาง ลู่หมิงเอากระบี่ยาวออกมาจากแขนเสื้อ ปลายแหลมของกระบี่ จ่ออยู่ที่คอลู่ฝาน
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ผลการฝึกตนของฉัน ล้วนมาจากการฝึกฝนอย่างหนัก ทำไมถึงพูดว่ามาจากเส้นทางชั่วร้ายได้”
ลู่หมิงพูดว่า “เวลาแค่ไม่กี่เดือน จากฝึกร่างระดับต่ำ พุ่งไปถึงแดนฝึกร่างระดับสูง ถ้าไม่มีเส้นทางชั่วร้าย นายจะทำได้อย่างไร”
ลู่ฝานพูดว่า “ฝึกหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย แค่นี้เท่านั้นเอง”
ลู่หมิงพูดว่า “ฉันไม่เชื่อ”
ลู่ฝานพูดว่า “ตอนแรก ฉันไม่เชื่อเหมือนกัน”
ทั้งสองมองตากัน แววตาลู่ฝานแน่วแน่ ลู่หมิงกลับแววตาวูบไหวเสียเอง
ทันใดนั้น ลู่หมิงวางกระบี่ลง ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน หวังว่าเงินของตระกูลที่เสียให้นาย จะเป็นประโยชน์ ครั้งนี้ตระกูลต้องสละให้นายมาก นายอย่าทำให้ตระกูลผิดหวัง”
ลู่หมิงพูดจบ เก็บกระบี่ เตรียมจะออกไป
ลู่ฝานพูดเบาๆ ว่า “ลู่หมิง ทำไมนายต้องช่วยฉัน”
ลู่หมิงหันมาพูดว่า “ฉันไม่ได้ช่วยนาย ฉันช่วยตระกูล ตอนนี้นายเป็นหน้าเป็นตาของตระกูล ถ้านายทำให้อับอาย ตระกูลลู่ก็จะอับอายตามทั้งตระกูล ฉันรังเกียจคนที่ทำให้ตระกูลขายหน้า”
ลู่ฝานหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “ที่แท้นี่เป็นเหตุผล ที่นายดูหมิ่นฉันในตอนแรก ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว นายวางใจเถอะ ฉันไม่ต้องการให้ตระกูลสละอะไรเพื่อฉัน และไม่ทำให้ตระกูลขายหน้าด้วย”
ลู่หมิงมองลู่ฝาน ส่ายหน้าหัวเราะ แล้วพูดว่า “ปัญญาอ่อน นายคิดจะไม่ไปสถาบันสอนวิชาบู๊เหรอ”
ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบ “ฉันจะไปสถาบันสอนวิชาบู๊อยู่แล้ว จะอาศัยพละกำลังของฉันเอง”
ลู่หมิงมองลู่ฝานใจเย็นและนิ่งดั่งน้ำ เริ่มมีความเชื่อมั่นผุดขึ้นมาในใจ
ลู่หมิงพูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “หวังว่านายจะทำได้ ลู่ฝาน ขอถือโอกาสพูดอีกสักประโยค ฉันยังคงเกลียดนายมาก”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “บังเอิญจัง ฉันก็ยังเกลียดนายมากเหมือนกัน”
ทั้งสองสบตากัน แล้วหัวเราะออกมา ลู่หมิงเดินออกไป
ลู่ฝานเอาเจ้าดำวางไว้บนโต๊ะ แล้วพูดกับเจ้าดำว่า “แกว่าพรุ่งนี้ น่าหลานรั่วจะขวางฉันไหม”
เจ้าดำท่าทางสับสน ลู่ฝานลูบคาง แล้วพูดว่า “ทำไม ฉันรู้สึกคาดหวังเล็กน้อยนะ”
……